Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

สร้างได้เอง ทำได้จริง ด้วย 3 สิ่งนี้ มีแอปพร้อมใช้แน่นอน

หลายองค์กรมีไอเดียที่จะเริ่มต้นนำเทคโนโลยีใหม่ๆอย่างแอปพลิเคชันมาใช้ในองค์กร แต่สิ่งที่กังวลก็คือ “อยากทำแอปพลิเคชัน แต่จะเริ่มต้นที่ตรงไหนก่อนดี” โดยอาจจะมองภาพว่ากว่าจะทำแอปขึ้นมาสักหนึ่งแอปได้นั้นค่อนข้างเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมทางทรัพยากรด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การวางแผน process นักพัฒนาแอปพลิเคชัน ระยะเวลา และอื่นๆอีกมากมาย และหากเป็นองค์กรที่ไม่มีนักพัฒนาแอปพลิเคชันด้วยแล้ว ก็อาจจะคิดว่าการทำแอปขึ้นมานั้นคงเป็นเรื่องไกลตัวเกินไป ความกังวลเหล่านั้นจะหมดไป…เมื่อรู้จักกับ AppSheet ในปัจจุบันนี้การสร้างแอปพลิเคชันสามารถทำได้ง่ายขึ้นมาก โดยที่ทุกคนสามารถผันตนเองเป็นนักพัฒนาแอปพลิเคชันได้เลย ด้วยการสร้างแอปพลิเคชันด้วย No-code platform อย่าง AppSheet ที่ให้คุณออกแบบแอปพลิเคชันได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด แถมช่วยกระชับเวลาให้คุณมีแอปพลิเคชันได้เร็วขึ้นอีกหลายเท่าตัว เพราะเพียงแค่คุณมีไอเดีย workflow และ AppSheet ก็สามารถมีแอปพลิเคชันเพื่อสนอง Solution ที่คาดหวังไว้ได้แล้ว   บทความเพิ่มเติม >>> สรุป AppSheet คืออะไร ? ทำอะไรได้บ้าง ? (ฉบับเข้าใจง่าย) เช่นนั้นแล้ว แน่นอนว่าสิ่งสำคัญก่อนที่จะไปสู่ขั้นตอนการขึ้นแอป เราต้องมาสร้างไอเดีย (Idea) และออกแบบกระบวนการ (Workflow) กันเสียก่อน และแต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น เราขอนำเสนอไอเดียไว้เป็นไกด์ไลน์ให้สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะลองสร้างแอปพลิชันจาก AppSheet ด้วยตนเอง ซึ่งวิธีด้านล่างนี้เป็นวิธีที่ Demeter ICT ใช้จริงในการทำ workshop ก่อนลงมือสร้างแอปพลิเคชันไว้ใช้ในองค์กรของเราเอง IDEA กำหนดจุดประสงค์และความต้องการที่ชัดเจน เหนือสิ่งอื่นใดเราต้องกำหนดจุดประสงค์ก่อนว่า เราจะสร้างแอปขึ้นมาเพื่ออะไร จะสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในกระบวนการใด จะสร้างขึ้นมาใช้แทนกระบวนการเดิม เพิ่มกระบวนการใหม่ หรือจะนำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาใด เป็นต้น  WORKFLOW วิเคราะห์กระบวนการทำงานโดยละเอียด ขั้นตอนนี้จะว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดก็ไม่ผิดนัก เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่ต้องลงลึกถึงกระบวนการอย่างละเอียด เพื่อให้เกิดความถูกต้องและเกิดความต่อเนื่องในการทำงานของแอปพลิเคชัน โดยการให้สมาชิกที่มีส่วนเกี่ยวข้องและใช้งานกระบวนการนั้นๆอยู่มาช่วยกันระดมความคิดเกี่ยวกับรายละเอียดขั้นตอนของกระบวนการที่ต้องการว่าจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดกระบวนการนั้นคืออะไร มีใครที่เกี่ยวข้องหรือมีหน้าที่ใดในส่วนนั้นบ้าง การทำงานของแอปจะเป็นอย่างไร  นอกเหนือจากนั้นถึงควรมีการกำหนดว่าต้องการให้แอปเก็บข้อมูลอะไรบ้าง เพื่อที่แอปจะสามารถบันทึกจากการกรอกข้อมูลบนแอปพลิเคชัน แล้วนำไปจัดเก็บในฐานข้อมูลที่คุณสร้างไว้ เช่น Google Sheets, Excel, Cloud SQL เป็นต้น ตัวอย่างการวางแผนก่อนการสร้างแอปพลิชัน Idea ทีมการตลาดขององค์กรแห่งหนึ่งมีไอเดียที่จะทำแอปพลิเคชัน Marketing Content Approval ไว้สำหรับขออนุมัติบทความหรือคอนเทนต์ต่างๆจากหัวหน้าทีมก่อนที่จะทำการเผยแพร่ออกไป โดยทีมต้องการใช้วิธีการขออนุมัติผ่าน AppSheet เนื่องจากอยากได้ความสะดวกในการส่งแจ้งเตือนจากแอปเข้าไปที่อีเมลของหัวหน้าทีมโดยอัตโนมัติ (Automated Notification) เมื่อมีการ submit คอนเทนต์ผ่านแอปพลิเคชัน...

