การเพิ่มตารางนัดหมายผ่านอีเมล์

เมื่อมีผู้ส่งอีเมล์มา เพื่อบอกวันที่ต้องการสร้างการนัดหมาย หรือวันที่อยากชวนทำกิจกรรมอะไรบางอย่างโดยที่ไม่ invite จากปฏิทินโดยตรง คุณสามารถเป็นผู้เพิ่มวันและเวลานั้นลงไปยังปฏิทินของคุณโดยผ่านทางอีเมล์ได้ ซึ่งมีวิธีการทำได้ง่ายๆ ดังนี้ Login เข้าสู่ระบบอีเมล์ G Suite (Google apps for business) แล้วเลือก inbox หรือกล่องข้อมูลขาเข้า แล้วเปิดอีเมล์ขึ้นมา จากนั้นดูที่วันเวลาในเนื้อหาอีเมล์ กดที่วัน หรือเวลานั้น 1ครั้ง เพื่อเริ่มการเพิ่มกิจกรรมลงในปฏิทิน จะมี Pop- up แสดงขึ้นมา เพื่อให้เราแก้ไขหัวข้อ วันและเวลา ซึ่งค่าเริ่มต้น จะนำชื่อเรื่องของอีเมล์มาเป็นชื่อกิจกรรมหรือเหตุการณ์ในปฏิทิน ส่วนวันและเวลานั้นก็จะนำมาจากเนื้อหาในอีเมล์ จากนั้นกดปุ่ม “Add to calendar” เพื่อเพิ่มกิจกรรมหรือเหตุการณ์นี้ลงในปฏิทินของคุณ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย *** หมายเหตุ: ผู้รับเมลล์จะสามารถเพิ่มกิจกรรมหรือเหตุการณ์ลงปฏิทินได้นั้น ผู้ส่งอีเมล์จะต้องระบุวันและเวลา เป็นภาษาอังกฤษ เช่น Monday, on Monday about 10.00 AM เป็นต้น และเมื่อผู้รับอีเมล์ทำการเพิ่มกิจกรรมหรือเหตุการณ์ลงปฎิทิน Google จะเลือกวันที่ใกล้วันปัจจุบันมากที่สุดเป็นค่าเริ่มต้นให้ เช่น วันนี้เป็นวันอังคารที่10 มิถุนายน 2556 ถ้าได้รับอีเมล์มีเนื้อหาว่า Let’s meeting on Tuesday ค่าเริ่มต้นจะเป็นวันอังคารสัปดาห์ถัดไป คือ วันอังคารที่17 มิถุนายน 2556 นั้นเอง บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการ G Suite ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ (ตัวแทน Google ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ โทร!  02-675-9371  092-262-6390  097-008-6314 (ฝ่ายขาย)  support@dmit.co.th Official LINE...

