Google Meet and Microsoft Team

Google Meet VS Microsoft Team เหมือนและแตกต่างกันอย่างไร?

หากพูดถึงเรื่องการประชุมทางไกล (Video Conference) ก็คงหนีไม่พ้นแอปพลิเคชันจากสองบริษัทชื่อดังอย่างเช่น Google Meet และ Microsoft Team ซึ่งหลาย ๆ คนคงจะคุ้นชินและเคยใช้แอปพลิเคชันเหล่านี้มาบ้างแล้ว แต่ว่าแอปพลิเคชันไหนกันที่เหมาะกับคุณ เหมือนและต่างกันอย่างไร  วันนี้ DMIT ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาไว้ที่นี่ให้อย่างจัดเต็ม พร้อมแล้ว ไปดูกันเลย! ระดับความยากง่ายของการใช้งาน Google Meet นั้นถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เพียงแค่กดเข้าหน้าแรกบนหน้าเดสก์ท็อปหรือบนแอปในโทรศัพท์ คุณก็จะเจอปุ่มที่สามารถสร้าง Meeting ได้ทันที อีกทั้งเมื่อคุณได้สร้าง Meeting ไว้แล้วคุณสามารถเลือกใช้ภาพพื้นหลังหรือเอฟเฟ็กต์อื่น ๆ ได้อีกด้วย ส่วนฝั่ง Microsoft Team นั้นจะมีการใช้งานที่ซับซ้อนมากขึ้นอีกสักหน่อย เนื่องจากเน้นการประชุมที่ค่อนข้างมีความเป็นทางการ การจะเลือกใช้งานฟังก์ชันใดจึงอาจจะต้องกดหลายปุ่ม แต่ก็ไม่ยากเกินไปอย่างแน่นอน แถมยังมีภาพพื้นหลังและลูกเล่นอื่น ๆ ไม่แพ้กัน หมายเหตุ : หากคุณต้องการเข้าใช้งานผ่านโทรศัพท์ คุณจะต้องทำการดาวน์โหลดและใช้งานผ่านแอปเท่านั้น แอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อได้ Google Meet Calendar – คุณสามารถสร้าง New Meeting ได้ใน Google Calendar ทันที เพียงแค่คลิกวันที่และเวลาที่คุณต้องการสร้าง จากนั้นก็สามารถเพิ่มคนที่คุณต้องการที่จะให้เข้าร่วมประชุมหรือแชร์ลิงก์ได้เลย Gmail – หากคุณได้รับคำเชิญหรือมีคนแชร์ลิงก์ Meeting ให้ Google จะทำการส่ง Email เข้าไปใน Gmail ของคุณเพื่อให้คุณกดยืนยันที่จะเข้าร่วม Chat – สมมุติว่าคุณกำลังคุยงานอยู่แล้วต้องการที่จะ Meeting โดยด่วน คุณสามารถกดปุ่มรูปวิดีโอได้ที่ด้านล่างขวา จากนั้นคุณก็จะเข้าสู่ Google Meet โดยอัตโนมัติ Microsoft Team Outlook – คุณสามารถสร้างลิงก์ Meeting แล้วแชร์ไปให้ผู้เข้าร่วมทาง Email ได้ แต่มีข้อแม้คือคุณต้องเขียนอีเมลขึ้นมาเอง Calendar – การใช้งานจะคล้ายกับ Google Meet ที่กล่าวไปด้านบน แต่ว่า Microsoft...

