Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

Zendesk เข้าซื้อกิจการ Outbound.io เสริมทัพบริการ CRM เชิงรุก

Zendesk ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ติดต่อสื่อสารและซัพพอร์ตลูกค้าสำหรับแบรนด์ต่างๆเข้าซื้อกิจการ Outbound.io เจ้าของแพลตฟอร์มในการส่ง email, notification, และ SMS อัตโนมัติ เดินหน้าเข้าสู่การให้บริการเชิงรุก Outbound.io ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 มีบริการหลักคือระบบส่งอีเมล์, mobile และ web push notification, และ SMS อัตโนมัติที่มี optimize มาแล้วอย่างดีเยี่ยม ซึ่งรวมไปถึงการส่งข้อความตาม segment ของลูกค้าที่แบ่งตามข้อมูลที่มี และการทำ A/B testing และกำหนดเป้าหมายในแต่ละแคมเปญ การเข้าร่วมกิจการของ Outbound.io ในครั้งนี้จะทำให้บริษัทและแบรนด์สามารถใช้ Zendesk ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้ในช่องทางที่หลากหลาย โดยลูกค้าผู้รับสารนั้นจะได้รับข้อความน้อยลง และมีคุณภาพมากขึ้น มุ่งสู่เป้าหมายของ Zendesk ในการให้บริการลูกค้าสัมพันธ์ครบวงจร ตั้งแต่ การพบปะลูกค้า การซื้อขาย ไปจนถึงขึ้นตอนการซัพพอร์ตที่ตามมา ที่มา: Venturebeat   บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการระบบ Zendesk ในประเทศไทย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ โทรเลย!  02-675-9371  092-262-6390  097-008-6314 (ฝ่ายขาย)  support@dmit.co.th Official LINE...

“Pathfinder” เครื่องมือที่ทำให้คุณไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของลูกค้าบนหน้าเว็บ