13 เหตุผล ที่จะทำให้คนทำธุรกิจ เปลี่ยนใจจากฟรี Gmail มาใช้ G Suite

ลองคิดดูว่า ในตอนนี้บริษัทของคุณยังคงใช้ฟรี Gmail ในการติดต่อสื่อสารอยู่ อย่างเช่น michale_dmit@gmail.com, sales_dmit@gmail.com, หรือ dmitsupport2@gmail.com ในขณะที่ธุรกิจของคุณนั้นกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และต้องการเริ่มใช้ชื่ออีเมลที่ดูโปรเฟสชันแนลมากขึ้น อย่างเช่น sales@dmit.co.th, marketing@dmit.co.th, michale@dmit.co.th เป็นต้น จากผลการวิเคราะห์พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่พอใจที่จะติดต่อกับบริษัทที่ใช้อีเมลธุรกิจมากกว่าบริษัทที่ใช้ฟรีอีเมล และคุณทราบหรือไม่ว่าการสร้างอีเมลธุรกิจแบบที่ยกตัวอย่างด้านบนนั้นง่ายมาก ถึงแม้ว่าพนักงานยังเคยชินกับระบบเดิม ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้ได้อย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้เอง G Suite จึงตอบโจทย์การทำธุรกิจของคุณ G Suite เป็นระบบอีเมลสำหรับธุรกิจ ที่มีรูปแบบการใช้งานเรียบง่าย อีกทั้งยังเอื้อต่อการทำงานร่วมกันระหว่างพนักงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยเครื่องมือบนระบบคลาวด์อย่าง Google Calendar, Google Drive, Google Docs, Google Sheets, Google Slides, Google Forms และอื่นๆอีกมากมาย และถ้าคุณมีชื่อโดเมนอยู่แล้วสำหรับทำเว็บไซต์ของบริษัท ก็จะเป็นการลดขั้นตอนให้คุณเปลี่ยนมาใช้ G Suite ได้รวดเร็วขึ้นไปอีก และนี่ก็คือ 13 เหตุผล ที่ธุรกิจคุณควรเปลี่ยนจากฟรี Gmail มาเป็น G Suite 1. มีสิทธิ์เป็นเจ้าของบัญชีอีเมล ผู้ที่เป็นเจ้าของบัญชีอีเมลของพนักงานทุกคนก็คือบริษัทของคุณ ไม่ใช่พนักงาน สมมติว่าวันใดวันหนึ่งพนักงานของคุณลาออก แล้วไปทำงานให้คู่แข่งแทน หรือร้ายกว่านั้นคือเปิดบริษัทมาแข่งเองเลย หากเป็นฟรีอีเมลก็เท่ากับว่าพวกเขาสามารถเอาบัญชีอีเมลที่เคยติดต่อกับลูกค้าไว้ หรือมีข้อมูลสำคัญไปได้ แต่หากใช้ G Suite ผู้ที่เป็นแอดมิน หากมีคนออกจากบริษัท คุณสามารถเปลี่ยนชื่ออีเมลกับพาสเวิร์ดของบัญชีนั้นได้ทันที สามารถส่งต่อบัญชีนั้นให้กับคนอื่นได้ และคุณยังสามารถเข้าถึงประวัติการใช้งานหรือประวัติการติดต่อของผู้ใช้นั้นได้อีกด้วย 2. สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของไฟล์ ด้วย G Suite ทั้งไฟล์งานใน Google Docs, Google Slides หรือ Google Sheets ที่สร้างโดยพนักงาน แต่ผู้ที่เป็นเจ้าของไฟล์นั้นจริงๆคือบริษัทของคุณ จำให้ขึ้นใจว่า Google Drive เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งในการสำรองข้อมูลบนระบบคลาวด์ คุณสามารถสร้างนโยบายบริษัท ที่กำหนดให้พนักงานต้องสำรองข้อมูลไฟล์ รวมถึงทั้งโฟลเดอร์ในคอมพิวเตอร์ของตนไปยัง Google Drive ของบริษัทได้ด้วย ในกรณีหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น หากคุณตัดสินใจที่จะยุติการทำงานของพนักงาน คุณจะมีสิทธิ์ที่จะเข้าถึงไฟล์ทางธุรกิจของบุคคลนั้นทั้งหมดได้ 3. แชร์ไฟล์งานเอกสาร สามารถแชร์ไฟล์เอกสารให้กับทีมของคุณได้ง่ายขึ้นเมื่อคุณใช้บัญชี G Suite เดียวกันทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณต้องการให้พนักงานทุกคนเข้าถึงข้อมูลแบบดูได้อย่างเดียว (view-only) ใน...

Continue reading

มาดูกันว่ากองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ระดับโลกอย่าง New York Times ใช้ประโยชน์จาก Google Sheet อย่างไรบ้าง