Continue reading

ใหม่! Zendesk Suite สำหรับ SMB ฟีเจอร์ครบครัน ปรับใช้ง่าย แม้งบประมาณจำกัด

ไม่ว่าคุณจะอยากมีระบบการให้บริการลูกค้าด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือระบบการทำงานแบบรวมทุกช่องทาง (Omnichannel) สำหรับเจ้าหน้าที่ให้บริการ คุณอาจจะมองว่าเป็นเรื่องยาก แต่เชื่อหรือไม่ว่าแม้ในงบประมาณที่จำกัด คุณก็สามารถมอบการบริการที่ครบครันเหล่านี้ให้ลูกค้าได้? มายกระดับการบริการลูกค้ารับสิ้นปี เพิ่มความพึงพอใจ เพิ่มกำไรให้ธุรกิจกันไปเลย Demeter ICT ขอเปิดตัวแพ็กเกจใหม่ ‘Zendesk Suite สำหรับ SMB’ แพ็กเกจเพื่อธุรกิจ SMB ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการสำหรับการบริการลูกค้าในยุคใหม่ ด้วยเครื่องมือที่ครบครันรวมไว้ในแพ็กเกจเดียวไม่ว่าจะเป็น ระบบ Ticket บริหารจัดการคำร้องของลูกค้าอย่างครบวงจร ระบบตอบคำถามอัตโนมัติ (Answer Bot) พร้อมบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง รวบรวมทุกการสนทนามาจัดเก็บในที่เดียว ลูกค้าสามารถสนทนาแบบไร้รอยต่อจากทุกช่องทาง ไม่ต้องคอยเล่าปัญหาซ้ำ ๆ ระบบติดตามและวัดผลการทำงานของเจ้าหน้าที่ วิเคราะห์ปัญหาคอขวด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน กล่าวได้ว่าทุกฟีเจอร์ที่แพ็กเกจ Zendesk Suite มี แพ็กเกจ SMB นี้ก็มีครบเช่นกัน  ถ้าอย่างนั้นแพ็กเกจนี้ต่างจากแพ็กเกจ Zendesk Suite อย่างไร? ราคา License ของแพ็กเกจ Zendesk Suite สำหรับ SMB กับแพ็กเกจ Zendesk Suite นั้นเหมือนกันทุกอย่าง เพียงแต่แพ็กเกจ Zendesk Suite จะมี 4 รูปแบบ License ให้เลือก ได้แก่ Suite Team, Suite Growth, Suite Professional และ Suite Enterprise ขณะที่แพ็กเกจ SMB จะมี 3 รูปแบบ ได้แก่ Suite Team, Suite Growth และ Suite Professional ที่เหมาะสมกับธุรกิจขนาดเล็กมากกว่า  อีกข้อแตกต่างที่สำคัญก็คือแพ็กเกจ Zendesk Suite สำหรับ...

