The Martech Revolution 2023 : A New Era of Customer Engagement to Drive B2C Business Growth

Customer Engagement หรือ กลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นไปที่การสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้ากับแบรนด์ โดยการเลือกสื่อกลางจากหลากหลายช่องทางให้มีความเหมาะสมกับคุณลักษณะของลูกค้า แล้วรังสรรค์ออกมาเป็นเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจง ตรงประเด็น ในช่วงเวลาที่ใช่และมีความสอดคล้องกับช่องทางที่ลูกค้าใช้พอดี แม้ Customer Engagement จะเป็นสิ่งที่นักการตลาดต่างรู้จักกันอย่างแพร่หลาย แต่การสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าก็ยังคงมีความสำคัญและถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยสร้างความเป็นไปได้ที่ลูกค้าจะใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของแบรนด์ดังกล่าวต่อไปเพิ่มสูงขึ้น ในยุคที่ผู้บริโภคแบบ B2C คาดหวังที่จะได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ ตรงใจ ในช่องทางที่ง่ายและเป็นส่วนตัวเฉพาะบุคคล (Personalized) ในทุกการสัมผัสกับแบรนด์ ในโลกที่ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตแพร่หลาย เนื่องจากเทคโนโลยีมีการพัฒนาอยู่เสมอให้สอดรับกับสถานการณ์โลก ดังนั้นไม่ว่าใครก็สามารถพิจารณาเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์หรือบริการได้โดยง่าย การแก่งแย่งสัดส่วนทางการตลาดและคู่แข่งทางธุรกิจไม่ต่างกับการอยู่ในสมรภูมิรบ เพื่อการอยู่รอดแบรนด์เหล่านั้นจะสามารถสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้าและมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในทุกสัมผัส ที่จะขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจให้ดีขึ้นได้อย่างไร? หากจะกล่าวในแง่ที่เข้าใจง่ายคือ แบรนด์จะมีวิธีหรือกลยุทธ์ที่จะทำให้ลูกค้ากลับมาอีกครั้ง กลับมาซื้อซ้ำ ต่อเนื่องไปจนถึงการรู้สึกมีความผูกพันกับแบรนด์และเป็นลูกค้าที่ภักดี (Brand Loyalty) ได้อย่างไร? และจะดีกว่าไหม? หากคุณมีเครื่องมือที่ช่วยให้การสร้าง Customer Engagement เป็นไปได้ง่าย มีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถวัดผลได้จริง มาเรียนรู้ความลับที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของกลยุทธ์การสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าจากลูกค้าธุรกิจ eCommerce ของ Braze ทั่วโลก และหาคำตอบไปพร้อมกันในงานสัมมนาออนไลน์สุดพิเศษของ Demeter ICT และ Braze ในหัวข้อ “The Martech Revolution 2023: A New Era of Customer Engagement to Drive B2C Business Growth” เพื่อเตรียมคุณให้ก้าวสู่ความสำเร็จในปี 2023 ไปพร้อมกันกับเรา วันอังคารที่ 17 มกราคม 2566 เวลา 14.00 – 15.00 น. (บรรยายไทย) *งานสัมมนาเสร็จสิ้นแล้ว แต่ทุกท่านสามารถดูย้อนหลังได้ เพียงคลิกปุ่มด้านล่าง* รับชมงานสัมมนาย้อนหลัง สิ่งที่คุณจะได้รับ (Key Takeaways) อัปเดตเทรนด์ Martech (Marketing Technology) ปี 2023 ก่อนใคร! เข้าใจความคาดหวังของลูกค้าสำหรับธุรกิจ B2C มากยิ่งขึ้น รับรู้ถึงความสำคัญในการสร้าง Customer Engagement...