Continue reading

4 Tips เตรียม Spreadsheet ให้พร้อม ง่ายต่อการสร้างแอปด้วย AppSheet

จะสร้างแอปด้วย AppSheet ก็ต้องเตรียมตาราง Spreadsheet ใน Google Sheets ให้พร้อม บอกได้เลยว่าการเตรียม Spreadsheet สำหรับการสร้างแอปนั้นง่ายนิดเดียว เพราะการสร้างชีตนั้นจะอ้างอิงจากรูปแบบตารางที่หลายองค์กรนั้นมีการใช้งานกันอยู่แล้วนั่นเอง และเพื่อให้ AppSheet สามารถทำงานได้ง่าย คุณจะต้องสร้างตารางที่ทำให้ AppSheet เข้าใจกลไกของการทำงานของคุณได้มากที่สุด ดังนั้นหากคุณรู้ Tips ในการจัดการตารางก่อนสร้างแอปจะช่วยให้คุณสามารถสร้างแอป จัดการ และแก้ไขแอปของคุณได้ง่ายมาก ๆ ทำด้วยตัวเองได้เลย คอนเฟิร์ม ! 4 Tips เตรียม Spreadsheet ให้พร้อม ง่ายต่อการสร้างแอปด้วย AppSheet 1. ใช้ layout ที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย ก่อนที่คุณจะกำหนดข้อมูล ให้คุณตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่า คุณต้องการสร้างแอปสำหรับอะไรหรือคุณต้องการใช้แอปเพื่อทำอะไร ? คุณต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง ? ตัวอย่างเช่น คุณต้องการทำแอปสำหรับเช็คสต๊อกสินค้าในร้านขายของ คุณต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง ? ชื่อสินค้า รหัสสินค้า จำนวนสต๊อกที่มีอยู่ในร้านหรือจำนวนที่ขายออก เป็นต้น เมื่อข้อมูลพร้อมแล้ว ก็นำมาสร้างตารางใน Google Sheets ได้เลย คำแนะนำ: คุณควรที่จะรวมตารางไว้ในตารางเดียวกัน หากแยกตารางออกเป็นหลาย ๆ ตาราง จะทำให้แอปทำงานค่อนข้างซับซ้อนและยากต่อการเปลี่ยนแปลงข้อมูล Spreadsheet ที่ถูกต้อง Spreadsheet ที่ไม่แนะนำ 2. ตั้งชื่อคอลัมน์ให้ง่ายและสอดคล้องกัน เพื่อให้ AppSheet สามารถทำงานได้ง่ายและอ่านค่าได้อย่างรวดเร็ว เราแนะนำให้คุณตั้งชื่อคอลัมน์ให้สั้นกระชับ อ่านแล้วเข้าใจง่าย และในกรณีที่คุณต้องการใส่ข้อมูลย่อยของแต่ละรายการ ให้คุณสร้างแท็บในชีตเดียวกันเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแท็บ โดยคุณจะต้องใช้ชื่อคอลัมน์ให้เหมือนกันกับแท็บแรก  ตัวอย่างเช่น แท็บ 1: มีคอลัมน์ชื่อสินค้า รหัสสินค้า และห้องจัดเก็บ ซึ่งคุณอาจจะอยากอธิบายเพิ่มเติมว่าห้องจัดเก็บของแต่ละรายการอยู่ที่ใดบ้าง ให้คุณสร้างแท็บที่ 2 โดยมีคอลัมน์แรกเป็น ‘ห้องจัดเก็บ’ คอลัมน์ต่อมาถึงจะเป็นคำอธิบายในส่วนของที่ตั้งของสถานที่นั้น ๆ  ซึ่งแท็บที่ 2 จะถูกเรียกใช้งานก็ต่อเมื่อคุณต้องการให้ข้อมูลนั้นแสดงผลโดยอัตโนมัติเมื่อมีคนคลิกรายการที่กำหนด เช่น ส้มอยู่ห้องจัดเก็บ B เมื่อมีคนกรอกข้อมูลเข้ามาแล้วเลือกส้ม > ข้อมูลที่ตั้งห้องจัดเก็บ...