Continue reading

เปิดโหมด ‘Focus time’ ขอเวลาโฟกัสงานกับ Google Calendar

เปิดโหมด ‘Focus time’ ขอเวลาโฟกัสงานกับ Google Calendar เนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในการทำงานในหลายที่ถูกปรับตามนโยบายเพื่อป้องกันโรคระบาดอย่าง COVID-19 จนในหลายๆบริษัทต้องให้พนักงานทำงานที่บ้าน (Work from home) มีการส่งข้อความทางออนไลน์ (Google Chat) และการประชุมออนไลน์ (Google Meet) มากขึ้นทำให้หลายท่านต้องพบกับปัญหาการแบ่งเวลาทำงานได้ยากขึ้น  ด้วยเหตุนี้ Google Calendar ได้เพิ่มประเภทของกิจกรรมใหม่ในชื่อ ‘เวลาโฟกัส (Focus time)’ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ Out of office คือทาง Calendar จะปฏิเสธกิจกรรมที่ขัดแย้งกันโดยอัตโนมัติเช่น การปฏิเสธเข้าร่วมการประชุม เป็นต้น เพื่อให้คุณสามารถมีสมาธิสำหรับการทำงานและการคิดงานได้ง่ายขึ้น รวมถึงป้องกันการถูกรบกวนในช่วงเวลานั้นอีกด้วย รายละเอียดเพิ่มเติม หากต้องการให้เวลาโฟกัสของคุณโดดเด่นต่างจากกิจกรรมและการประชุมอื่นๆ คุณสามารถกำหนดสีใหม่ให้แตกต่างได้ นอกจากนี้เวลาโฟกัสตามกำหนดการของคุณจะถูกติดตามใน Time Insights ของคุณด้วย แพ็กเกจที่พร้อมใช้งาน Google Workspace Business Standard, Business Plus, Enterprise เพียงเท่านี้คุณก็สามารถมีสมาธิกับการทำงานหรือการคิดงานของคุณได้โดยไม่ถูกรบกวนอีกต่อไป ทุกคนจะรู้ได้ในทันทีว่า ณ ขณะเวลานั้นคุณต้องการเวลาส่วนตัวในการทำงาน ซึ่งต่างจาก Out of office ที่จะขึ้นว่าคุณไม่พร้อมทำงานเนื่องจากไม่ได้อยู่ที่ทำงาน Google Workspace พื้นที่การทำงานที่ทำให้คุณทำงานร่วมกันได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้แอปพลิเคชันจาก Google Workspace ต่างก็มีฟังก์ชันช่วยในการทำงานที่หลากหลาย และยังมีการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆเพื่อให้การทำงานของคุณลื่นไหลอยู่เสมอ หากคุณสนใจ Google Workspace ติดต่อ ดีมีเตอร์ ไอซีที ตัวแทนผู้ให้บริการ Google Workspace ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เรามีแพ็กเกจพร้อมบริการเสริมแบบครบวงจรที่สามารถตอบโจทย์ได้ทุกธุรกิจแบบครบจบในที่เดียว อ่านบทความอื่นที่เกี่ยวข้องและน่าสนใจเพิ่มเติม เปิดตัว Time Insights ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Calendar เจาะลึกเวลาทำงานและประชุม สุดเจ๋ง Google Calendar ปักโลเคชันตอกบัตรว่าทำงานอยู่ที่ไหนได้แล้ว Google Calendar ตัวช่วยในการจัดตารางชีวิตของคุณให้ลงตัว...

เพิ่มความรัดกุมในการทำงานร่วมกันด้วยฟีเจอร์ ‘Approvals’ จาก Google Workspace

เพิ่มความรัดกุมในการทำงานร่วมกันด้วยฟีเจอร์ ‘Approvals’ จาก Google Workspace Google Workspace เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ผู้ใช้งานสามารถอนุมัติ (Approvals) คำขออนุมัติเป็นผู้ตรวจสอบหรือเพิ่มผู้ตรวจสอบใน Google Docs, Sheets, และ Slides เมื่อมีคำขออนุมัติ เจ้าของไฟล์สามารถอนุมัติ, ปฏิเสธ, เพิ่มความคิดเห็น, หรือแก้ไขเอกสารในการตอบกลับได้  เมื่อเจ้าของไฟล์ได้อนุมัติคำขอเป็นผู้ตรวจสอบหรือเพิ่มผู้ตรวจสอบ ผู้ตรวจสอบจะได้รับลิงก์ไปยังเอกสารจากการแจ้งเตือนผ่านทางอีเมล, เบราว์เซอร์, หรือ Google Chat ตามการตั้งค่าการแจ้งเตือนที่พวกเขาตั้งไว้ใน Google Drive และเมื่อมีการแก้ไขเอกสาร ผู้ตรวจสอบทั้งหมดจะได้รับแจ้งเตือนการแก้ไขและเอกสารเวอร์ชันล่าสุดเพื่อรออนุมัติอีกครั้ง วิธีการเปิดใช้งานฟีเจอร์ ‘อนุมัติ (Approvals)’ ฟีเจอร์นี้จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับการอนุมัติสัญญา เอกสารทางกฎหมาย และเอกสารอื่นๆ ที่จำเป็นต้องมีการอนุมัติอย่างเป็นทางการที่มีการทำงานร่วมกันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายราย เพื่อรักษาความถูกต้องสมบูรณ์ของเอกสาร เมื่อผู้ตรวจสอบทุกคนอนุมัติแล้วไฟล์จะถูกล็อค (Lock file) และไม่สามารถแก้ไขได้ หากคุณกำหนดวันครบกำหนด (Add due date) ผู้ตรวจสอบของคุณจะได้รับอีเมลเตือนความจำว่าจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติหรือเลยกำหนดการขออนุมัติ นอกจากนี้คุณยังป้องกันไม่ให้ผู้ใช้แก้ไขเนื้อหาของรายการ หรือแสดงความคิดเห็นและคำแนะนำได้โดยเลือกล็อกเอกสาร หมายเหตุ ในกรณีที่คุณขออนุมัติจากบุคคลหลายคน การอนุมัติจะสมบูรณ์ได้เมื่อผู้ตรวจสอบทั้งหมดอนุมัติไฟล์ หากมีการแก้ไขในระหว่างกระบวนการอนุมัติ ผู้ตรวจสอบทั้งหมดจะได้รับการแจ้งเตือนทางอีเมลเพื่ออนุมัติไฟล์เวอร์ชันล่าสุดอีกครั้ง หากผู้ตรวจสอบเพียงคนเดียวปฏิเสธไฟล์คำขออนุมัติเอกสารจะถูกปฏิเสธทันที เมื่อผู้ตรวจสอบทั้งหมดอนุมัติเอกสาร ไฟล์จะถูกล็อค ทุกคนจะไม่สามารถแก้ไขไฟล์ที่ล็อกไว้ได้จนกว่าจะปลดล็อกหรืออนุมัติการปลดล็อกไฟล์ แพ็กเกจที่สามารถใช้งานได้ Business Standard, Business Plus, Enterprise เพียงเท่านี้คุณก็สามารถทำงานร่วมกันกับบุคคลอื่นๆ ได้โดยที่ยังสามารถรักษาความถูกต้องสมบูรณ์ของเอกสารได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตคุณก็สามารถเชื่อมต่อการทำงานกับทุกคนได้ในทันทีกับ Google Workspace ทั้ง Google Docs, Sheets, และ Slides หากคุณกำลังมองหาพื้นที่การทำงานที่จะทำให้งานของคุณง่ายขึ้นสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ดีมีเตอร์ ไอซีที ผู้ให้บริการ Google Workspace ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ...

