WeChat Pay สามารถทำธุรกรรมอะไรในจีนได้บ้าง

ปัจจุบัน เชื่อว่าคนไทยส่วนมากจะรู้แอปพลิเคชั่นของจีนที่มีชื่อเสียงเลื่องลือนามมานาน สำหรับการใช้จ่ายเงินหรือทำธุรกรรมผ่านออนไลน์ หรือ สังคมไร้เงินสด นั้นก็คือ เเอพกระเป๋าเงินออนไลน์ E-Wallet ที่คนจีนใช้งานกันมากที่สุดในตอนนี้ ซึ่งแอปพลิเคชั่นที่คนจีนนิยมใช้ในชีวิตประจำวันในทุกๆวัน คือ WeChat pay  เพื่อนๆคิดว่า WeChat pay  สามารถทำอะไรได้บ้างตามมาดูกันเลย 1. ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหาร ตอนนี้ถ้าได้มีโอกาสเดินทางไปเมืองจีน เเล้วได้เข้าไปกินอาหารตามภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้า เเม้เเต่อาหารริมทางเเละ สตรีทฟู้ดก็จะเห็นว่าทุกที่จะมี QR Code สำหรับให้สแกนเพื่อจ่ายเงิน นอกจากนี้เเล้ว ร้านในเขตที่ไกลจากตัวเมืองก็ยังมีการจ่ายเงินผ่าน WeChat Pay ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบัน การจ่ายเงินเเบบออนไลน์ได้ครอบคลุมทั่งพื้นที่ของจีนเเล้ว ยิ่งไปกว่านั้นมี ผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนในระบบของ WeChat Pay ราว 222 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 67 จากประชากรจีนทั้งหมด ในเขตชานเมือง 2. การช็อปปิ้ง หลังจากที่ลูกค้าช็อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าเเล้วลูกค้ามาตรงเคาน์เตอร์จ่ายเงิน จะเห็นได้เลยว่ามีการติดตั้ง QR Code สำหรับการจ่ายเงินผ่าน WeChat Pay ไม่เพียงเเต่ในห้างเท่านั้น เเม้เป็นเพียงร้านค้าขายส่ง ขายปลีก ร้านค้าทั่วไป เเละรวมถึงการช้อปปิ้งผ่านออนไลน์ WeChatPay ก็มีการจัดโปรโมชั่นเพื่อให้สิทธิรับผลประโยชน์สำหรับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดจากการใช้แทนบัตรเครดิต หรือการคืนเงินต่างๆ 3. การทำวีซ่า คนจีนที่มี WeChat Pay สามารถทำเรื่องขอวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางไปต่างประเทศได้  เเละประเทศไทยก็มีให้ความรวมมือด้วย ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่าง ตม.ของไทย กับจีน โดยจะเชื่อมต่อกับบริการขอวีซ่า E-VOA (Visa on Arrival) ทำให้ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจีนจะสามารถเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้อย่างสะดวกสบายขึ้นมาก เเค่โหลดโหลด WeChat Pay ไว้ในมือถือ  ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับ ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการเข้าถึงตลาดของนักท่องเที่ยวจีน ยิ่งมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ WeChat Pay เพื่อยเพิ่มโอกาสในการทำตลาดกับกลุ่มคนชาวจีนมากยิ่งขึ้น 4. ธนาคาร เเละ ธุรกรรมการเงิน มีการคิดค้นการจ่ายเงินผ่านระบบสเเกนใบหน้าสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงิน เพื่อให้ครอบคลุมการโอนเงิน จ่ายเงินเเละชำระค่าบริการต่างๆ ดังนั้นเเสดงให้เห็นว่าหลังจากนี้ประชากรจีนเเทบไม่ต้องพกเงินสดติดตัวเรย เเละไม่จำเป็นต้องพกมือถือเพื่อว่าทำธุรกรรมที่ธนาคารเเละไม่ต้องมีบัตร...

Continue reading

ดึงข้อมูลที่ต้องบันทึกซ้ำ ๆ ด้วยฟังก์ชัน Filter และ Match บน Google Sheets

หากใครที่มีการทำงานในลักษณะที่ต้องบันทึกข้อมูลแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ทำให้เราต้องเสียเวลาในการบันทึกข้อมูลไปมากในแต่ละครั้ง และมีโอกาสผิดพลาดได้สูง วันนี้ทาง Demeter ICT มีเทคนิค Google Sheets มาแชร์สำหรับการสร้างลิสต์รายการเพื่อใช้ในการดึงข้อมูลตามรายการที่เราเลือกโดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาในการบันทึกข้อมูลเดิม ซ้ำ ๆ อีกต่อไป โดยฟังก์ชันที่ใช้มีเพียงแค่บรรทัดเดียวเท่านั้น ตัวอย่างชุดข้อมูลที่บันทึกยอดขายสินค้าของพนักงานแต่ละคน  ข้อมูลชุด A เป็นข้อมูลเดียวกันกับข้อมูลชุด B ซึ่งหากเป็นการบันทึกในรูปแบบปกติที่ไม่มีการดึงข้อมูล ในส่วนของข้อมูลชุด A จะต้องบันทึกข้อมูลทั้งหมด 4 ช่อง ด้วยกัน คือ Categories, Cost, Price, และ Margin ทำให้ต้องเสียเวลาเป็นอย่างมาก และโอกาสผิดพลาดสูง ดังนั้น เราจะแนะนำวิธีการดึงข้อมูลจากรายการที่เราเลือก โดยใช้ฟังก์ชัน Filter และ Match บน Google Sheets โดยทั้ง 2 ฟังก์ชัน จะมีโครงสร้าง ดังนี้ FILTER(range, condition1, )MATCH(search_key, range, ) ขั้นตอนที่ 1 เราต้องสร้างลิสต์รายการขึ้นมาก่อน โดยจะนำข้อมูลชุด B มาสร้างเป็นลิสต์รายการ ในส่วนของข้อมูลชุด A โดยมีวิธีการสร้าง ดังนี้ คลิกขวาช่องที่ต้องการทำลิสต์รายการ > เลือก Data validation ในส่วนของ Criteria ช่อง 1 กำหนดเป็น List from a range ช่อง 2 คลิกที่สี่เหลี่ยมท้ายช่อง จากนั้น เลือกข้อมูลที่ต้องการนำมาสร้างลิสต์รายการ เป็นอันเสร็จสิ้นในขั้นตอนที่ 1  ในขั้นตอนถัดไปจะพาทุกท่านไปดูวิธีการดึงข้อมูล ซึ่งเป็นจุดสำคัญในบทความนี้ ขั้นตอนที่ 2 เราจะทำการดึงข้อมูลจากรายการที่เลือกขึ้นมาแสดง จากชุดข้อมูลตัวอย่างจะเห็นว่า เมื่อเลือก Apple Care จะทำการดึงชุดข้อมูลฝั่งขวามือทันที โดยใช้ฟังก์ชัน Filter...

Continue reading