Continue reading

สร้างแอปด้วย AppSheet ทำไมถึงง่ายกว่าแพลตฟอร์มอื่นกันนะ ?

เรื่องของเทคโนโลยีหรือเรื่องของแอปพลิเคชัน ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและเข้าใจยาก ยิ่ง ณ ตอนนี้โลกของเราได้กลายเป็นโลกแห่งดิจิทัลไปแล้ว ก็ยิ่งทำให้เทคโนโลยีมีความซับซ้อนขึ้นไปอีกเท่าตัว จะให้คนธรรมดามาสร้าง APP ก็เหมือนจะไม่มีหวังและเกินกำลังไปเสียเปล่า แต่ทว่าภายใต้ความซับซ้อนนี้ Google ก็ได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า AppSheet ที่เปิดโอกาสให้คนธรรมดาแบบเราได้สร้างสรรค์แอปพลิเคชันของตัวเอง เรียกได้ว่าสวนทางกับแนวคิดความซับซ้อนของเทคโนโลยีอย่างมาก เพราะจากเดิมที่ต้องรู้เรื่องการเขียนโปรแกรม กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ ใครก็สร้างได้ ไม่ต้องมีความรู้เฉพาะทางอีกต่อไป ทำไมการสร้าง APP จาก AppSheet ถึงง่ายกว่าแพลตฟอร์มอื่น ? ✅ ไม่ต้องมีความรู้เรื่องภาษาคอมพิวเตอร์ ✅ ไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ด  ✅ ไม่ต้องซื้อโปรแกรมสำเร็จรูปหรือจ้าง Outsource ไม่ต้องมีความรู้เรื่องภาษาคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ด ไม่ต้องซื้อโปรแกรมสำเร็จรูปหรือจ้าง Outsource 1. ไม่ต้องมีความรู้เรื่องภาษาคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นภาษา JavaScript, Python, PHP หรือภาษาอื่น ๆ คุณก็ไม่จำเป็นจะต้องรู้เรื่องภาษาเหล่านี้แม้แต่นิดเดียว เพราะการทำงานของ AppSheet นั้นเป็นการนำข้อมูลที่คุณมีอยู่ มาสร้างเป็นแอปพลิเคชันโดยการนำข้อมูลมา Match กัน หากจะกล่าวให้เข้าใจง่าย ๆ ให้นึกภาพว่าคุณกำลังสร้าง Google Forms เช่น คุณต้องการสร้างฟอร์มการส่งงานสำหรับฝ่าย Marketing คุณต้องการข้อมูลอะไรบ้าง ? เช่น วันที่ส่งงาน  ชื่องาน  ชื่อผู้ส่ง ไฟล์แนบ  หรือรายละเอียดอื่น ๆ ให้คุณนำข้อมูลเหล่านี้มาใส่ไว้ใน Google Sheets เพื่อกำหนดเป็นหัวข้อ ตัวอย่างเช่น เพียงแค่คุณมีหัวข้อเหล่านี้ คุณก็สามารถสร้างแอปได้แล้ว ดูขั้นตอนการสร้างแอปได้ที่นี่ คลิก 2. ไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ด ทักษะการเขียนโค้ดเป็นสิ่งที่ต้องมาคู่กับภาษาคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว มีทั้งสถาบันเปิดสอนและคอร์สเรียนออนไลน์ที่สอนเรื่องนี้มากมาย แต่สำหรับ AppSheet เพียงแค่คุณรู้วิธีการทำงานบนซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เช่น Google Workspace, Microsoft Office 365 หรืออื่น ๆ คุณก็สามารถสร้างแอปเองได้เลย ไม่ต้องไปเรียนเสริมใด ๆ ทั้งนั้น 3. ไม่ต้องซื้อโปรแกรมสำเร็จรูปหรือจ้าง...