Canva and Google Workspace

Canva บริษัทผลิตแพลตฟอร์มเพื่อการออกแบบชื่อดัง สนับสนุนการทำงานร่วมกันของพนักงานด้วย Google Workspace

“Canva พื้นที่ที่ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการออกแบบได้อย่างง่าย“ Canva นำเสนอสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกันด้วย Google Workspace เพื่อสนับสนุนพนักงานที่อยู่ต่างประเทศที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกเขาเชื่อมต่อถึงกันและพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากที่สุด “Google Workspace เป็นเหมือนอากาศและน้ำสำหรับเรา เป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติในที่ทำงานของเรา” Jeff Lai ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานภายในของ Canva กล่าว ยืนยันจากผู้ใช้จริงมาอย่างยาวนาน Google Workspace ธุรกิจที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สนับสนุนการทำงานร่วมกันในองค์กรอย่างสร้างสรรค์บนระบบคลาวด์ ซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยอย่างดีเยี่ยมจึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจากหลาย ๆ หน่วยงาน เช่น Canva ผู้ใช้งาน Google Workspace มาอย่างยาวนาน และ Jeff Lai ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานภายในของ Canva ได้กล่าวไว้ว่า “หากจะเป็นธุรกิจระดับโลก บริษัทต้องมั่นใจว่าองค์กรมีเทคโนโลยีที่สามารถเติบโตและขยายไปพร้อมกับตนเองได้” ดังนั้น Canva จึงตัดสินใจเลือก Google Workspace ที่จะมาตอบโจทย์การทำงานร่วมกันจากทั่วทุกมุมโลก Canva มีใบอนุญาตใช้งาน Google Workspace มากถึง 1,850 สิทธิ์ เพื่อรองรับพนักงานราว 1,200 คน ด้วยชุดแอปพลิเคชันที่ครอบคลุมความต้องการด้านการสื่อสาร การเชื่อมต่อ และประสิทธิภาพของผลงาน โดยมั่นใจว่าการใช้บริการ Google Workspace จะทำให้องค์กรมีพื้นที่จัดเก็บเพียงพอเพื่อให้ธุรกิจไม่ต้องเสียค่าบริการซื้อพื้นที่จัดเก็บเสริม ทีมนักออกแบบ นักพัฒนา นักการตลาด นักลงทุน และที่ปรึกษาของ Canva ใช้ Google Workspace สำหรับงานต่าง ๆ เช่น จัดกำหนดการประชุม ส่งอีเมลให้ฝ่ายภายในและภายนอก จัดเก็บไฟล์และติดตามกิจกรรมในสเปรดชีต ซึ่งการทำงานบน Google Workspace นั้นช่วยให้ Canva สามารถขยายฐานผู้ใช้งานได้มากขึ้นและช่วยให้ Canva ประสบความสำเร็จในการสร้างแพลตฟอร์มที่มีเทมเพลตและแบบอักษรนับพัน รวมถึงรูปภาพสต็อก ไอคอน และภาพประกอบนับล้าน  เข้าถึงได้จากทุกหนทุกแห่งราว 100 % เนื่องจากพนักงานของ Canva ที่อยู่ต่างประเทศนั้นมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โมเดลการทำงานแบบกระจายจึงเป็นโซลูชันที่เหมาะสมที่สุด Canva เลือกใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันที่พร้อมให้บริการตลอดแบบ 24/7...