ในเดือนพฤษภาคม ปี 2017 ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ลงมติว่าด้วยกฎหมายการดูแลสุขภาพฉบับใหม่ที่มีผลต่อชาวอเมริกันนับล้านคน เพื่อรายงานข่าวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทีมบรรณาธิการของ The Times ใช้ Google Sheets เพื่อนับและแสดงผลคะแนนแบบเรียลไทม์ผ่านทาง NYTimes.com ให้ผู้คนได้ร่วมโหวตผ่าน Google Sheets API “ผู้คนรู้สึกต้องการมีส่วนร่วมกับสมาชิกสภานิติบัญญัติของพวกเขา ในการตัดสินใจให้เร็วที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้” Tom Giratikanon บรรณาธิการด้านกราฟิกของ The Times กล่าว แต่ข้อบังคับในสภารายงานเกี่ยวกับวิธีการออกเสียงลงคะแนนตัวแทนแบบเรียลไทม์นั้นเป็นเรื่องยาก การถ่ายภาพถูกจำกัดไว้ในพื้นที่รวมพล และมีความล่าช้าจนกว่าคะแนนทั้งหมดจะปรากฏบนเว็บไซต์ของสภา ซึ่งเป็นกระบวนการที่บางครั้งอาจใช้เวลาถึงหนึ่งชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าที่จะเกิดขึ้น ทีมของ Giratikanon จึงใช้ Google Sheets API ทีมบรรณาธิการส่งผู้สื่อข่าวไปที่ห้องลงคะแนนเสียง และใส่ผลโหวตลงใน Google Sheets ตามที่ปรากฏในบอร์ดโหวต ข้อมูลจะถูกเติมโดยอัตโนมัติผ่านทาง NYTimes.com โดยเชื่อมต่อเว็บไซต์เข้ากับ Google Sheets “มันง่ายที่จะรู้สึกเหมือนการตัดสินใจถูกแอบแฝงด้วยกระบวนการทางการเมือง เทคโนโลยีจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดช่องว่างดังกล่าว การแชร์ข่าวอย่างทันท่วงทีเป็นการช่วยให้อำนาจแก่ผู้อ่านของเรามากขึ้น” Tom Giratikanon บรรณาธิการฝ่ายกราฟิก แห่ง The New York Times แล้วมันใช้งานอย่างไร Giratikanon ได้ทดสอบการเชื่อมต่อกับ Sheets ล่วงหน้าก่อนการโหวตของสภาจะเริ่ม เขาได้สร้าง Sheets ที่ระบุรายชื่อของสมาชิกสภานิติบัญญัติล่วงหน้า เพื่อให้ทีมงานของเขาสามารถหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในการป้อนข้อมูลในวันลงคะแนนเสียง ต่อมาเขาตั้งค่า Sheets เพื่อสร้างตัวคัดเลือกคำตอบง่ายๆ อย่าง “Y” หรือ “N” แทนความหมาย ใช่ และ ไม่ หลังจากผ่านไปไม่กี่รอบ ทีมของ Giratikanon นึกขึ้นได้ว่าพวกเขาสามารถเพิ่มตัวเลือกให้คนโหวตได้ อย่างการที่คนบางส่วนชอบลงคะแนนเสียงและรายงานผลตามพรรคการเมือง (เช่น พรรคเดโมแครต vs พรรครีพับลิกัน) ทีมบรรณาธิการทำการวิจัยว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติทั้ง 431 คน คาดหวังผลโหวตอย่างไรต่อไป พวกเขาจึงสร้างกติกาใน Sheets หากสมาชิกสภานิติบัญญัติเพียง 1 คนไม่เห็นด้วยกับผลโหวต ใน Sheets จะไฮไลท์ตารางเป็นสีเหลือง และทีมบรรณาธิการจะรีบทำการตรวจสอบการลงคะแนนเดิม ทำการสะท้อนข้อเท็จจริงแล้วเขียนลงในบทความ Giratikanon ยังตั้งกฎที่จะบันทึกการลงมติตามพรรคการเมืองอีกด้วย เป็นผลให้ The Times ซึ่งมีคน subscribe ประมาณ 2 ล้านคน และยังเอาชนะเว็บไซต์ของสภา ทำการรายงานผลการเรียกเก็บเงินด้านการดูแลสุขภาพแบบใหม่ และแจ้งข้อมูลให้ผู้อ่านที่กระตือรือร้นในการปฏิบัติตามวิธีที่สภานิติบัญญัติที่ถูกโหวตได้ทราบ...