Continue reading

มีแอปพลิเคชันได้ง่ายๆใน 7 ขั้นตอนกับ AppSheet

มีแอปพลิเคชันได้ง่ายๆใน 7 ขั้นตอนกับ AppSheet สร้างแอปพลิเคชันได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดสักตัว? บทความนี้เราจะพาคุณมาดูขั้นตอนการสร้างแอปพลิเคชันด้วยแพลตฟอร์ม AppSheet ว่าหน้าตาและรูปแบบของแอปมีอะไรให้เราได้เล่นบ้าง การทำงานของแอปนั้นเป็นอย่างไร? แล้วที่บอกว่าไม่ต้องเขียนโค้ดเลยจะสามารถสร้างแอปขึ้นมาได้จริงๆหรือ? เพียงแค่จบบทความ 7 ขั้นตอนการสร้างแอปกับ AppSheet นี้เท่านั้นที่จะตอบคำถามเหล่านี้ทั้งหมดได้ ไปดูกันเลย… Step 1: เตรียมข้อมูลให้พร้อม อันดับแรกเลย คุณต้องจัดเตรียมข้อมูลให้พร้อมว่าข้อมูลที่คุณต้องการใช้งานหรืออยากให้มีในแอปนั้นมีอะไรบ้าง ซึ่ง AppSheet นั้นสามารถเชื่อมต่อฐานข้อมมูลได้หลายแหล่งด้วยกัน เช่น Google Sheets, Excel, Cloud SQL เป็นต้น ข้อสำคัญคือคุณต้องจัดเรียงตำแหน่งข้อมูลนั้นให้เหมาะสมด้วย โดยข้อมูลนั้นต้องเริ่มปรากฎที่หัวคอลัมน์แถวแรกเท่านั้น เพราะถ้าข้อมูลเริ่มจากคอลัมน์และแถวอื่นจะไม่สามารถกดสร้างแอปได้ How to: 4 Tips เตรียม Spreadsheet ให้พร้อม ง่ายต่อการสร้างแอปด้วย AppSheet Step 2: เชื่อมต่อข้อมูล เมื่อคุณจัดการข้อมูลที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนนี้จะเป็นการนำข้อมูลเหล่านั้นมาสร้างเป็นแอปพลิเคชัน ยกตัวอย่างหากคุณสร้างฐานข้อมูลใน Sheets สามารถกดสร้างแอปได้ที่  Extension > AppSheet > Creat an app  หรือสามารถกดสร้างแอปได้ที่ หน้าเว็บ AppSheet  Step 3: เข้าสู่ขั้นตอนการสร้างแอป เมื่อคุณคลิกสร้างแอปแล้ว จะสังเกตว่ามีหน้าต่างต้อนรับสู่การสร้างแอปสีฟ้าปรากฎขึ้น นั่นหมายความว่าคุณได้เป็นนักพัฒนาแอปเต็มตัวแล้ว เมื่อคุณปิดหน้าต่างลง จะเห็นว่าที่ด้านขวามือจะเป็นการ preview หน้าตาของแอปคุณ แต่ละ page ที่ปรากฎบน preview นั้นจะเรียกว่า View ซึ่งเบื้องต้น AI ของ AppSheet จะทำการแสดง view ขึ้นมาจากฐานข้อมูลที่คุณมี โดยที่คุณสามารถปรับแก้ไขหรือเพิ่มเติมทีหลังได้เช่นกัน ทีนี้มาทำความรู้จักกับแถบเมนูด้านซ้ายมือกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจและใช้งานบ่อยๆบ้าง? Data: ข้อมูลและจัดการคุณสมบัติของคอลัมน์ต่างๆView: การแสดงหน้าเพจและตั้งค่ารูปแบบการจัดวางของหน้าเพจAction: กำหนด action หรือมุมมองของแต่ละ userBots: การสร้าง automation ของแอปพลิเคชัน Security: ตั้งค่าความปลอดภัยของแอปและกำหนดบทบาทหน้าที่ของ user Setting: ปรับแต่งข้อมูลสำหรับผู้ใช้แอปและตั้งค่าคุณสมบัติของแอปManage:...