Continue reading

‘เปรียบเทียบเอกสาร’ ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Docs ที่จะทำให้การตรวจเอกสารของคุณง่ายขึ้นกว่าเดิม

‘เปรียบเทียบเอกสาร’ ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Docs ที่จะทำให้การตรวจเอกสารของคุณง่ายขึ้นกว่าเดิม Google Docs เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “เปรียบเทียบเอกสาร (Compare Documents)” ผู้ใช้สามารถเปรียบเทียบความแตกต่างของเอกสารทั้งสองไฟล์ได้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ทำให้ง่ายต่อการดูการเปลี่ยนแปลงระหว่างสองเอกสาร ตัวอย่างเช่น นักการศึกษาสามารถใช้เครื่องมือนี้เพื่อเปรียบเทียบเรียงความและติดตามการแก้ไข ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน ในขณะเดียวกันผู้ใช้ทางธุรกิจสามารถใช้เครื่องมือนี้ในระหว่างการเจรจาสัญญาเพื่อดูว่าตลอดการเจรจามีข้อตกลงใดที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง และใช้ในการเปรียบเทียบเอกสารเวอร์ชันล่าสุดกับเวอร์ชันเริ่มต้น วิธีใช้งาน เปิด Google Doc ที่คุณต้องการ ซึ่งเอกสารนี้จะกลายเป็น “เอกสารหลัก (base)” ของคุณ จากแถบเครื่องมือ เลือก เครื่องมือ (Tools) > เปรียบเทียบเอกสาร (Compare Documents) ให้คลิกที่ “เลือกเอกสารเปรียบเทียบ (select the comparison document)” เพื่อเลือกเอกสารที่สองที่จะใช้ในการเปรียบเทียบ ในช่อง “กำหนดแอตทริบิวต์ความแตกต่าง (Attribute differences to)” ให้ป้อนชื่อของผู้ใช้ที่ต้องการจะติดป้ายกำกับว่าเป็นผู้เขียนคำแนะนำการแก้ไขในไฟล์เอกสารใหม่ที่ใช้ในการเปรียบเทียบ เลือก เปรียบเทียบ (Compare) จากนั้นระบบจะทำการสร้างไฟล์เอกสารใหม่ที่แสดงรายละเอียดที่แตกต่างระหว่างเอกสารทั้งสองฉบับที่ได้นำมาเปรียบเทียบกันขึ้นมา โดยระบบจะแสดง “การแก้ไขที่แนะนำ (Suggested Edits)” ที่มีชื่อของผู้ใช้ที่คุณเลือกเปรียบเทียบกำกับไว้นั่นเอง หมายเหตุ เจ้าของเอกสารและผู้ที่มีสิทธิ์แก้ไขเท่านั้นที่สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเปรียบเทียบความแตกต่างของไฟล์เอกสารทั้งสองไฟล์ได้อย่างง่ายดายและสามารถทำงานร่วมกันกับผู้อื่นได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจาก Google Docs ที่เป็นหนึ่งในชุดการทำงานใน Google Workspace ยังมีแอปพลิเคชันอำนวยความสะดวกอื่นๆอีกมากมาย ที่ทั้งอำนวยความสะดวกในการทำงานและรักษาความปลอดภัยแก่งานของคุณได้อย่างเยี่ยมยอด หากคุณสนใจหรืออยากสอบถามเกี่ยวกับ Google Workspace สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ดีมีเตอร์ ไอซีที ตัวแทนผู้ให้บริการ Google Workspace ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ...