Continue reading

มาดูกันว่า G Suite มีประโยชน์ต่อ Startups และธุรกิจขนาดเล็กอย่างไร

     สร้างบัญชีอีเมลสำหรับธุรกิจคุณ ประชุมผ่านวิดีโอ ทำงานบนระบบคลาวด์ แชร์ไฟล์ และอื่นๆ อีกมากมาย ช่วยให้ทีมของคุณทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น สู่การเป็น Smart Enterprise&Startups     สำหรับบริษัทเล็กๆ หรือบริษัท Startups อาจจะรู้สึกว่า G Suite นั้นดูยุ่งยากซับซ้อน จะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปหรือเปล่า แต่หากได้ลองทำความรู้จักและลองใช้งาน จะรู้ว่า G Suite นั้นไม่ได้ใช้งานยากอย่างที่คิดเลย แถมสิ่งที่บริษัทของคุณจะได้รับนั้นคุ้มค่าแน่นอน และนี่คือประโยชน์ 7 อย่าง ที่บริษัทคุณจะได้รับจาก G Suite อีเมล @ชื่อบริษัทของคุณ การตั้งชื่ออีเมลเป็นชื่อบริษัทของคุณนั้นสำคัญมาก เพราะเป็นการสร้างความไว้วางใจต่อลูกค้า บริษัทของคุณจะดูน่าเชื่อถือ และมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ข้อมูลปลอดภัย กูเกิ้ลมีเซิร์ฟเวอร์เป็นของตัวเอง และการันตีความปลอดภัยถึง 99.9% มีตัวกรองสแปมหรือข้อมูลจากภายนอกที่เสี่ยงต่อความปลอดภัย นอกจากนี้ยังสามารถกู้ข้อมูลกลับคืนมาได้เพื่อป้องกันข้อมูลของธุรกิจคุณนอกจากนี้ไม่ว่าคุณจะพบเหตุการณ์ที่ไม่คาดถึงอย่างอุปกรณ์ต่างๆสูญหาย หรือพนักงานลาออก ก็มั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณจะไม่รั่วไหลออกไปแน่นอน เก็บข้อมูลและแชร์ไฟล์ เก็บข้อมูลการทำงานทั้งหมดของคุณบนระบบคลาวด์ ซึ่งมีความปลอดภัยสูง สามารถเข้าถึงและแชร์ไฟล์งานไปให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะใช้งานบนอุปกรณ์ใดๆ คอมพิวเตอร์ มือถือ หรือแท็บเล็ตก็สามารถใช้ได้ อยู่ที่ไหนเมื่อไหร่ก็ทำงานได้ ทีมของคุณสามารถทำงานร่วมกันบน Document, Spreadsheet, Slides บนอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างสะดวกและง่ายดาย และยังเป็นการทำงานแบบเรียลไทม์ แต่ละคนสามารถแก้ไขงานพร้อมกันได้ภายในไฟล์เดียว เป็นแอดมิน ไม่ต้องเก่งด้าน IT ก็ทำได้ ตั้งค่าบัญชีให้สมาชิกใหม่ภายใน 1 นาที แถมยังไม่ต้องกังวลเรื่องต้องมาคอยอัพเดตระบบอยู่ตลอด เพราะ G Suite จะทำการอัพเดตตัวเองโดยอัตโนมัติ ให้คุณได้ใช้ G Suite เวอร์ชันใหม่เสมอ ทำงานร่วมกับโปรแกรมจัดการไฟล์ตระกูลอื่นก็ได้ เปิดไฟล์ขึ้นมาแก้ไข หรือใส่คอมเม้นต์ก็ทำได้อย่างง่ายดาย ตัวฟอร์แมตจะคล้ายกับโปรแกรมตระกูล Microsoft® ต่างๆอย่าง Word, Excel, Powerpoint นอกจากนี้ยังสามารถทำการแชร์ไฟล์ไปให้ผู้ที่ไม่ได้ใช้ G Suite ได้อีกด้วย เป็นมากกว่าระบบอีเมล สำหรับแพ็คเกจเริ่มต้น คุณจะได้รับความจุบนระบบคลาวด์ถึง 30 GB (จากเดิม 15 GB)...

