ปรับโฉมใหม่ฉลองครบ15ปี Google Maps

Google เฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปี Google Maps ปรับโฉมไอคอนใหม่พร้อมอัพเดตลูกเล่นอีกมากมาย วินาทีนี้น้อยคนนักที่จะไม่รุ้จัก Google Maps ที่หลายคนได้ยกให้เป็นนักอัจฉริยะการนำทาง นับจากการก่อตั้งตั้งแต่ปี 2005 จนถึงปัจุบัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น Google ก็ได้พัฒนาและอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ๆให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานอยู่เสมอ เพื่อให้ได้เป็นที่ยอมรับและเป็นตัวช่วยการนำทางแรกที่ผู้คนนึกถึงเมื่อต้องการเดินทาง และแล้วปี 2020 นี้ก็มาถึง เป็นปีที่เฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ที่ Google Maps อายุครบ 15 ปีบริบูรณ์  แน่นอนว่า Google ไม่พลาดที่จะจัดเต็มอัพเดตลูกเล่นใหม่ๆให้กับผู้ใช้งานทั้งระบบ ios และ Android ได้เตรียมตัววางเเพลนการเดินทางได้ง่ายยิ่งขึ้น ไปดูกันว่า Google Maps โฉมใหม่นี้ มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง ปรับโฉมโลโก้ใหม่ ด้วยสีสันที่มากขึ้น หากใครสังเกต Icon Google Maps บนหน้าจอสมาร์ทโฟนจะเห็นว่าหน้าตาไอคอนดูหน้าตาเปลี่ยนไป จากสัญลักษณ์ pin สีแดงที่เป็นเอกลักษณ์ จนกลายเป็นโฉมใหม่ในปัจจุบัน ด้วยสีสันที่เพิ่มขึ้น โดยเป็นการเล่นสีล้อกับโลโก้ Google ที่มาที่ไปของโฉมใหม่ก็คือการสะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการการตั้งแต่ Google ได้ทำการ map สถานที่ต่างๆบนโลก ตั้งแต่เริ่มการปักหมุด (the pin) และสื่อถึงการเคลื่อนที่ (shift) ที่ Google Maps พาคุณไปยังจุดหมายปลายทางเพื่อพบสถานที่และประสบการณ์ใหม่ๆที่รอให้คุณได้สัมผัส Google Map Icon Evolution เพิ่มเติม 5 แถบมหัศจรรย์ พบกับการอัพเดตแถบใหม่ที่มีเพิ่มขึ้นถึง 5 แถบด้วยกัน โดยจะปรากฎอยู่ที่ด้านล่างของหน้า Google Maps เรียกได้ว่ามีทุกอย่างที่คุณต้องการแน่นอนแค่สัมผัสเพียงปลายนิ้ว มีอะไรบ้างไปดูกัน Explore ค้นหาสถานที่ใกล้เคียงกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า และอีกมากมาย และยังสามารถดูเรทติ้งหรือรีวิวสถานที่ที่มีมากกว่า 200 ล้านสถานที่บนโลก ได้อีกด้วย Commute ไม่ว่าจะเลือกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถโดยสารสาธารณะ แถบ commute นี้จะทำหน้าที่หาเส้นทางที่ดีที่สุดให้คุณ  คุณตั้งค่าการเดินทางประจำวัน...

Continue reading

รู้หรือไม่? Zopim live chat ถูกพัฒนาเป็น Zendesk Chat แล้ว

Zopim live chat คือ แพลตฟอร์มการแชทพูดคุยกับลูกค้าแบบเรียลไทม์ (Real-Time) บนเว็บไซต์ ที่ถูกคิดค้นและก่อตั้งโดยกลุ่มนักศึกษาชาวสิงคโปร์ของมหาวิทยาลัย NUS (National University of Singapore) ซึ่งระบบ Zopim เหมาะสำหรับธุรกิจออนไลน์หรือธุรกิจที่ต้องสื่อสารกับลูกค้าตลอดเวลา เพื่อทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจ และได้รับการบริการที่ทันท่วงที และที่พิเศษกว่านั้นยังมีการเก็บสถิติของลูกค้าที่เข้ามาชมเว็บไซต์ในแต่ละหน้าได้อีกด้วย ซึ่งทาง Zendesk เห็นถึงความสามารถของระบบและการบริการนี้ จึงได้ซื้อมากิจการมาในปี คศ. 2014 เพื่อพัฒนาต่อในชื่อของ Zendesk Chat ซึ่งทีมของ Zopim ในสิงคโปร์ก็ได้เข้ามาร่วมงานกับทาง Zendesk และได้พัฒนาระบบร่วมกันต่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพฟีเจอร์ต่างๆให้เข้ากับกลุ่มธุรกิจใน Zendesk มากขึ้น เช่น จะสามารถเห็น Customer Journey หรือ ทาง Zendesk Chat เรียกว่า Visitor Path ของลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อดูพฤติกรรมต่างๆ และลดการถามคำถามซ้ำในสิ่งที่ลูกค้ารับรู้จากการไปหน้าเว็บไซต์ของเรามาแล้ว เพื่อทำให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจมากที่สุด www.chattooltester.com/reviews/zopim-review/ และยังมีระบบสร้าง Triggers เป็นข้อความ Popup อัตโนมัติไปยังลูกค้าที่อยู่หน้าเว็บไซต์นานๆ เพราะระบบของ Zopim หรือ Zendesk Chat เนี่ย คิดว่าลูกค้าอาจจะมีความลังเลในการตัดสินใจหรือมีคำถามบางอย่างที่ยังหาคำตอบไม่ได้จึงได้ค้างอยู่หน้าเว็บไซส์ของเรา ซึ่งทางฟีเจอร์ตัวนี้ จะทำให้ลูกค้าได้รับความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่ลูกค้าจะออกจากหน้าเว็บไซส์ของเรา ทดลองใช้ Zendesk trial ฟรี สอบถาม ราคา Zendesk ติดต่อ บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการระบบ Zendesk ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ – Zendesk Thailand Partner สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมราคา Zendesk พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ โทร. 02-030-0066 096-804-5482 (คุณยิ่ว), 097-187-7302 (คุณเล็ก), 092-262-0475 (คุณตอง) support@dmit.co.th Line Official...

