Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

เทรนด์การทำงานแบบ Online Collaboration คืออะไร ? ทำอย่างไรถึงจะได้ผล ?

Online คือ การเชื่อมต่อผ่านระบบคอมพิวเตอร์/ อินเทอร์เน็ต
Collaboration คือ การทำบางสิ่งบางอย่างร่วมกันหรือการร่วมมือกัน

เมื่อมีการนำคำเหล่านี้มาประยุกต์ใช้กับการทำงานในองค์กรจึงหมายถึงการทำงานร่วมกันผ่านอินเทอร์เน็ตหรือแบบออนไลน์นั่นเอง (Online Collaboration)

แอปพลิเคชันแรกที่เรียกได้ว่าเป็นใบเบิกทางสู่การเริ่มต้นการทำงานแบบนี้ คือ Google Docs ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Google Docs นั้นเป็นแอปพลิเคชันที่นักเรียน นักศึกษา และองค์กรหลายแห่งนิยมใช้กันสูงมาก ๆ เนื่องจากเป็นแอปพลิเคชันที่สามารถทำงานได้แบบออนไลน์ ทำให้ทุกคนทำงานด้วยกันได้ถึงแม้จะอยู่ต่างสถานที่กัน อีกทั้งเครื่องมือต่าง ๆ ก็ดูทันสมัยและใช้งานง่ายอีกด้วย

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนยุคใหม่จึงคุ้นชินกับการทำงานแบบ Online Collaboration เพราะ Google Docs ได้ทำให้ผู้คนตระหนักรู้ว่า การทำงานร่วมกันแบบออนไลน์นั้นสะดวกสบายและมีประโยชน์มากมาย จึงทำให้การทำงานแบบนี้กลายเป็นเทรนด์ยุคใหม่ที่กระตุ้นให้หลาย ๆ องค์กรต่างก็พากันให้ความสนใจเพื่อหาโซลูชันให้ตอบโจทย์ต่อการทำงานมากที่สุด

นอกจาก Google Docs แล้ว คุณเคยใช้แอปพลิเคชันอื่นอีกบ้างไหม ?

…..
Google Meet ? Google Sheets ? หรือว่าจะเป็น Google Slides ?

Demeter ICT เชื่อว่าคุณต้องเคยเห็นหรือเคยใช้แอปพลิเคชันเหล่านี้มาบ้างแน่ ๆ ซึ่งแอปเหล่านี้เองก็เป็นหนึ่งในแอปเพื่อการทำงานร่วมกันของ Google ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ว่า ‘Google Workspace’ ที่เป็นแพลตฟอร์มสนับสนุนการทำงานร่วมกันแบบออนไลน์ที่โด่งดังที่สุดในขณะนี้ มีผู้ใช้บริการรวมแล้วกว่า 3 พันล้านบัญชีทั่วโลก

3 กุญแจสำคัญที่ทำให้การทำงานแบบ Online Collaboration ประสบความสำเร็จและได้ผลจริง

1. People

แน่นอนว่าหากต้องร่วมมือกันทำงาน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างแรกคือ Team Member ปัจจัยหลักที่ทำให้การ Collaboration สมบูรณ์มากที่สุด หากคนในทีมขาดความรู้และความสามารถในการใช้เครื่องมือ ก็อาจส่งผลให้การทำงานร่วมกันนี้ไม่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น คนในทีมของคุณรู้ว่าซอฟต์แวร์ที่ทีมกำลังใช้งานอยู่สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างหลากหลาย แต่ทว่าคนในทีมส่วนใหญ่ไม่รู้วิธีการใช้งานซอฟต์แวร์ตัวนี้เลย ทำให้ทีมเสียโอกาสในการใช้ความสามารถของเครื่องมือ Collaboration platform มาต่อยอดธุรกิจของตนนั่นเอง

2. Process

เพื่อให้การเริ่มต้นการใช้งาน Collaboration platform เป็นไปอย่างราบรื่น ทีมควรที่จะวางแผนกระบวนการทำงานต่าง ๆ ให้ชัดเจน อีกทั้งหัวหน้าทีมยังจำเป็นที่จะต้องสื่อสารกับคนในทีมสำหรับจุดประสงค์ของการใช้งานเครื่องมือเหล่านี้ เพื่อให้ทีมได้รับรู้ถึงสาเหตุและความสำคัญของการใช้ซอฟต์แวร์หรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้การปรับตัวและการเรียนรู้การใช้เครื่องมือเป็นไปได้อย่างง่ายมากยิ่งขึ้น

3. Product

การเลือกใช้ Collaboration platform ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญมากไม่แพ้ Process และ People เลย คุณควรเลือกแพลตฟอร์มที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานและสามารถแก้ไขปัญหาของคุณได้ตรงจุด

ตัวอย่างคำถามที่คุณควรถามทีมหรือผู้ใช้งานก่อนเลือกใช้แพลตฟอร์ม เช่น

  • ปัญหาใดที่ส่งผลให้ทีมของคุณทำงานล่าช้าหรือเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน
  • พนักงานของคุณเคยขอหรือแนะนำเครื่องมือสำหรับการทำงานบ้างหรือไม่
  • ฟีเจอร์ใดที่คุณต้องการเพื่อมาซัพพอร์ตการทำงานของทีมและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ

หากคุณตอบคำถามเหล่านี้ได้แล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณจะเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมต่อการพัฒนาการทำงานของคุณให้ได้มากที่สุดกัน

Google Workspace – Online Collaboration Platform แพลตฟอร์มที่รวบรวมทุกแอปพลิเคชัน ตอบโจทย์ได้ทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Google Docs, Slides, Sheets, Forms, Meet, Sites, Calendar, Chat และแอปพลิเคชันอื่น ๆ อีกมากมาย เรียนรู้เพิ่มเติม คลิก

Demeter ICT ผู้เชี่ยวชาญด้าน Business Transformation ยินดีให้คำปรึกษาฟรี เพื่อช่วยให้องค์กรของคุณทรานส์ฟอร์มการทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ปรึกษา โทร. 02-030-0066

ระบบอีเมลองค์กรและชุดแอปพลิเคชันเพื่อการทำงานร่วมกัน ตอบโจทย์สำหรับทุกธุรกิจ

บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด - พันธมิตรระดับ Google Premier Partner

ตัวแทนจำหน่าย Google Workspace ในประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิกอย่างเป็นทางการ