Continue reading

เผยผลลัพธ์การใช้งาน AppSheet จากองค์กรชั้นนำระดับโลก

จากตลาด Low-code สู่ No-code Platform AppSheet กลายมาเป็นเครื่องมือสร้างแอปพลิเคชันที่สามารถทลายกำแพง Coding ได้อย่างสมบูรณ์แบบ 100 %  ผลการวิเคราะห์จาก Forbes ได้กล่าวว่า จากนี้เป็นต้นไปแอปพลิเคชันต่าง ๆ จะถูกพัฒนาโดย No-code/ Low-code Platform มากกว่า 65% ความต้องการเครื่องมือที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพจะทวีคูณเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อสนับสนุนการทำงานแบบไร้รอยต่อ การสื่อสารแบบ Real-time และการนำข้อมูลไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ AppSheet จึงได้กลายมาเป็นผู้นำตลาดด้าน No-code/ Low-code Platform ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ โดยประเทศที่กำลังให้ความสนใจ AppSheet และมีการนำ AppSheet ไปใช้งานกับธุรกิจแล้ว ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส แคนาดา อินเดีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และประเทศอื่น ๆ ซึ่ง ณ ตอนนี้ ในประเทศไทย AppSheet ก็กำลังเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน ต้องการทำความรู้จัก AppSheet ศึกษาเพิ่มเติมได้เลย !   ผลลัพธ์การใช้งาน AppSheet จากองค์กรชั้นนำระดับโลก Globe TelecomAppSheet คือกุญแจแห่งความสำเร็จของ Globe Telecom เพราะ AppSheet นั้นสามารถขับเคลื่อนองค์กรสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ และสามารถสร้างวัฒนกรรมการทำงานร่วมกันแบบดิจิทัลได้ ซึ่งตัวอย่างผลลัพธ์การใช้งาน AppSheet ได้แก่ พนักงานในองค์กรสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้เองมากกว่า 200 แอป องค์กรสามารถลดระยะเวลาการประมวลผลจากการสร้างแอปแบบเดิมได้กว่า 79.8%  องค์กรสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้สูงถึง 6.7 ล้านดอลลลาร์ในปีแรก Lixilเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายในการเติบโตอย่างมั่นคง องค์กรมีแนวคิดที่จะสนับสนุนให้พนักงานใช้เครื่องมือดิจิทัลในการทำงาน ซึ่งภายใน 1 ปี พนักงานสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้ราว ๆ กว่า 850 แอป ซึ่งแอปที่ถูกสร้างจาก AppSheet นี้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างดี...