Continue reading

Work From Home/ Hybrid Working ทำงานได้อย่างสบายใจปลอดภัยจากโควิด (ละรอกใหม่)

ควิด-19 โรคระบาดที่ใคร ๆ ก็ต่างชินชากับเรื่องนี้ไปแล้ว ผู้คนต่างต้องการกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ เริ่มมีการผ่อนปรนมาตรการการใส่แมสในสถานที่ต่าง ๆ มากขึ้น แต่ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ โควิดก็ได้กลับมาระบาดอีกครั้ง ครั้งแล้วครั้งเล่า… ด้วยเหตุนี้ทำให้พนักงานเงินเดือนแบบเราจึงต้องระมัดระวังตัวกันมากขึ้น เพราะโควิดระลอกใหม่นี้แพร่เชื้อได้เร็วและมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นในมุมมองของผู้ประกอบการ บริษัทหลายแห่งจึงต้องกลับมาพึ่งการทำงานแบบ Work From Home หรือ Hybrid Working เช่นเดิม ส่งผลให้ Google Workspace ถูกหยิบยกขึ้นมาซัพพอร์ตการทำงานแบบออนไลน์เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกันได้โดยที่ไม่ต้องเดินทางมาออฟฟิศ ลดการแพร่เชื้อ และสามารถทำงานได้อย่างสบายใจ ทำงานแบบออนไลน์ไม่มีสะดุดด้วย Google Workspace Google Docs, Google Sheets, และ Google Slides หากคุณเป็นสายทำงานออนไลน์คงรู้จักกันดีอยู่แล้วว่า Google Docs, Sheets, และ Slides นั้นช่วยให้คุณสามารถทำงานร่วมกันกับทีมได้ โดยในแต่ละแอปก็จะมีฟังก์ชันแตกต่างกันไป น่าสนใจไม่แพ้กันเลยทีเดียว ซึ่งฟังก์ชันที่ทาง Demeter ICT อยากจะแนะนำในวันนี้ คือ ฟังก์ชัน Approvals ที่คุณสามารถส่งงานของคุณผ่านทางแอปนั้น ๆ ได้เลยโดยที่ไม่ต้องแชตบอกเจ้านายทีหลัง เพียงแค่เข้าไปที่เมนู File เลือก Approvals แล้วใส่ชื่อ Approver ตั้ง Deadline กดตกลงเป็นอันเสร็จเรียบร้อย ! Google Meet ใคร ๆ ก็รู้จักกันดีกับ Google Meet แอปพลิเคชันสำหรับการประชุมออนไลน์ เมื่อพนักงานต้อง Work From Home Google Meet ก็กลายเป็นแอปที่บริษัทขาดไม่ได้ เนื่องจากทุกคนสามารถเข้าร่วมประชุมได้อย่างง่าย และมีฟังก์ชันช่วยให้การประชุมสะดวกมากขึ้น ฟังก์ชันสำหรับ Google Meet ก็มีหลายอย่างที่น่าสนใจที่จะช่วยให้การประชุมนั้นมีประสิทธิภาพ เช่น Q&A, Record meeting, Transcript, Jamboard และอื่น ๆ ทั้งนี้แต่ละฟังก์ชันก็ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจที่คุณใช้บริการอยู่ด้วยนะ Google Calendar Google...