“Pathfinder” เครื่องมือที่ทำให้คุณไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของลูกค้าบนหน้าเว็บ ลองนึกภาพว่าคุณเป็นลูกค้าที่ต้องการความช่วยเหลือ บางทีคุณอาจต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณลักษณะข้อมูลเชิงลึกของ Zendesk (เป็นตัวอย่างหนึ่ง) ขั้นตอนแรกของคุณคือการค้นหาในศูนย์ช่วยเหลือของเราและดูบทความหนึ่งของเราเกี่ยวกับ Insights แต่นั่นอาจไม่ใช่ข้อมูลที่คุณต้องการ ขั้นตอนที่สองอาจเป็นไปเพื่อตรวจสอบฟอรัมเกี่ยวกับแดชบอร์ดข้อมูลเชิงลึกในชุมชน Zendesk ด้วย อย่างไรก็ตามฟอรัมไม่ครอบคลุมถึงปัญหาของคุณ ในที่สุดคุณจะติดต่อผู้สนับสนุนของ Zendesk เพื่อขอความช่วยเหลือ ในบางสถานการณ์การสนับสนุนผู้สนับสนุนอาจแนะนำให้คุณอ่านบทความในศูนย์ช่วยเหลือหรือไปที่ฟอรัม นี้จะน่าผิดหวังสวยแม้ว่าตั้งแต่คุณต้องการได้ลองเส้นทางเหล่านั้น สถานการณ์ที่ดีที่สุดคือถ้าผู้สนับสนุนรู้อยู่แล้วว่าคุณต้องการอะไรและสามารถพบคุณได้ตรงกับที่คุณอยู่ในประสบการณ์การสนับสนุน แนะนำแอป Pathfinder แอปพลิเคชันถูกสร้างขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของ Zendevian Cup ซึ่งเป็นแฮ็กสตาธานีทั่วทั้ง บริษัท ของเรา พนักงาน Zendesk จำนวนหนึ่งเห็นว่าจำเป็นต้องมีแอปที่จะช่วยให้ธุรกิจรู้ได้ว่าลูกค้ามีการเข้าชมบทความของศูนย์ช่วยเหลือหรือฟอรัมชุมชนก่อนและหลังจากที่พวกเขาส่งตั๋วไปแล้ว พวกเขาสร้างแอปพลิเคชันเพื่อให้การสนับสนุนบริบทมากขึ้นและช่วยแก้ปัญหาให้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจรู้ว่าพวกเขาสามารถปรับปรุงการบริการตนเองได้อย่างไรหากลูกค้าเปิดตั๋วบ่อยๆหลังจากดูฟอรัมและบทความบางอย่างแล้ว ในช่วงเบต้าเราได้เห็นว่า Pathfinder App เป็นประโยชน์สำหรับลูกค้ามากแค่ไหน ตามที่ James Baldwin ผู้จัดการอาวุโสของ Advocacy ผู้ใช้ที่ Change.org แพลตฟอร์มเทคโนโลยีชั้นนำของโลกสำหรับการสร้างชุมชนการกระทำและการเปลี่ยนแปลงทางสังคม Pathfinder ให้เราบริบทล้ำค่าและข้อมูลเชิงลึกในการเดินทางของลูกค้าที่ช่วยให้เราสามารถปรับการโต้ตอบ, แก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ใช้ของเราอย่างเต็มรูปแบบ ด้วย Pathfinder เราสามารถใช้เวลาน้อยลงไปกับลูกค้าของเราและมีเวลามากขึ้นในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับคนที่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงในชุมชนและโลกของพวกเขา ” ประโยชน์ของแอป Pathfinder: แอป Pathfinder ช่วยปรับปรุงตัวแทนและประสบการณ์ของลูกค้าโดย: ให้การสนับสนุนส่วนบุคคลมากขึ้น ผู้สนับสนุนจะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบทความในศูนย์ช่วยเหลือและโพสต์ฟอรัมฟอรัมชุมชนที่ได้ดูไปแล้ว บริบทเพิ่มเติมช่วยให้ผู้สนับสนุนสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การปรับปรุงการบริการตนเอง ด้วยการทำความเข้าใจกับบทความที่มักส่งผลต่อการรับตั๋วใหม่จากลูกค้าของคุณ ลดความขัดข้องของลูกค้า โดยมั่นใจว่าผู้สนับสนุนไม่แนะนำบทความที่พวกเขาได้อ่านไปแล้ว ตามรายงานจาก Jake Sorofman และ Laura McLellan ของ Gartner ในปี 2016 “89% ของ บริษัท คาดว่าจะแข่งขันกันส่วนใหญ่บนพื้นฐานของประสบการณ์ของลูกค้า” * นั่นหมายความว่าลูกค้า – มากขึ้นกว่าเดิม – คาดว่าจะมีปฏิสัมพันธ์กับบริการที่ง่าย ธุรกิจต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เมื่อเร็ว ๆ นี้ Kate Leggett จาก Forrester ได้สรุปแนวโน้มด้านบริการลูกค้าของปี 2016 (ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจาก Zendesk) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการบริการลูกค้าต้องเป็นเรื่องง่ายมีประสิทธิภาพและปลูกฝังอารมณ์ในแง่ดี: “บริษัท...