Continue reading

AppSheet ช่วยให้ธุรกิจของคุณดีขึ้นได้อย่างไร ? ไม่ใช่องค์กรสาย IT ใช้ได้ไหม ?

ในฐานะนักธุรกิจคนหนึ่ง แน่นอนว่าการผลักดันธุรกิจให้ก้าวหน้านั้นเป็นสิ่งที่ไม่เคยหยุดนิ่งเลย ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาธุรกิจ คือกระบวนการทำงานภายในองค์กร หรือที่เราเรียกกันว่า “Workflow”  หากเราลองหาความเชื่อมโยงล่ะก็ ต้องบอกว่า หากองค์กรมีระบบการทำงานดีก็จะช่วยให้ผลประกอบการดีไปด้วย คุณจะเชื่อหรือไม่ ?  ซึ่งในปัจจุบันเรามีเครื่องมือที่ช่วยพัฒนาธุรกิจอย่างหลากหลาย เช่น AppSheet แพลตฟอร์มสร้างแอปพลิเคชันเพื่อปรับเปลี่ยนขั้นตอนการบริหารจัดการ หรือกระบวนการทำงานของธุรกิจให้เป็นรูปแบบอัตโนมัติ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถพัฒนาและต่อยอดธุรกิจได้จริง  ตัวอย่างเช่น บริษัท Globe Telecom ที่สามารถลดระยะเวลาการประมวลผลจากการสร้างแอปแบบเดิมได้กว่า 79.8% ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า 6.7 ล้านดอลลาร์ และอีกมากมาย สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> How AppSheet continues to grow as a low-code platform market leader AppSheet จะช่วยให้ธุรกิจของคุณดีขึ้นได้อย่างไร ? สรุปสั้น ๆ ได้ ดังนี้ เมื่อการทำงานของคุณเริ่มเป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น คุณจะสามารถลดระยะเวลาการทำงานที่ซ้ำซ้อนลงได้ พนักงานสามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบาย ส่งโปรเจกต์ได้อย่างรวดเร็ว AppSheet สามารถลดความผิดพลาดจากมนุษย์ หรือ Human error ได้ องค์กรไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อโปรแกรมสำเร็จรูปหรือจ้างนักเขียนโปรแกรมอีกต่อไป  พนักงานในองค์กรสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้เลยทันที ไม่ต้องรอเวลาประมวลผลนาน AppSheet เหมาะกับธุรกิจใดบ้าง ? จริงอยู่ที่ AppSheet นั้น คือการสร้างแอปพลิเคชัน ถึงแม้ว่าคำนี้จะดูไกลตัวไปบ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า AppSheet มีไว้สำหรับอุตสาหกรรมไอทีเพียงอย่างเดียว คุณสามารถนำ AppSheet มาประยุกต์ใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรมและทุกแผนกงาน เช่น การจัดการ Inventory การรับออเดอร์ซื้อขาย การบันทึกข้อมูลฝ่ายจัดซื้อ การส่งเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ การอัปเดตสถานะกระบวนการต่าง ๆ หรือการสร้างแบบฟอร์มเก็บข้อมูล และอื่น ๆ ตัวอย่างสายงานที่ Demeter ICT ให้บริการ AppSheet Accounting Customer Engagement Education & Training Field Service Human...

Continue reading

ทำความรู้จักกับ No Code Platform คืออะไร? ทำไมถึงได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้