Continue reading

สรุปข้อแตกต่างระหว่าง Gmail Free Version กับ G Suite

ข้อแตกต่างของ Gmail Free Version และ G Suite หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราต้องเสียเงินเพื่อใช้อีเมลของ Google ทั้งๆที่โดยปกติเราสามารถใช้งาน Google Apps ได้ฟรีๆอยู่แล้ว แต่คุณอาจจะยังไม่รู้ว่า G Suite นั้นมีข้อดีมากมายที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคุณได้อีกหลายเท่าตัว มีเหตุผลหลัก 7 ข้อที่ทำให้ G Suite น่าใช้งาน              1. สามารถกำหนดชื่อโดเมนอีเมลได้ด้วยตัวเอง ธุรกิจที่ใช้ Gmail แบบ Free Version  รูปแบบอีเมลจะเป็น  mybusinessname@gmail.com ซึ่งอีเมลลักษณะนี้เป็นอีเมลที่ทุกคนสามารถสร้างขึ้นได้  แต่หากคุณหันมาใช้ G Suite คุณจะสามารถกำหนดชื่อโดเมนอีเมลของคุณได้ เช่น contact@businessname.com ซึ่งทำให้ธุรกิจของคุณดูมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นอีกทั้งยังเป็นการเพิ่มคุณค่าและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ธุรกิจของคุณ             2. สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา เมื่อคุณใช้ G Suite สามารถรับประกันได้ว่าระบบจะสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะไม่เกิดเหตุขัดข้อง แต่หากคุณใช้ Gmail แบบ Free version ที่ไม่มีการรับประกันในจุดนี้ ซึ่งอาจเกิดปัญหาในการใช้งานได้             3. สามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสูงสุดได้กว่า 70 เท่า! Free version ของ Gmail ให้พื้นที่จัดเก็บเพียงแค่ 15 GB หากเป็นแบบ G Suite คุณจะได้พื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 1 TB สำหรับบางธุรกิจที่ใช้เกี่ยวกับงานเอกสารทั่วไปอาจจะไม่ประสบกับปัญหาประเภทนี้แต่ในปัจจุบันเราใช้วีดีโอในการสื่อสารและการทำงานกันมากขึ้น จึงจำเป็นที่จะต้องใช้พื้นที่ที่จัดเก็บที่มีขนาดใหญ่เพียงพอ             4. มีคนให้คำปรึกษาตลอดเวลา นี่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ มีบริการต่างๆมากมาย ทั้ง Google Docs ,Google Sheets และ Google Slides ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาหรือข้อสงสัยขึ้นก็จะมีคนคอยให้คำปรึกษาและเสนอแนวทางการแก้ปัญหาต่างๆให้คุณได้ตลอดเวลา             5. ไม่มีโฆษณาให้กวนใจ Gmaill Free Version Keyword จะมีโฆษณามากมาย...

Continue reading

G Suite เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการเข้าถึงข้อมูลเพื่อป้องกันโจรกรรม

การปกป้องข้อมูลและทรัพย์สินที่สำคัญขององค์กรคุณถือเป็นความท้าทายอย่างมาก G Suite ช่วยปกป้องข้อมูลของคุณด้วยวิธีการต่างๆ อย่างการตรวจจับการโจรกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงผ่านทางการเรียนรู้ของระบบ โดยบังคับให้มีการตรวจสอบความถูกต้อง ด้วยการบังคับใช้หลักด้านความปลอดภัยและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลผ่านเครื่องมือต่างๆเช่น DLP วันนี้ G Suite ได้เพิ่มฟังก์ชั่นควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล และเพิ่มระบบป้องกันการโจรกรรมให้ดียิ่งขึ้น ด้วยระบบ ‘OAuth’ ให้องค์กรของคุณสามารถมองเห็นและควบคุมข้อมูลภายนอกได้   ระบบควบคุมการเข้าถึงของข้อมูลภายนอกแบบใหม่ ระบบ ‘OAuth’ ช่วยให้เก็บข้อมูลได้อย่างปลอดภัยโดยที่ให้ผู้ใช้ G Suite สามารถเลือกรับข้อมูลจากภายนอกได้ เป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันสแปม ผู้ใช้งานสามารถเลือกสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลของตนเอง ดังนั้นจึงช่วยป้องกันข้อมูลที่เข้าข่ายโจรกรรม หรือข้อมูลอันตรายต่อผู้ใช้งานโดยบังเอิญได้       ซึ่งการควบคุมความปลอดภัยแบบใหม่นี้ สิ่งที่ผู้ใช้งาน G Suite สามารถทำได้ มีดังนี้ 1. ตรวจสอบข้อมูลภายนอกอย่างละเอียดได้ ก่อนที่จะเข้าถึงฐานข้อมูลของ G Suite   2. อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลได้ เฉพาะข้อมูลที่น่าเชื่อถือและได้รับการตรวจสอบจาก ‘OAuth’ เท่านั้น ปกป้อง ‘OAuth’ ในการเข้าถึงข้อมูลหลักของ G Suite โดยป้องกันการติดตั้งแอปที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะจำกัดปัญหาที่เกิดจาก shadow IT เมื่อทำการติดตั้งระบบ ‘OAuth’ การเข้าถึงข้อมูลภายนอกจะถูกบังคับใช้ตามนโยบายที่กำหนดโดยผู้ดูแลระบบและพนักงานจะได้รับการป้องกันโดยอัตโนมัติจากแอปที่ไม่ได้รับอนุญาต เปิดใช้งานระบบ ‘OAuth’ สำหรับโดเมนของคุณ ฟังก์ชันสุดพิเศษนี้กำลังเปิดใช้งานเป็นระยะๆ และจะมีให้บริการภายในคอนโซลผู้ดูแลระบบภายใน 2-3 วันถัดไป หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมว่าธุรกิจของคุณสามารถทำงานร่วมกันในการจัดเก็บข้อมูล และติดต่อสื่อสารภายในองค์กรอย่างปลอดภัยด้วย G Suite ได้อย่างไร สอบถามคำแนะนำในการเริ่มต้นใช้งานได้ที่นี่   ที่มา : G suite บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการ Google Apps for Work ในประเทศไทย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ โทรเลย!  02-675-9371  092-262-6390  097-008-6314 (ฝ่ายขาย)  support@dmit.co.th Official LINE           ...