Continue reading

Trivago บอกเล่าประสบการณ์การบริหารจัดการลูกค้า

ที่ Trivago พนักงานมากกว่า 950 คนมุ่งเน้นที่จะผลักดันนวัตกรรมทั้งในเครื่องมือค้นหา และการแก้ปัญหาด้านการตลาดของบริษัท โดยการท้าทายสถานะของอุตสาหกรรม ตั้งแต่ปี 2005 บริษัท Trivago เป็นหนึ่งในบริษัทอินเทอร์เน็ตที่เติบโตเร็วที่สุดในภาคเทคโนโลยีการท่องเที่ยว วันนี้ Trivago เป็นบริษัทค้นหาโรงแรมทางอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทุกๆ เดือน มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 120 ล้านคนเลือกใช้บริการของ Trivago ในการค้นหาที่พัก เพื่อเปรียบเทียบราคาที่ถูกที่สุดจากโรงแรมมากกว่า 1 ล้านแห่ง เพื่อที่จะให้ข้อมูลที่นักท่องเที่ยวต้องการในเว็บไซต์ Trivago ตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงแรม จึงได้ทุ่มเทให้กับทีม Hotel Relation และยังส่งมอบประสบการณ์สุด ‘ว้าว’ ให้กับลูกค้า เมื่อพูดถึงรายงานบรรทัดแรก ระบบสนับสนุนจะให้ภาพรวมที่ชัดเจนและรวดเร็ว “การวิเคราะห์ของระบบสนับสนุนเป็นสิ่งที่โดดเด่นจริงๆ การมองเห็นกระบวนการทำงานและความคืบหน้าของทีม Hotelier Care ของเราเป็นเครื่องมือสร้างแรงบันดาลใจที่ยอดเยี่ยม” Savvidis กล่าว สำหรับ Savvidis แล้ว ระบบสนับสนุนนั้นใช้งานง่าย อีกทั้งระบบนี้ยังเป็นทางการและโปร่งใส “คนของเราตอนนี้มีความภาคภูมิใจในงานของพวกเขา แต่สิ่งที่เรารู้สึกสนุกไปกับงานจริงๆก็คือฟังก์ชัน Multi-brand ซึ่งช่วยให้เราสามารถสร้างประสิทธิภาพและความพึงพอใจในบริการให้ดียิ่งขึ้นได้ “ หลังจากดำเนินการใช้ระบบสนับสนุนแล้ว Trivago ทำการสำรวจฝ่ายธุรกิจโรงแรมเพื่อประเมินความพึงพอใจโดยรวม พวกเขาพบว่ามากกว่า 8 ใน 10 ของธุรกิจโรงแรมมีความสุขกับบริการของทีม Hotelier Care ไม่เพียงแค่นั้น ทีมงานของเรายังคงทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างความพึงพอใจในปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้น โดยการปรับปรุงเทคนิคการตอบสนองต่อไป Savvidis บอกเล่าประสบการณ์ให้ว่า ทีมยังสามารถบรรลุเป้าหมายในการโต้ตอบตลอด 24 ชั่วโมง ธุรกิจโรงแรมส่วนใหญ่เกินครึ่งได้รับการตอบกลับภายในเวลาดังกล่าวอีกด้วย   “การวิเคราะห์ของระบบสนับสนุนเป็นสิ่งที่โดดเด่นจริงๆ การมองเห็นกระบวนการทำงานและความคืบหน้าของทีม Hotelier Care ของเราเป็นเครื่องมือสร้างแรงบันดาลใจที่ยอดเยี่ยม” – Ioannis Savvidis หัวหน้าฝ่าย HOTELIER CARE & OPERATIONS ที่ Trivago ที่มา: Zendesk บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการระบบ Zendesk ในประเทศไทย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ โทรเลย!  02-675-9371...

Continue reading

การปฏิบัติงานบริหารลูกค้า 4 ประเภท บริษัทของคุณอยู่ในประเภทใด?