ทำความรู้จักกับ No Code Platform คืออะไร? และทำไมถึงได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บวกกับการแข่งขันด้านความไวของธุรกิจที่มีมากขึ้น ทำให้หลายธุรกิจมองเห็นถึงความสำคัญในการนำโซลูชันมาช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานหรือพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ ระบบต่างๆ หรือแอปพลิเคชัน ซึ่งในการพัฒนาแต่ละครั้งมักจะมีรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างมาก จำเป็นต้องพัฒนาด้วยผู้เชี่ยวชาญหลายส่วน เช่น การออกแบบ process การเขียนโค้ดด้วยภาษาต่างๆ หรือการออกแบบ UX/UI ที่ต้องสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้ใช้งาน ล้วนแล้วแต่ใช้ระยะเวลาแทบทั้งสิ้น และหากองค์กรที่ไม่มีนักพัฒนาโปรแกรม หรือไม่มีความรู้ในการเขียนโปรแกรมเลยล่ะ …. พอจะมีตัวช่วยอะไรบ้าง?… No-Code Platform คืออะไร ด้วยปัญหามากมายเหล่านั้น เป็นเหตุให้ผู้ประกอบธุรกิจซอฟต์แวร์มากมาย ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ประเภท “No-Code Platform” ขึ้นมา ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการแบบ Graphical User Interface (GUI) ในลักษณะที่เป็นการคลิก ลาก วาง ปุ่มหรือเทมเพลต ด้วยเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์กับบุคคลหรือองค์กรที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในการเขียนโปรแกรมที่ซับซ้อน ให้สามารถพัฒนาโปรแกรมได้ด้วยตนเอง หรือแม้แต่องค์กรที่มีโปรแกรมเมอร์ ก็ยังเลือกใช้ No-Code Platform มาต่อยอดเพื่อช่วยทุ่นแรง เนื่องจากต้องการย่นระยะเวลา เพิ่มความสะดวก และยังช่วยลดต้นทุนของทรัพยากรด้านต่างๆ ได้อีกด้วย ตัวอย่างซอฟต์แวร์ ที่เป็น No-Code Platform ตัวอย่างแพลตฟอร์มแบบไม่ต้องเขียนโค้ด ที่นักพัฒนาสร้างขึ้นมาเพื่อให้ตอบโจทย์ในโซลูชันที่แตกต่างกันไปมีมากมายหลายประเภทให้เลือกใช้ เช่น Website– สร้างเว็บไซต์ที่ไม่ต้องเขียนโค้ด ลักษณะการทำงานแบบ Drag and Drop สามารถปรับแต่ง element ต่างๆได้ตามต้องการ: WordPress, Webflow เป็นต้นEmail automation– เครื่องมือการส่งอีเมลแจ้งเตือนแบบอัตโนมัติ สามารถปรับรูปแบบและหน้าตาในการสร้างอีเมลนั้นๆได้ เป็นลักษณะ Drag and drop เช่นกัน ตัวอย่างเช่นการส่งแจ้งเตือน welcome email, order confirmations, shipping confirmations และอื่นๆ:  Mailchimp, Mailerlite, Active Campaign เป็นต้นChat automation– จัดการการตอบแชทอัตโนมัติ หรือป้อนข้อมูลเป็น auto chat...

Continue reading

สรุป AppSheet คืออะไร ? ทำอะไรได้บ้าง ? (ฉบับเข้าใจง่าย)

AppSheet ถือได้ว่าเป็นแอปพลิเคชันที่ถูกพูดถึงและกำลังมาแรงแซงทางโค้งอย่างมากในประเทศไทยของเรา เพราะเพียงแค่เดือนเดียว Keyword คำว่า “AppSheet” ถูกค้นหาไปมากกว่า 3 หมื่นครั้ง  แล้วทำไม AppSheet ถึงกำลังได้รับความนิยมมากขนาดนี้กันนะ ? วันนี้ Demeter ICT จึงได้ทำสรุปฉบับเข้าใจง่าย ที่ไม่ว่าจะมือใหม่หัดใช้หรือคนที่ต้องการทำความรู้จักเพิ่มเติมว่า AppSheet จริง ๆ แล้วคืออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร ทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้ท่านได้เข้าใจและเห็นภาพรวมกันชัด ๆ ไปเลย ! AppSheet คืออะไร ? AppSheet คือ เครื่องมือสร้างแอปพลิเคชันแบบเร็วที่สุดโดยที่คุณไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ดแต่อย่างใด เพราะ AppSheet นั้นคือ No-Code Platform แบบ 100% เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมใหม่จากค่าย Google ที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว AppSheet ทำอะไรได้บ้าง ? AppSheet สามารถสร้างแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลที่คุณจะต้องนำมาใช้งานก็มาจาก Google Sheets ที่คุณใช้อยู่ทุกวันนั่นแหละ เพียงแต่ว่าคุณนำข้อมูลเหล่านี้มาสร้างกระบวนการการทำงานให้เป็นระบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้การทำงานของคุณง่าย สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดย AppSheet สามารถรองรับได้ทั้ง Desktop version และ Mobile version เลย Demeter ICT สรุปให้สั้นๆ ว่า AppSheet สามารถ สร้างแอปพลิเคชันได้ สร้าง Workflow Automation ได้ สร้าง SMS, Bot, Push notifications อัตโนมัติได้ เชื่อมต่อกับข้อมูลได้หลากหลายประเภท เช่น Excel, Dropbox, Box, และ Saleforce.com ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็น Google Sheets เท่านั้น บันทึกข้อมูลจาก Google Forms Barcode ลายเซ็น...