ลดปัญหา Customer Service ทำงานซ้อนกันด้วยฟีเจอร์สุดล้ำจาก Zendesk

ประสบการณ์ของตัวแทน (Agent Experience) มีความสำคัญพอ ๆ กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) เลย เพราะฉะนั้นการที่ Agent สามารถทำงานได้ง่ายขึ้นก็จะส่งผลดีทั้งในแง่ของตัวพนักงานเอง ส่งผลถึงลูกค้าที่ได้รับการบริการ จนไปถึงส่งผลดีของบริษัทและองค์รของคุณเองได้อีกด้วย ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับ Agent ของคุณ โดยที่ Agent ทุกคนสามารถทราบได้ว่า Agent คนไหนกำลังทำงานอยู่บน Ticket นั้นอยู่บ้าง โดยดูจากหน้ารวมของ Ticket หรือดูจากข้อมูลใน Ticket นั้น ๆ โดยตรง เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงและลดปัญหาการทำงานซ้อนกันของทีมบริการและซัพพอร์ตลูกค้าได้ ซึ่งจะมีไอคอนรูปตาปรากฏอยู่ด้านหน้าของ Ticket ที่บ่งบอกถึงว่า Ticket นี้กำลังมีใครดูอยู่บ้าง นอกจากนี้คุณยังสามารถนำเมาส์ไปวางบน Ticket นั้นเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้อีกด้วย ซึ่งถ้าคุณอยากดูรายละเอียดที่ลึกขึ้นก็สามารถคลิกเข้าไปใน Ticket นั้นได้ข้อมูลจะแสดงอยู่มุมบนซ้ายของ Ticket โดยจะเป็นการแสดงรายละเอียดผ่านรูปภาพของแต่ละคน หรือสามารถนำเมาส์ไปชี้ที่รูปของ Agent แต่ละคนได้ คุณจะทราบได้ทันทีว่า Agent แต่ละคนทำอะไรกับ Ticket นี้อยู่ Agent ที่รูปภาพมีกรอบสีฟ้า คือ กำลังแก้ไข Ticket นี้อยู่ Agent ที่มีรูปภาพปกติหมายถึงกำลังดู Ticket นี้อยู่แต่ไม่ได้แก้ไข Field ใด ๆ Agent ที่รูปภาพแบบจางคือเปิด Ticket นี้อยู่ แต่ได้ออกห่างจากหน้านี้ไปที่หน้าอื่นแล้ว นอกจากนี้ Agent ที่กำลังดูหรือกำลังแก้ไข Ticket นี้อยู่ คุณยังสามารถดูรายละเอียดการอัปเดตต่าง ๆ ของ Ticket นี้ได้อีกด้วย หากมีการอัปเดต Ticket ที่คุณเปิดไว้ คุณจะเห็นข้อความ Ticket Updated ด้านบนของ Ticket นั้น โดยที่คุณสามารถคลิก Show more เพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับการอัปเดตของ Ticket และคลิกกากบาท (x) ที่มุมขวาเพื่อลบข้อความการอัปเดตนี้ได้อย่างง่ายดาย ฟีเจอร์นี้ของ Zendesk...