ออลไทยแท็กซี่ (All Thai Taxi) วางใจเลือกใช้ G Suite เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรอย่างทวีคูณ

          บริษัท ออลไทยแท็กซี่ จำกัด ผู้นำนวัตกรรมการให้บริการรถแท็กซี่ที่ยกระดับการบริการที่เป็นเลิศ มีความสะดวกสบาย และปลอดภัย (หรือที่เราเห็นคุ้นตากันบนท้องถนนที่เป็นรถแท๊กซี่พรีอุส สีเหลือง) ตัดสินใจนำ Google for Work หรือชื่อใหม่ในนาม G Suite เข้ามาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดต้นทุนธุรกิจของบริษัทฯ คุณอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ ประธานกรรมการบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด และ บริษัท ออลไทย แท็กซี่ จำกัด           คุณอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ ประธานกรรมการบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด และ บริษัท ออลไทย แท็กซี่ จำกัด ได้กล่าวถึงการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้งานในบริษัทฯ ว่าเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการให้บริการของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีการให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ระบบแผนที่เพื่อบอกเส้นทาง การบริหารจัดการรถยนต์พาหนะ และการบริหารจัดการภายใน เพื่อให้กระบวนการทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด          “Google Apps for Work ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันของเราอย่างมาก โดยเฉพาะในธุรกิจขนส่งที่ต้องมีการจัดการเอกสารเพื่อประสานงานภายใน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลยานพาหนะ การนัดหมาย การซ่อมบำรุงรักษา เอกสารการเบิกเงิน การติดต่อกับคู่ค้า เรียกได้ว่า Google Apps for Work ช่วยลดความซ้ำซ้อนของการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งไม่ว่าอยู่ที่ไหน พนักงานของเราก็สามารถทำงานได้ด้วยข้อมูลชุดเดียวกันผ่านอุปกรณ์พกพา หรือคอมพิวเตอร์” คุณอนันต์ กล่าว           ในด้านการลงทุนนั้น คุณอนันต์กล่าวว่าการใช้ Google for Work นั้นเปรียบเสมือนการมีระบบไอทีระดับโลกของกูเกิ้ล (Google) มาใช้ในองค์กรด้วยค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม ไม่ต้องลงทุนฮาร์ดแวร์และระบบความมั่นคงปลอดภัยเอง ซึ่งหากต้องลงทุนเองเพื่อให้ได้การทำงานในระดับเดียวกันเพื่อยกระดับการทำงานภายในขององค์กร จะต้องใช้เงินลงทุนอย่างมหาศาล ซึ่ง Google for...