Continue reading

4 Technology Trends 2023

ธันวาคม เดือนสุดท้ายของไตรมาสสุดท้ายปี 2022 ถึงเวลาแล้วที่ต้องเริ่มมองหาเทรนด์ของปี 2023 ซึ่งวันนี้ Demeter ICT ได้คัด 4 Technology Trend หลัก ๆ มาให้ผู้อ่านทุกคนได้ศึกษาเพื่อเตรียมปรับตัวรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในปีหน้าได้ทัน แต่ก่อนจะเข้าสาระสำคัญ Demeter ICT ต้องขอบอกก่อนเลยว่าเทรนด์ที่จะกำลังจะพูดถึงนี้หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว แต่ทว่าในปีหน้าและในอนาคต สิ่งเหล่านี้จะมีความสำคัญมากขึ้นไปอีกหลายเท่าสำหรับธุรกิจทุกประเภท และแน่นอนว่าเทคโนโลยีจะเป็นความต้องการของตลาดทั้งในแง่ของสายอาชีพและการทำธุรกิจให้ตอบโจทย์ยุคสมัย ในปี 2023 จะมีเทรนด์อะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกัน ! 1. Internet of Things (IoT) เชื่อมทุกอย่างไว้ด้วยกัน หากใครที่ยังไม่ทราบว่า IoT คืออะไร ? มาฟังทางนี้ Demeter ICT จะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจแบบง่ายที่สุด! Internet Of Thing (IoT) คือการที่อุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นถูกเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เช่น แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน (โทรศัพท์+อินเทอร์เน็ต) หรือการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน WIFi (ทีวี/ลำโพง/โทรศัพท์ + อินเทอร์เน็ต) และอื่น ๆ สรุปสั้น ๆ ก็คืออุปกรณ์ใดที่ต้องพึ่ง WIFI หรือใช้อินเทอร์เน็ต สิ่งนั้นแหละที่เราเรียกกันว่า IoT ทีนี้มาดูกันว่าเทรนด์ของ IoT จะเป็นอย่างไรในปี 2023 สมัยนี้อะไรอะไรก็ต้องใช้อินเทอร์เน็ตจึงจะใช้งานได้ อุปกรณ์ถูกเชื่อมต่อและมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันบนโลกออนไลน์ ดังนั้นเทรนด์ของ IoT จะไม่หยุดอยู่แค่นี้อย่างแน่นอน และจะถูกพัฒนาไปอย่างไม่สิ้นสุดเลยก็ว่าได้ เพราะพฤติกรรมมนุษย์นั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงไปทุกยุคสมัย การสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ทันสมัยจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับภาคธุรกิจ ยิ่งถ้าการใช้งานมีความง่ายและต้องใช้เพียงแค่อินเทอร์เน็ตในการเข้าถึงแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการดึงดูดผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง IoT มีประโยชน์อย่างไร ? Demeter ICT จะขอยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การที่คุณติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ที่บ้าน หากเป็นเมื่อก่อนคุณคงไม่มาเช็คว่าภายในบ้านเกิดอะไรขึ้นบ้างใช่หรือไม่ ? ติดกล้องวงจรปิดไว้ก็เพื่อที่จะได้มาเช็คทีหลัง หลังจากเกิดเหตุฉุกเฉินเท่านั้น แต่หากเป็นสมัยนี้ถ้าคุณมีกล้องวงจรปิดที่สามารถเชื่อมต่อ WIFI ได้ คุณก็สามารถดูความเคลื่อนไหวภายในบ้านผ่านทางโทรศัพท์ของคุณได้แบบ Real Time เลย...

Continue reading

เผยกลยุทธ์ Customer Engagement คืออะไร? สำคัญกับทีมการตลาดและธุรกิจ B2C อย่างไร?

Customer Engagement คืออะไร? Customer Engagement หรือการมีส่วนร่วมของลูกค้า คือ การกระทำหรือกิจกรรมทั้งหมดตั้งแต่ก่อนซื้อ ตอนซื้อและหลังซื้อที่ธุรกิจใช้เพื่อการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเอาไว้ เพราะการสร้าง Customer Engagement นั้นเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจเพราะการที่ธุรกิจมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้านั้น จะส่งผลดีต่อการรับรู้แบรนด์ (Brand Perception) ไม่ว่าเราจะมีกิจกรรมอะไรลูกค้าก็จะคอยสนับสนุนอยู่เสมอและสามารถเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่ลูกค้านึกถึง (Top of Mind) ได้อีกด้วย สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยเสริมสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งในตลาดต่อไปได้อย่างยั่งยืน ยากที่จะมีคู่แข่งหรือธุรกิจที่มีสินค้าคล้าย ๆ กันจะตามได้ทัน การสร้าง Customer Engagement มีความสำคัญอย่างไรกับทีมการตลาดและธุรกิจ B2C ? การเพิ่มยอดขายเป็นเป้าหมายหลักของทุกธุรกิจ ซึ่งแต่ละธุรกิจก็มีกลยุทธ์และวิธีการที่แตกต่างกันออกไปซึ่งการสร้าง Customer Engagement ก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่หลาย ๆ ธุรกิจเลือกใช้ในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าของพวกเขาและเพิ่มยอดขายได้ในระยะยาว ซึ่งวันนี้ Demeter ICT จะมาบอกถึง 5 เหตุผล ว่าทำไมธุรกิจ B2C ถึงต้องสร้าง Customer Engagement กับลูกค้าของคุณ? 1. สร้างความสัมพันธ์ของลูกค้ากับแบรนด์ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของลูกค้ากับแบรนด์เปรียบเสมือนว่าให้ลูกค้ามีที่พึ่งทางใจ มองลูกค้าเหมือนเป็นคนในครอบครัวเราคนหนึ่ง ถ้ามีปัญหาเขาจะนึกถึงเราเป็นคนแรก ซึ่งการสร้างความสัมพันธ์ของธุรกิจที่มีหน้าร้านเป็นสิ่งที่มีมายาวนานอยู่แล้ว แต่สำหรับยุคดิจิทัลที่ลูกค้าซื้อสินค้าและบริการผ่านทางออนไลน์ส่งผลให้การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าคือความท้าทายที่ธุรกิจจะต้องเจอ ซึ่งเทคโนโลยีในปัจจุบันอย่าง Braze ก็เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยสร้าง Customer Engagement ในช่องทางต่าง ๆ กับลูกค้าให้ง่ายขึ้น ทั้งในการสร้างลูกค้าใหม่ การรักษาลูกค้าเดิม เพราะ Braze เชื่อว่าการสร้างการสื่อสารและการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ จะช่วยทำให้ความสัมพันธ์นั้นดียิ่งขึ้นและจะทำให้ลูกค้านึกถึงแบรนด์เราเป็นอันดับแรก ๆ ในการตัดสินใจ 2. พัฒนาความภักดีและการรักษาลูกค้า การสร้าง Customer Engagement กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ลูกค้าเริ่มมีความผูกพันกับแบรนด์ซึ่งจะนำทางไปสู่ความภักดี (Brand Loyalty) รู้ว่าลูกค้ารู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ? ส่วนใดที่ธุรกิจควรพัฒนาและปรับปรุงเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น? ลูกค้าต้องการให้รู้สึกว่าตัวเองนั้นได้รับความสำคัญ เมื่อคุณแสดงความสนใจต่อลูกค้าอย่างจริงใจ มีแนวโน้มที่พวกเขาจะซื้อสินค้าของคุณในอนาคตและจะนึกถึงแบรนด์ของเราเป็นอันดับแรก (Top of Mind) 3. ค้นพบโอกาสใหม่ในการเพิ่มยอดขาย เมื่อลูกค้ามีความผูกพันกับแบรนด์แล้ว จะทำให้ลูกค้าเปิดใจรับการโปรโมทหรือขายสินค้าได้ง่ายขึ้น แต่ย้ำว่าการโปรโมทนั้นจะต้องเฉพาะตัวและตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าคนนั้น ๆ ไม่ใช่จะโปรโมทอะไรก็ได้...