Continue reading

Phishing และ Malware ก็ทำอะไร Google Workspace ไม่ได้!

เมื่อการทำงานแบบผสมผสาน (Hybrid working) กลายเป็นบรรทัดฐานสำหรับองค์กรหลายแห่ง การรักษาความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และความน่าเชื่อถือจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก และถือเป็นรากฐานที่ทำให้คนสามารถทำงานร่วมกันบน Cloud ได้อย่างสบายใจไปพร้อมกับ Google Workspace  ปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลด้วยการเข้ารหัสแบบ Client-side Client-side Encryption หรือการเข้ารหัสโดยข้อมูลลูกค้า คือ การที่องค์กรทำการล็อคประตูเข้าถึงคลังข้อมูลบางอย่างหรือที่เราเรียกว่าการเข้ารหัสข้อมูลก่อนที่ข้อมูลจะถูกอัปโหลดไปยัง Server ซึ่ง Password ที่ใช้ล็อคไว้นั้นคือกุญแจเข้ารหัสที่มีเพียงแค่คนในองค์กรที่รู้เท่านั้น วิธีนี้จะทำให้องค์กรเองสามารถควบคุมข้อมูลด้วยตัวเองได้โดยตรง ช่วยให้องค์กรสามารถรักษาข้อมูลที่เป็นความลับได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะใช้งานบนอุปกรณ์ใดก็ตาม อีกทั้งยังสามารถแชร์ไฟล์ที่เข้ารหัสให้บุคคลอื่นได้อีกด้วย ซึ่งหากรวมกับการเข้ารหัสแบบอื่นๆ จากทาง Google แล้ว องค์กรจะสามารถยกระดับการป้องกันข้อมูลที่อยู่ใน Google Workspace มากขึ้นกว่าเดิมได้อีกหลายเท่า การเข้ารหัสแบบ Client-side นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่จัดเก็บข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลที่เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา บันทึกการรักษาพยาบาล หรือข้อมูลทางการเงิน เป็นต้น สำหรับลูกค้า Google Workspace Enterprise Plus การเข้ารหัส Client-side จะพร้อมใช้งานใน Google  Drive,  Docs,  Sheets, และ Slides ในขั้นต้น โดยรองรับไฟล์หลายประเภท รวมถึงไฟล์ Office, PDF และอื่นๆ การป้องกัน Phishing และ Malware สำหรับ Google Drive Phishing คือ การหลอกลวงผ่านระบบออนไลน์ที่มีเป้าหมายเพื่อล้วงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน ตัวอย่างเช่น การส่งอีเมลเพื่อหลอกให้เจ้าของอีเมลคลิกเข้าไปเพื่อดึงข้อมูลส่วนตัวออกมา เช่น ข้อมูลบัตรเครดิต เป็นต้น ส่วน Malware คือการปล่อยไวรัสเข้าอุปกรณ์ที่ผู้ใช้ใช้งานอยู่ เพื่อไปทำลายข้อมูลที่อยู่ในอุปกรณ์นั้นๆให้เกิดความเสียหาย สำหรับ Google Workspace นั้นมีการปกป้องข้อมูลแบบ built-in ใน Google Drive ที่จะช่วยบล็อกเนื้อหาฟิชชิงและมัลแวร์จากผู้ใช้และองค์กรภายนอก ซึ่งตอนนี้ Google ได้พัฒนาให้ Google Workspace แอดมินสามารถเข้ามาจัดการข้อมูลต่างๆ ภายในองค์กรได้ด้วยตัวเองเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากภายในและปัญหาจากผู้ใช้งาน หากพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ไฟล์ที่เกี่ยวข้องจะถูกตั้งค่าสถานะและทำให้มองเห็นได้เฉพาะแอดมินและเจ้าของไฟล์เท่านั้น...

Continue reading

Shopify

Shopify บริษัทใหญ่สุดในแคนาดากับการยกระดับ Customer Support ครบวงจรด้วย Zendesk ...