Continue reading

ดีมีเตอร์ ไอซีที จับมือ แซทเทอไลท์ออฟฟิส บุกตลาด Google Add-On Service ในประเทศไทย

กรุงเทพฯ 4 สิงหาคม 2559 บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด หนึ่งในผู้ให้บริการ Google Apps รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จับมือกับ แซทเทอไลท์ ออฟฟิส (Sateraito Office Inc.) กูเกิ้ลพาร์ทเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นบุกตลาด Google Add-On Service ในประเทศไทย Sateraito Office Inc. (www.sateraito.jp) มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นกูเกิ้ลพาร์ทเนอร์ใหญ่อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นเจ้าของโซลูชั่นเสริมบนระบบ Google Apps for Work ที่มีผู้ใช้งานในประเทศญี่ปุ่นมากกว่า 25,000 องค์กร รวมมีผู้ใช้งานทั้งสิ้นกว่า 5 ล้านคน หรือมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าร้อยละ 70 โดยเน้นโซลูชั่นด้านเวิร์คโฟล (Workflow) การล๊อกอินครั้งเดียว (Single Sign-On) การจัดการเอกสาร (Document Management) โดยโซลูชั่นส์ของ Sateraito Office จะช่วยต่อยอดให้กับบริษัทหรือองค์กรที่ใช้ Google Apps อยู่แล้ว สามารถปรับองค์กรให้เป็นองค์กรดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเอกสารทั้งหมดที่เป็นกระดาษจะถูกแทนที่ด้วยขั้นตอนการอนุมัติ และเอกสารอ้างอิงทั้งหมดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่อกับ Google Apps และทำงานบนระบบคลาวด์อย่างครบวงจร “ปัจจุบ้น องค์กรจำนวนมากยังคงบริหารจัดการภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการจองห้องประชุม การขออนุมัติลา การขอเบิกค่าใช้จ่าย ฯลฯ ด้วยระบบกระดาษ หรือระบบงานไอทีที่มิได้เชื่อมต่อกับ Google Apps for Work อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ต้องมีการอัพเดทข้อมูลภายหลังการอนุมัติลงในปฏิทิน (Calendar) บนระบบ Google Apps ของแต่ละคน ภายใต้การทำงานของ Sateraito Office ที่เชื่อมต่อกับ Google Apps for Work อย่างสมบูรณ์แบบ จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานในองค์กร สามารถทำงานนอกเหนือจากการใช้อีเมล์ หรือเครื่องมือ Google Apps อื่นๆ ในการอนุมัติ หรืออัพเดทข้อมูลที่ต้องแบ่งปันร่วมกับบุคลากรอื่นในองค์กร” ดร. วรัญญู สุจิวรพันธ์พงศ์ ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท...

Continue reading

กลุ่มบริษัททีม ปรับกระบวนการ และเพิ่มประสิทธิภาพ สู่องค์กรแห่งดิจิทัล

กลุ่มบริษัททีม (ทีมกรุ๊ปออฟคัมพานี) กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมและการจัดการ อันดับหนึ่งของคนไทย ได้นำ Google Apps for Work เป็นกลไกในการขับเคลื่อนการปรับกระบวนการ และเพิ่มประสิทธิภาพสู่องค์กรแห่งดิจิทัล โดยนำ Google Apps มาปรับโฉมการทำงานร่วมกันภายในองค์กร (Collaboration) และสร้างกระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management) เพื่อมุ่งไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) นายอิศรินทร์ ภัทรภัย Senior Executive Vice President บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์แมเนจเมนท์ จำกัด บริษัทในเครือกลุ่มบริษัททีม ได้กล่าวถึงการนำ Google Apps for Work มาใช้อย่างเป็นรูปธรรมทั่วทั้งองค์กร โดยมีผู้บริหาร วิศวกรที่ปรึกษา และพนักงานระดับมันสมองของประเทศกว่า 1,200 คน เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการบริหารการเปลี่ยนแปลงในการนำกลุ่มบริษัททีมก้าวเข้าสู่การเป็นองค์กรธุรกิจระดับสากล                                                                                                       ...

Continue reading