“การกระทำสำคัญกว่าคำพูด” จริงไหม? แน่นอนว่าสิ่งที่คุณปฏิบัตินั้นย่อมมีความหมายมากกว่าสิ่งที่คุณพูด หรือสิ่งที่คุณเป็นอยู่แล้ว วลีนี้ไม่ได้ใช้เพียงแค่กับผู้คนเท่านั้น แต่ยังสามารถประยุกต์ใช้เข้ากับการขาย การตลาด โซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการด้านบริการลูกค้า จากรายงานของ Zendesk Benchmark (เผยแพร่ไว้เมื่อกุมภาพันธ์ ปี 2015) เราตัดสินใจที่จะสำรวจไอเดียนี้โดยการใช้เวลาในการมองข้ามความเป็นอุตสาหกรรมธรรมดา ค้นหาการจัดประเภทที่เกี่ยวข้องและถูกต้องสำหรับการบริการลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ   ลักษณะการบริการลูกค้าทั้ง 4 ประเภทขององค์กร จากการใช้กระบวนการวิเคราะห์แบบจัดกลุ่ม เราได้จัดกลุ่มองค์กรบริการลูกค้าตามลักษณะการปฏิบัติงานและการจัดการที่คล้ายคลึงกันและพบว่าทีมสนับสนุนสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างมาตราฐานที่ดียิ่งขึ้น 1. นักสร้างความสัมพันธ์ (Relationship Builders) เหล่าทีมเล็กพริกขี้หนูเหล่านี้ถนัดในการจัดการความสัมพันธ์ รวมถึงส่งมอบประสบการณ์ที่ทำให้ลูกค้าประทับใจได้ดี วัฒนธรรมนี้สามารถพบเห็นได้จากการขยายการตลาดของพวกเขา 2. ผู้เชี่ยวชาญด้านความจุกจิก (Master of Complexity) บริษัทเหล่านี้มีโครงสร้างการจัดการแบบไดนามิก และดำเนินงานด้านบริการลูกค้าที่จุกจิกและซับซ้อนได้ดีทีเดียว 3. ดอกไม้ที่เบ่งบานช้า (Late Bloomers) ด้วยแนวทางที่ไม่สมดุลในการสนับสนุนการจัดการ บริษัทเหล่านี้เลยยังไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างเต็มที่ พวกเขาอาจให้ความสำคัญไปยังฝ่ายขายหรือฝ่ายการตลาดของตนมากเกินไป แทนที่จะให้ความสำคัญกับการสนับสนุนลูกค้า (ปัญหาทั่วไปของบริษัท start-ups) 4. กัปตันการชั่ง (Captain of Scale) ทีมงานเหล่านี้ให้ความสำคัญกับการจัดการบริการลูกค้ามากที่สุดเท่าที่พวกเขาทำได้ เพื่อการขายและการตลาด และกำหนดมาตรฐานระดับทองคำในการดำเนินงานสนับสนุนลูกค้าเลยทีเดียว เราไปถึงจุดนั้นกันอย่างไร? ตามแนวทางการวิเคราะห์ จากงานวิจัยได้จัดกลุ่มธุรกิจและองค์กรไว้ 12 กลุ่มด้วยกัน โดยอาศัยตัวชี้วัดที่บอกถึงภาระงานที่คล้ายคลึงกัน กลยุทธ์การสนับสนุน และแหล่งที่มาของการดำเนินงานบริการลูกค้าของพวกเขา ซึ่ง 12 กลุ่มนี้ ถูกแบ่งอย่างละเอียดทีกที จึงได้ออกมาเป็น 4 กลุ่มหลักๆ ที่มีลักษณะการดำเนินงานและการจัดการที่คล้ายกัน การมุ่งเน้นไปที่มาตรฐานการปฏิบัติงานในรายงานฉบับที่ 4 ของเรา ไม่ใช่เพียงแค่การสำรวจข้อมูลที่สนุกสนานเท่านั้น รายงานนี้จะเจาะลึกข้อมูลในแต่ละประเภททั้ง 4 ประเภท (และ 12 กลุ่มย่อย) เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกและเคล็ดลับเช่นเดียวกับเกณฑ์มาตรฐานที่แท้จริงสำหรับการเปรียบเทียบองค์กรต่างๆ ที่มีความหมายและมีความเกี่ยวข้องมากขึ้น แล้วบริษัทของคุณเป็นประเภทไหนล่ะ? เกณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรมรวมทั้งขนาดของบริษัท และประเภทกลุ่มเป้าหมายยังคงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับหลาย ๆ บริษัท ที่กำลังมองหาภาพรวมในการเปรียบเทียบ แต่เราค้นพบว่าหลายบริษัทจะเกี่ยวโยงกับบริษัทที่มีการดำเนินงานและการจัดการที่คล้ายคลึงกัน โดยไม่คำนึงถึงอุตสาหกรรม ที่มา: Zendesk   บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการระบบ...

Continue reading

การออกแบบหน้าเพจ”คำถามที่พบบ่อย”เพื่อให้ลูกค้าสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง

การพูดคุยกันเป็นเรื่องที่ดี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของคุณก็ทำได้ดีทีเดียว แต่จริงๆแล้ว จากการสำรวจของ Zendesk พบว่า  67% ของลูกค้าต้องการติดต่อสอบถามไปยัง call center  91% ลูกค้าที่ชอบค้นหาคำตอบด้วยตนเอง หาคำตอบด้วยตนเองจากหน้าเพจ FAQ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว  ดังนั้น การดีไซน์หน้าเพจ FAQ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามในการสร้างความพึงพอใจต่อผู้ใช้งานให้มีประสิทธิภาพ แถมยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัทของคุณกับลูกค้าอีกด้วย ระบุเป้าหมาย Christopher Calabrese UX ดีไซน์เนอร์ระดับสูงแห่ง Cooper ในนิวยอร์กกล่าวว่า ก่อนที่คุณและทีมจะดีไซน์หน้าเพจ “คำถามที่พบบ่อย” บนเว็บไซต์ของคุณ ควรตอบคำถามให้ได้ก่อนว่า ทำไมองค์กรของคุณต้องการเป็นหนึ่งในอันดับแรก? ถ้าเว็บไซต์ของคุณสร้างความสับสนให้แก่ลูกค้า และลูกค้าไม่สามารถหาข้อมูลสำคัญได้ งั้นหน้าเพจ “คำถามที่พบบ่อย” ก็จะเป็นเพียงแค่กล่องยาที่รักษาโรคไม่ได้ แค่นั้นเอง อย่าลืม ‘ใคร’ ในคำถามที่พบบ่อย สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ชมเว็บไซต์ คือสิ่งสำคัญที่สุด ในส่วนของหน้าคำถามที่พบบ่อย อย่าไขว้เขวกับภารกิจหลักเด็ดขาด ซึ่งในที่นี้คือเวลาลูกค้ามีคำถามที่ต้องการคำตอบ การให้ข้อมูลที่เรียบง่ายและตรงประเด็นคือสูตรลับแห่งชัยชนะ มีสิ่งที่ควรพินิจพิเคราะห์อยู่ 2 อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือ คำถามในหน้าเพจคำถามที่พบบ่อยของคุณ ควรเป็นคำถามที่คาดว่าลูกค้าจะถามจริงๆ ไม่ใช่ว่าใส่อะไรลงไปก็ได้ ดังนั้นควรลองถามพนักงานคนอื่นๆดูก่อน อย่างที่สองคือ สมมติว่ามีคำถามประมาณ 4-5 คำถามบนเพจ ลองเอาออกแล้วใส่ส่วนขยายสำหรับคำตอบบริเวณด้านล่างคำถามแทน ลูกค้าของคุณจะได้ไม่ต้องคลิกนั่นคลิกนี่ ลงทุนกับสื่อต่างๆอย่างวิดีโอให้คำแนะนำ หรือรูปภาพสวยๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ควรหลีกเลี่ยงกล่องข้อความที่เด้งขึ้นมาเพื่อเรียกยอดไลค์ สิ่งใดก็ตามที่ช่วยให้ผู้ใช้เว็บไซต์บรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้ จะนำไปสู่ประสบการณ์ที่น่าทึ่งได้ดีทีเดียว มือถือ มือถือ มีแต่มือถือเต็มไปหมด กฎเหล็กที่ขาดไม่ได้เลยคือ ลูกค้าของคุณใช้โทรศัพท์มือถือกันทั้งนั้นนะ และพวกเขาก็คาดหวังที่จะใช้บริการจากคุณไม่ว่าจะเป็นตอนใช้คอมพิวเตอร์ที่บ้าน หรือตอนใช้โทรศัพท์มือถือ ดีไซน์หน้าเว็บไซต์และเว็บเพจต่างๆของคุณ ต้องทำให้โทรศัพท์มือถือสามารถรองรับได้ แล้วก็คำนึงถึงความสวยงามด้วยล่ะ การวางกลยุทธ์แพลตฟอร์มบนมือถือเป็นเรื่องที่ดี แต่อย่าให้มันมีบทบาทสำคัญมากกว่า หรือแยกมันออกจากเว็บไซต์หลักของคุณ เพราะว่าการดีไซน์แพลตฟอร์มบนมือถือเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการทำเว็บไซต์ของคุณเท่านั้น เป็นอย่างไรบ้างล่ะ? ยอดเยี่ยมมาก! ตอนนี้คุณได้ออกแบบหน้าเพจ FAQ ที่ดีที่สุดในโลกเป็นที่เรียบร้อย ผ่านเข้ารอบต่อไปได้เลย หลังจากนั้นก็ควรสำรวจด้วยว่าเพจคำถามที่พบบ่อยของคุณ ประสบความสำเร็จต่อผู้ใช้งานหรือลูกค้าของคุณหรือเปล่า ตรวจดูข้อมูลต่างๆบนเว็บไซต์ และลองถามพนักงานของคุณด้วยว่าพวกเขาได้ยินอะไรจากลูกค้าบ้างหรือเปล่า? ที่มา: Zendesk สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ราคา Zendesk พร้อมโปรโมชันพิเศษ โทร. 02 030 0066 Facebook Page : @demeterict support@dmit.co.th Official LINE...