Customer Journey vs. Customer Experience

Customer Journey vs. Customer Experience ในยุคปัจจุบันที่ช่องทางเข้าถึงลูกค้ามีมากมายหลายช่องทาง ลูกค้าไม่ได้เริ่ม Customer Journey ที่เดินเข้าไปดู เลือก และซื้อสินค้าเพียงในร้านค้าอีกแล้ว กว่าครึ่งของการตัดสินใจเลือกซื้อทั้งหมดเริ่มต้นที่ออนไลน์  หากแต่เทรนด์การตลาดดิจิตัลทุกวันนี้ไม่ได้หยุดเพียงช่องทางการซื้อที่หลากหลายเท่านั้น แต่เป็น Customer Experience หรือการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า เนื่องจากลูกค้าในยุคปัจจุบันไม่ได้ตัดสินใจที่สินค้าหรือบริการเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่จะได้รับมากขึ้น แม้จะต้องจ่ายในราคาแพงขึ้น ก็ยินยอม การพัฒนา Customer Experience (CX) จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่มัดใจลูกค้า และนำไปสู่อีกขั้นของความสำเร็จได้    “การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ หากแต่การเข้าใจการเดินทางของลูกค้า ร่วมกับพัฒนาประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่าง คือปัจจัยที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว้าว ประทับใจสุดๆ ได้เลยทีเดียว” มาดูวิธีปรับให้ไม่ตกยุคปี 2020 กัน   1. เพราะโทรศัพท์มือถือคือเครื่องมือสู่ความประทับใจแรกพบ ทราบหรือไม่? 70% ของ Traffic ที่มากที่สุดในโลกมาจากโทรศัพท์มือถือ 61% ของลูกค้าอ่านอีเมลบนมือถือ และกว่า 95% ของผู้ใช้ Facebook ก็กดเข้าเว็บไซต์ด้วยสมาร์ทโฟน นั่นหมายความว่า ไม่ว่าจะเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โพสต์ในโซเชียลมีเดีย โฆษณา สิ่งที่ควรมุ่งเน้นหลักในปี 2020 ก็คือการปรับปรุง Mobile Experience ที่ๆ ลูกค้ามองเห็น มีส่วนรวม และซื้อสินค้า 2. รู้จักลูกค้าของคุณให้มากที่สุด เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น กลยุทธ์การตลาดแบบ Personalization ก็ทำได้ง่ายขึ้น เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าเฉพาะคน ผ่านการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล จัดทำคอนเทนต์ สินค้า บริการ ผ่านช่องทางสื่อสาร ราคาและประสบการณ์ที่เหมาะกับคนๆ นั้น สร้างความแตกต่างในการให้บริการให้ได้มากกว่าคู่แข่ง ทำให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ที่ตรงความต้องการมากขึ้น  ดังนั้น การมีฐานข้อมูลลูกค้าและเครื่องมือวิเคราะห์ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก นอกจากนี้ เรายังสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการปรับปรุงช่องทางการเข้าถึงของลูกค้า สำรวจว่าลูกค้าเป้าหมายของเราเข้าถึงเราผ่านช่องทางไหน มีความสนใจเป็นพิเศษด้านใด วิเคราะห์เป็น Customer Journey และปรับปรุงกระบวนการให้ลูกค้าพึงพอใจมากยิ่งขึ้น เช่น หากเราต้องการทราบว่าส่วนไหนในเว็บไซต์ของเราที่ลูกค้ามีความสนใจมากที่สุด รู้พฤติกรรมของลูกค้า เราก็สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับแต่งหน้าเว็บ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้ลูกค้าได้...

Continue reading