Continue reading
emoji in google docs

ใส่ Emoji ใน Google Docs ได้ง่าย ๆ เพียงทำตามนี้ !

Demeter ICT เชื่อว่าหลายคนในที่นี้ชอบใช้ Emoji เพื่อดึงความสนใจของผู้อ่าน แต่บ่อยครั้งที่ต้องคอยไป Search ในเว็บต่าง ๆ เลือกอีโมจิหรือไอคอนที่ถูกใจ แล้ว Copy & Paste ลงบน Google Docs ซึ่งจริง ๆ แล้วมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นมาก ๆ ไม่จำเป็นต้องไปเข้าเว็บที่สองหรือเว็บที่สามเพื่อหา Emoji ที่ใช่อีกต่อไป เพราะใน Google Docs ก็สามารถใส่ Emoji ได้ เพียงทำตามนี้ ! พิมพ์ : (Colon) แล้วจะมี Emoji แนะนำขึ้นมา 👍 :Thumbs-up  👏 :Clap 🙂 :Slightly-happy 😀 :Smile 😂 :Joy 😣 :Scrunched-eyes 😡 :Rage 🎉 :Party-popper ➕ :Plus-sign คลิก Emoji ที่คุณต้องการได้เลย ! แต่ถ้าคุณต้องการค้นหา Emoji ที่ต้องการด้วยตัวเอง ให้คุณพิมพ์ : ตามด้วย Key words ได้เลย เช่น :cat, :check-mark, :sparkles ซึ่งคุณจะต้องคั่น Emoji ด้วยการเว้นช่องว่าง (Space bar) จึงจะใส่ Emoji ต่อไปได้ และใครที่ใช้เวอร์ชันภาษาไทยก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะคุณก็สามารถใส่ Emoji ได้เหมือนกัน เช่น :ตบมือ :ชูนิ้วโป้งขึ้น :หัวใจสีแดง เป็นต้น 👍 :ชูนิ้วโป้งขึ้น 👏 :ตบมือ 🙂 :หน้ายิ้มกว้างๆ 😀 :หน้ายิ้มยิงฟัน 😂...