ส่งมอบประสบการณ์ที่แสนพิเศษให้ลูกค้าออนไลน์

หากตอนนี้คุณเป็นหัวหน้าทีมสนับสนุนที่กำลังยุ่งอยู่กับทีมเพื่อจัดการ KPI ลองนึกภาพชุดข้อมูลที่เน้นคำแนะนำและการดำเนินการที่เรียบง่าย ให้คุณสามารถใช้งานได้เพื่อบรรลุเป้าหมายของคุณ เรามีประสบการณ์ทั้งหมดที่น่าหงุดหงิดเมื่อคุณกำลังออนไลน์และต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก แต่กลับไม่มีวิธีที่สะดวกและรวดเร็วในการติดต่อกับบริษัท อาจจะเป็นหน้าเพจ “ติดต่อเรา” ที่มีแต่ข้อมูลติดต่อพื้นฐานอย่างเบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมล์ แต่ไม่มีสิ่งใดยืนยันว่าคุณจะได้รับการตอบกลับเมื่อไหร่ นี่เป็นประสบการณ์ที่คุณให้กับลูกค้าของคุณอยู่หรือไม่? ในโพสต์นี้เราจะแบ่งปันวิธีการที่ทำให้บริษัทของคุณโดดเด่น ด้วยประสบการณ์ออนไลน์ที่ไร้รอยต่อกับลูกค้า ในขณะเดียวกันก็ช่วยทีมสนับสนุนของคุณสามารถเร่งเวลาในการแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที Zendesk Web Widget จึงนำพลังของ Zendesk มาสู่เว็บไซต์ของคุณผ่านการติดต่อในรูปแบบต่างๆ อย่างการแชทสด และคำแนะนำที่ฝังอยู่ในส่วนของการบริการด้วยตนเอง ลองมาดูรายละเอียดกันเถอะ ทำให้มั่นใจได้ว่าเราจะไม่ห่างจากคุณ ลูกค้าของคุณไม่ควรต้องไปตามล่าขอความช่วยเหลือ ลดประสบการณ์ออนไลน์แย่ๆ ของพวกเขาด้วยการทำให้การขอความช่วยเหลือและค้นหาคำตอบเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์ใดก็ตาม เมื่อฝังเว็บวิดเจ็ตนี้ลงในเว็บไซต์แล้วล่ะก็ คลิกเพียงครั้งเดียวก็สามารถให้คำแนะนำ หรือให้คำตอบกับลูกค้าของคุณได้เลย นอกจากนี้สิ่งที่เป็นความรู้ที่เกี่ยวข้องจะได้รับการแนะนำโดยอัตโนมัติ หากลูกค้ายังต้องการความช่วยเหลือพวกเขาสามารถเลือกประเภทของคำถามก่อนที่จะได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกด้วย ***กดดูคลิป*** แก้ปัญหาได้เร็วขึ้นด้วยระบบบริการตนเอง ไม่ใช่คำถามทั้งหมดต้องได้รับการตอบกลับแบบส่วนตัวและไม่ใช่ลูกค้าทุกคนมีเวลาหรือมีความปรารถนาต่อสิ่งเดียว การแสดงสิ่งที่เป็นความรู้โดยตรงในเครื่องมือช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาคำตอบได้เองแทนที่จะรอการตอบกลับ ทำให้ประสบการณ์นั้นดียิ่งขึ้นเพื่อให้ลูกค้าไม่ต้องมานั่งมองหาเนื้อหาที่ต้องการ ซึ่งความช่วยเหลือตามบริบทในเว็บวิดเจ็ตจะแสดงสิ่งที่เป็นความรู้เบื้องต้นโดยอิงตามหน้าเว็บที่ลูกค้ากำลังดูอยู่ ยกตัวอย่างเช่น หากลูกค้ากำลังมองหาหน้าเช็คเอาต์ พวกเขาสามารถหาบทความเกี่ยวกับการชำระเงินหรือตัวเลือกการจัดส่งได้เมื่อคลิกที่วิดเจ็ต ลูกค้าที่หาคำตอบเองนั้นจะช่วยย่นระยะเวลาในการรอการตอบกลับ และเป็นโอกาสสำหรับทีมสนับสนุนของคุณเพื่อให้ความสำคัญกับคำถามที่ท้าทายมากขึ้น ตรวจจับข้อมูลมากขึ้นอย่างแม่นยำและรวดเร็ว การจับข้อมูลตามบริบทจากลูกค้าจะช่วยลดความไม่แน่นอนในการแก้ปัญหา ตัวอย่างเช่น ได้รับหมายเลขคำสั่งซื้อของลูกค้าก่อนที่พวกเขาจะส่งคำถามเกี่ยวกับสถานะการสั่งซื้อ โดยโฟกัสไปยังข้อมูลที่มีความสำคัญจริงๆ ลูกค้าจะไม่รู้สึกจมอยู่กับรูปแบบที่ยืดเยื้อ ในขณะที่ตัวแทนสนับสนุนยังมีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการจะเสนอรายละเอียดในเวลาอันรวดเร็ว ในกรณีที่เป็นไปได้คุณสามารถหลีกเลี่ยงการทิ้งภาระให้กับลูกค้าเพื่อให้ข้อมูลโดยการใช้ข้อมูลที่คุณมีอยู่แล้วจากเส้นทางของลูกค้าด้วยแอพพลิเคชัน Pathfinder ที่ตัวแทนสนับสนุนสามารถดูหน้าเพจต่างๆ ที่ลูกค้าเข้าชม ค้นหา รวมถึงบทความที่พวกเขาดูก่อนที่จะเข้าถึงในส่วนของความช่วยเหลือได้ ติดตั้งข้อมูลนี้เพื่อให้ตัวแทนสนับสนุนสามารถตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น เว็บวิดเจ็ตนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้มั่นใจได้ว่า ความช่วยเหลือนั้นสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายเสมอ โดยมีตัวเลือกด้านบริการตนเองและศูนย์กลางเพื่อให้ลูกค้าสามารถได้รับสิ่งที่ต้องการได้ในเวลาที่รวดเร็วที่สุด สำหรับในส่วนบริษัทของคุณนั่นหมายถึงการทำให้ลูกค้าพึงพอใจจากการบริการที่สามารถตอบสนองได้มากขึ้น อีกทั้งทีมสนับสนุนที่มีบริบทมากขึ้นจากคำถามที่ได้รับ เพื่อให้สามารถสนับสนุนและช่วยเหลือลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ที่มา : Zendesk สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ราคา Zendesk พร้อมโปรโมชันพิเศษ โทร. 02 030 0066 Facebook Page : @demeterict support@dmit.co.th Official LINE...