Continue reading
build application by Apps script or AppSheet

Apps Script VS AppSheet ใช้แอปไหนดีสร้างแอปพลิเคชันแบบง่ายที่สุด!

ใช้ App ไหนดีสร้างแอปพลิเคชันแบบง่ายที่สุด? อยากเขียนแอปพลิเคชันจัง แต่ทำอย่างไรดีไม่มีความรู้เรื่องโค้ด หรือโปรแกรมใด ๆ เลย? ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อคุณได้รู้จัก App Script และ AppSheet แอปพลิเคชันสุดล้ำใน Google Workspace ที่แทบไม่ต้องใช้ความรู้เรื่องภาษาเฉพาะในการเขียนโค้ด คนธรรมดาอย่างเราก็ทำได้ แต่จะใช้แอปไหนดีล่ะถึงจะสร้างได้ง่ายที่สุดและเหมาะกับคุณมากที่สุด ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ 2 แอปพลิเคชันนี้กัน Apps Script คือ แพลตฟอร์มเขียนโค้ด Javascript แบบ Low Code Platform ที่ทำงานอยู่บน Cloud-based ซึ่งช่วยให้คุณสามารถสร้างหรือพัฒนาแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เพราะ Apps Script ถูกออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกันกับแอปพลิเคชันอื่น ๆ จาก Google Workspace ได้อย่างง่าย โดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบขั้นเทพแต่อย่างใด AppSheet คือ แพลตฟอร์มที่คุณไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดในการสร้างหรือพัฒนาแอปพลิเคชัน ถือเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันสุดพิเศษจากทาง Google ที่สามารถทำงานร่วมกันกับ Google Workspace ได้อย่างไม่สะดุดเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าความรู้เป็นศูนย์ก็สามารถสร้างแอปพลิเคชันได้ด้วยตัวเอง ง่ายมาก ๆ  สรุปง่าย ๆ ก็คือเจ้าสองแอปนี้ถูกออกแบบให้มาช่วยในการสร้างและพัฒนาแอปพลิเคชันให้ง่ายที่สุด ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล ใคร ๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย เรียนรู้ได้รวดเร็ว และสร้างระบบอัตโนมัติได้ด้วยตนเอง เพียงแค่มี Apps Script หรือ AppSheet ก็สามารถสร้างสรรค์ได้ตามใจต้องการ แล้ว Apps Script และ AppSheet ทำงานกันอย่างไร? จากที่ได้กล่าวไปด้านบนแล้วว่าทั้งสองแอปสามารถทำงานร่วมกันกับ Google Workspace ได้ ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Docs, Sheets, Slides, Drive หรือ Forms ก็สามารถดึงไฟล์มาสร้างได้เลย โดยที่ตัว App Scripts คุณจะสามารถสร้างฟังก์ชัน Add on ที่อยู่ในแอปพลิเคชันต่าง...

Continue reading