Continue reading
young generation with google workspace

เปิดตำราศึกษา Lifestyle คนรุ่นใหม่ทำไมถึงนิยมใช้และคุ้นชินกับ Google Workspace ในการทำงาน ?

2022 ยุคดิจิทัล หรือ ยุคแห่งโลกออนไลน์ ขับเคลื่อนให้คนรุ่นใหม่ต้องการทำงานกับองค์กรที่ทันสมัยและทำงานอย่างชาญฉลาด Google Workspace ซอฟต์แวร์เพื่อการทำงานแบบออนไลน์จึงเป็นใบเบิกทางที่ดีให้กับองค์กรที่ต้องการร่วมงานกับคนรุ่นใหม่ เพราะ Google Workspace สนับสนุนให้ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันแบบออนไลน์ได้ มีแอปพลิเคชันและฟีเจอร์ที่หลากหลาย เหมาะกับ Lifestyle คนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน ดังนั้นวันนี้ Demeter ICT จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Lifestyle ของคนรุ่นใหม่ที่ทำให้ Google Workspace เป็นทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์การทำงานได้อย่างครบสมบูรณ์ 1. คนไทยส่วนใหญ่ใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียมากกว่า 78% (อ้างอิงจากปี 2021) การใช้เวลาส่วนมากบนโซเชียลมีเดียมีส่วนทำให้พฤติกรรมของผู้คนเริ่มเปลี่ยนไปโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยี ชอบทำกิจกรรมต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ Shopping ออนไลน์ เรียนออนไลน์ รวมถึงการทำงานบนซอฟต์แวร์ออนไลน์ด้วยเช่นกัน ซึ่งในขณะที่ทุก ๆ อย่างกำลังก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์นั้น Google Workspace ก็ได้เริ่มพัฒนาและได้มีการนำมาปรับใช้ในหมู่นักเรียน นักศึกษา และองค์กรหลายแห่ง ในที่สุดก็ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายจนเป็นที่นิยมนั่นเอง ที่มา: เปิดสถิติ! คนไทยใช้ ‘โซเชียลมีเดีย’ อันดับ 1 ของโลก 2. ชอบความง่ายและความรวดเร็ว เมื่อเทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาท ความรวดเร็วจึงถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึง หากในองค์กรของคุณมีระบบการทำงานที่ช้าและซับซ้อนจะทำให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรมีการบริหารงานที่ล้าสมัยและอาจส่งผลให้หมดแรงกระตุ้นในการทำงานได้ ด้วยการดีไซน์ที่เรียบง่ายและฟีเจอร์ที่ใช้งานไม่ยาก Google Workspace จึงเป็นทางเลือกที่คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เลือกใช้ 3. ต้องการความยืดหยุ่นเพื่อตอบโจทย์ Work Life Balance ในปัจจุบันผู้คนหันมาสนใจเรื่องของ Quality หรือ คุณภาพชีวิตกันมากขึ้น หนึ่งในโซลูชันนี้ คือ การทำงานแบบ Remote working สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงเพื่อเข้าออฟฟิศทุกวัน และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ไปกับการเดินทาง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถสร้าง Work Life Balance ได้ดีเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ทีมนักพัฒนา Google Workspace จึงทำให้ซอฟต์แวร์มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ว่าจะ Remote working หรือ Hybrid working ก็สามารถทำงานได้สะดวก เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตก็เริ่มทำงานได้เลยทันที 4. Smartphone...

Continue reading

ถอดกลยุทธ์ของ TRUE Corp เบื้องหลังความสำเร็จด้านการบริการที่ “ไร้ขีดจำกัด” ในช่องทางออนไลน์