ระบบAI(แชทบอท) มีการกำหนดแนวโน้มการสนับสนุนลูกค้าล่าสุดอย่างไร ?

อนาคตอันใกล้นี้ มีไว้สำหรับเราแล้วหรือยัง? ตอนนี้เต็มไปด้วยรถยนตร์ที่ขับด้วยตัวเอง ผู้ดูแลอันโนมัติสำหรับคิว Netflix และนวัตกรรมบ้านที่มีการตรวจและปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับคุณ  ปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ มีแนวโน้มที่จะสัมผัสกับทุกแง่มุมของชีวิตของเรา เป็นเดิมพันที่จะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของลูกค้า บอกได้เลยว่าผู้นำธุรกิจกำลังวางชิปของตนในเดิมพันนั้น รายงานล่าสุดของ Gartner พบว่า 55% ขององค์กรชั้นนำ เริ่มลงทุนในศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ หรือวางแผนที่จะดำเนินการดังกล่าวภายในปี 2563 ด้วยความตื่นตัวที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มที่จะได้รับจากระบบอัตโนมัติ นวัตกรรม AI บริการ จึงมีวิธีที่พวกเขามีที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อไป ดังนี้ : Chatbot chatbots หรือระบบการตอบลูกค้าผ่านระบบแชท โดยที่ไม่ต้องมีพนักงานอยู่หน้าจอคอมในเวลานั้น เพื่อความสะดวก รวดเร็วและให้ลูกค้าพึงพอใจเป็นอย่างมาก กลายเป็นตัวช่วยพิเศษสำหรับธุรกิจ แต่โปรดจำไว้ว่านั่นไม่ใช่หมายความว่า chatbots กำลังจะมาแทนที่เจ้าหน้าที่ การละเลยงานหุ่นยนต์ให้กับหุ่นยนต์เป็นโอกาสสำหรับองค์กรในการพัฒนาแนวทางในการให้บริการด้วยตนเอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนจะไม่จมอยู่กับหน้าที่ระดับต่ำ เช่นรีเซ็ตรหัสผ่าน และสามารถมุ่งเน้นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการริเริ่มใหญ่และซับซ้อนมากขึ้น การสนับสนุนหลายช่อง ฝ่ายบริการลูกค้า AI มักจะมีความสามารถในการกำกับการเดินทางของลูกค้า และนำลูกค้าไปยังช่องทางสนับสนุนอื่นๆ เมื่อจำเป็น ตัวอย่างเช่นการแชทอย่างรวดเร็วผ่านโปรแกรมการรับส่งข้อความ โดยทั่วไปจะนำไปสู่ความละเอียดที่รวดเร็วกว่าการตอบกลับทางอีเมล ฝ่ายบริการลูกค้า AI สามารถรับรู้ปัญหาทั่วไปที่ได้รับการแก้ไขได้ดีที่สุดผ่านทางช่องทางหนึ่งๆ และนำลูกค้าโดยตรงไปหาลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าและตัวแทนมีความสะดวกรวดเร็ว : ลูกค้ามีปัญหา ในการแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพตัวแทนติดอยู่ (หรือปรับปรุง) ข้อตกลงระดับบริการ (SLA) และช่องทางการสนับสนุนที่ทำงานหนักเกินไปจนหยุดพักได้ Better Times ความละเอียด AI สำหรับการบริการลูกค้า มีศักยภาพที่จะเพิ่มความเร็วในการแก้ไขปัญหาใบสั่งงาน (Ticket ) ได้อย่างรวดเร็ว บริการอัตโนมัติไม่เพียงแต่สามารถให้คำตอบอย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถจัดการปัญหาที่หุ่นยนต์ไม่สามารถจัดการได้ง่ายขึ้น ให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษแก่เจ้าหน้าที่ ให้คำแนะนำสำหรับวิธีจัดการปัญหาได้ดีที่สุด ความสามารถในการบริการลูกค้า AI เพื่อทำความเข้าใจรูปแบบและการเรียนรู้พฤติกรรมขั้นพื้นฐานของมนุษย์ จะทำให้ปัญญาประดิษฐ์เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่เท่าที่จะเป็นไปได้ ที่มา – Zendesk สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ราคา Zendesk พร้อมโปรโมชันพิเศษ โทร. 02 030 0066 Facebook Page : @demeterict support@dmit.co.th Official LINE...