“TRUE เองเวลาเราจะทำอะไรทีหนึ่ง เราจะมีความเร่งด่วนตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราต้องหาอะไรที่ค่อนข้างพร้อมใช้ Zendesk เลยกลายเป็นตัวเลือกแทบจะเป็นอันดับหนึ่งเลยที่มาถึงปุ๊บ ปลั๊คได้เลย ใช้ได้เลย” ณิชารีย์ ชินวงศ์ Associate Director แผนก E-commerce & Retail Business – บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) https://www.youtube.com/watch?v=Q95E9lTfaNw หากเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าสักแห่งในประเทศไทย ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเจอร้านค้าดีไซน์ทันสมัย ติดป้ายแถบสีแดงตัวอักษรสีขาวเป็นคำว่า “TRUE” อยู่ด้านบน TRUE Corporation หรือกลุ่มทรู เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 32 ปีแล้ว TRUE ได้มุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง จนเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเครือข่ายที่ดีที่สุดในไทย การันตีความสำเร็จด้วยผลรางวัลทั้งด้านความเป็นเลิศทางธุรกิจ ด้านแบรนด์และการตลาด กิจกรรมเพื่อสังคมและนวัตกรรมจำนวนมาก หากมองในแง่ที่ว่า TRUE นั้นมีสาขาเปิดให้บริการกว่า 700 แห่งทั่วประเทศ ภาพจำของ TRUE ในความคิดของใครหลายคนคงจะเป็นร้านค้าของ TRUE ที่อยู่ตามห้างสรรพสินค้า ทว่าการเติบโตของ TRUE ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่เพียงแค่นั้น เพราะในช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ นับจากเกิดเหตุโรคระบาดโควิด-19 TRUE ก็ได้เปลี่ยนมาพัฒนาช่องทางออนไลน์สำหรับรองรับลูกค้าเป็นช่องทางหลักแทน TRUE Shop ที่ต้องปิดตัวลงชั่วคราว ถึงอย่างนั้นช่องทางออนไลน์ของ TRUE ก็ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลและยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ  TRUE ทำได้อย่างไร? กุญแจความสำเร็จด้านอีคอมเมิร์ซของ TRUE คืออะไรกันนะ? Demeter ICT ได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์คุณณิชารีย์ Associate Director แผนก E-commerce & Retail Business ของ TRUE ที่ TRUE Digital Park ในบทความนี้จะขอมาสรุปให้ทุกคนได้อ่านกัน จุดเปลี่ยนด้านโซลูชันครั้งใหญ่ของ TRUE “ตอนแรกก็ต้องบอกว่าพอเป็นช่วงโควิด เราล็อคดาวน์ปิดกันทุกที่เลย เพราะฉะนั้น Shop TRUE...

Continue reading

Braze คืออะไร? ทำความรู้จักกับ Braze แพลตฟอร์มเพื่อการตลาดสำหรับธุรกิจ B2C

Demeter ICT จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับ Braze – MarTech Solutions ระดับโลกที่แบรนด์ดังมากมายไว้วางใจใช้บริการ โดยวันนี้ Demeter ICT จะมาแนะนำ Braze ให้กับทุกท่านได้รู้จักกันอย่างละเอียดในหลาย ๆ มุมมอง เริ่มกันที่ Braze คืออะไร? Braze คือ แพลตฟอร์มสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ (Customer Engagement Platform) บนเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และมือถือ ช่วยส่งเสริมด้านการตลาดแบบหลายช่องทาง (Multichannel Marketing) เป็นหนึ่งในโซลูชัน Marketing Technology หรือที่เรียกกันว่า Martech Braze ช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ และกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการโต้ตอบกับแบรนด์ ซึ่งนำไปสู่การเติบโตของรายได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน พร้อมฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือทีมการตลาดโดยเฉพาะ เช่น ฐานเก็บข้อมูล (Customer Database), AI สำหรับแบ่ง Segmentation ของลูกค้า, Canvas Flow สร้างการตลาดแบบ Cross-channel และเครื่องมือ Marketing Automation อีกมากมาย ฟีเจอร์ของ Braze มีอะไรบ้าง? 1. ส่งแคมเปญการตลาดเชิงรุกเพื่อดึงดูดลูกค้าหาแบรนด์ของคุณ (Proactive Contents) สร้าง Call to Actions และ Engagement ให้กับลูกค้าบนแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ด้วยการตลาดเชิงรุกแบบ Real-time เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายให้กับธุรกิจของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา Mobile & Web Push Notifications – ส่งแคมเปญเพื่อสร้าง CTA (Call to Action) ดึงดูดลูกค้าให้กลับมาใช้บริการหรือซื้อสินค้าของเราอีกครั้ง ด้วยการแจ้งเตือนบนมือถือหรือเว็บไซต์ In-App & In-Browser Messages – ดึงดูดความสนใจของลูกค้าด้วยการสร้างข้อความที่ลูกค้าสามารถตอบโต้หรือกระทำบางอย่างได้บนแอปหรือบนเว็บไซต์ของคุณ Content Cards – ฝังแคมเปญการตลาดหรือเนื้อหาต่าง ๆ บนแอปหรือเว็บไซต์ของคุณโดยไม่รบกวนประสบการณ์ของลูกค้า เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสร้างโอกาสทางการตลาดหรือสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้า Email Marketing Automation – สร้างอีเมลที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ชมที่เน้นอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลักตลอดวงจรชีวิตของลูกค้า SMS – โปรโมตสินค้าของคุณและส่งการแจ้งเตือนขั้นตอนกำดำเนินงานหรือการทำธุรกรรมด้วยข้อความ SMS 2. สร้างแคมเปญการตลาดแบบ Cross...

Continue reading

3 ขั้นตอนกู้คืนเอกสารได้ง่าย ๆ ด้วย Google Drive

การเผลอลบไฟล์เป็นสิ่งที่หลาย ๆ ท่านคงจะไม่อยากให้เกิดขึ้นอยู่เป็นแน่ แต่สำหรับผู้ใช้งาน Google Workspace ท่านคงทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นการทำงานบนคลาวด์ ดังนั้นท่านจึงไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะทุกไฟล์ของท่านจะไม่หายไปไหนถึงแม้ว่าท่านจะเผลอลบไปแล้วก็ตาม  แล้วถ้าเผลอไปกดลบ ไฟล์งานที่ถูกลบจะไปอยู่ที่ไหน? อยากกู้คืนกลับมาต้องทำอย่างไร? แล้วต้องกู้คืนภายในกี่วัน? บทความนี้ Demeter ICT มีคำตอบ ไปดูกัน! 3 ขั้นตอนกู้คืนไฟล์ด้วย Google Drive เปิด Google Drive  ไปที่ ถังขยะ (Trash)  คลิกขวาที่ไฟล์นั้น แล้วกดเลือกกู้คืนหรือ Restore เพียงแค่นี้คุณก็สามารถกู้คืนไฟล์ได้แล้ว ง่ายมาก ๆ ซึ่งไฟล์ที่คุณกู้คืนมานั้นจะกลับไปอยู่ที่แอปพลิเคชันเดิม เช่น คุณลบรายชื่อลูกค้าที่อยู่ใน Google Sheets เมื่อกู้คืนกลับ ไฟล์ก็จะเข้าไปอยู่ใน Google Sheets ตามเดิม แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะสามารถกู้คืนไฟล์เมื่อไหร่ก็ได้นะ! เพราะถึงแม้ว่าไฟล์จะถูกเก็บไว้บนคลาวด์ก็จริง แต่ Google Drive ก็มีเงื่อนไขว่า คุณจะสามารถกู้คืนไฟล์ได้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ไฟล์ถูกลบเท่านั้น หลังจากนั้นไฟล์จะถูกลบไปอย่างถาวร ทั้งนี้ก็เพื่อให้ Drive ของคุณมีพื้นที่ว่างเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง หากคุณเป็นเจ้าของไฟล์ ลบไฟล์ไปแล้วคนอื่นจะยังเห็นไฟล์นั้นอยู่หรือไม่? หากคุณเป็นคนสร้างไฟล์นั้น (Owner) แล้วลบออก ทีมของคุณจะยังเห็นไฟล์นั้นอยู่ แต่จะไม่สามารถทำงานบนไฟล์นั้นได้ ดังนั้นหากคุณต้องการใช้ไฟล์นั้นต่อ ให้คุณ Make a Copy ได้เลย (คลิกที่ไฟล์นั้นแล้วจะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาให้คุณ Make a copy) หรือวิธีที่ง่ายกว่านั้นคือการ Transfer Ownership ให้กับคนในทีมก่อนที่คุณจะลบไฟล์ ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะเมื่อคุณไม่ใช่เจ้าของไฟล์แล้ว คุณลบไฟล์ออก ไฟล์จะถูกลบไปจาก Google Drive ของคุณคนเดียวเท่านั้น ต้องการลบไฟล์ทั้งหมดทำอย่างไร? เปิด Google Drive  ไปที่ ถังขยะ (Trash)  กดล้างข้อมูลในถังขยะ (Empty Trash) จากข้อมูลด้านบนจะเห็นได้ว่าการกู้คืนไฟล์หรือการล้างข้อมูลนั้นไม่ซับซ้อนเลย ด้วยระบบ Cloud...

Continue reading