เราจะใช้อะไรในการให้บริการลูกค้าที่ดีกว่าระหว่าง Live Chat หรือโทรศัพท์ สำหรับ SMART SME

เครื่องมือการบริการลูกค้าในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องที่เหมาะกับทุกอย่าง ช่องทางการติดต่อสื่อสารทางสังคมโทรศัพท์ อีเมล การแชท มีประโยชน์แตกต่างกันไปให้กับ บริษัท และลูกค้า  เมื่อพูดถึงการบริการลูกค้าส่วนบุคคลตามความต้องการส่วนบุคคล การแชทสด และโทรศัพท์เป็นทางเลือกที่ชัดเจนที่สุดโดยที่ทั้งคู่ อนุญาตให้มีการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้าและลูกค้าสามารถอธิบายปัญหาหรือตั้งคำถามและรับคำตอบได้ทันที มีความแตกต่างที่สำคัญซึ่งอาจส่งผลต่อทีมลูกค้าและธุรกิจของคุณ ความแตกต่างระหว่างการ แชทสด กับ การสนับสนุนทางโทรศัพท์ เป็นเรื่องสำคัญ ในขณะที่การสนับสนุนทางโทรศัพท์มักเป็นปฏิกิริยา (สนทนากับลูกค้า /เริ่มต้นการสนทนา) สามารถใช้งานเป็นช่องทางการสนับสนุนเชิงรุกได้ เช่น ด้วยการแชทสดตัวแทนสามารถชักชวนลูกค้า หรือตอบคำถามที่ทำให้พวกเขาไม่ต้องคลิกที่ “ซื้อ” , ซึ่งปัญหาบางอย่างก็ไม่สามารถทำได้ผ่านทางโทรศัพท์ อีกความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการ แชทสด และ การสนับสนุนทางโทรศัพท์ คือการบันทึกและทบทวนบทสนทนาของลูกค้า การสนทนาที่เก็บไว้ในข้อความสามารถค้นหาได้ง่ายขึ้น และสามารถเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับเวลาที่ลูกค้าต้องการความช่วยเหลือได้อย่างชัดเจน การวิเคราะห์การแชทสดให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลิงก์การแนะนำผลิตภัณฑ์ (สิ่งที่นำมายังไซต์ของคุณ) และระบบปฏิบัติการ  (วิธีที่ลูกค้าต้องการเข้าถึงคุณ) สถานะที่ใช้งาน หรือไม่ได้ใช้งานเวลาในเว็บไซต์จำนวนการเข้าชมจำนวนการแชทและที่ตั้ง  การแชทสดเป็นสิ่งล้ำค่า แทนที่จะใช้เวลาที่ลูกค้าเสียเวลาเล่าปัญหาซ้ำ ตัวแทนสามารถดูการสนทนาก่อนหน้านี้และเลือกบทสนทนาที่ปิดไว้ ลูกค้าสามารถรับสำเนาบทสนทนาสำหรับบันทึกของตนเองได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากกับการถอดเสียงโทรศัพท์ด้วยตนเอง  การแชทสด ช่วยให้บริษัทและลูกค้ามีความยืดหยุ่นมากขึ้น สำหรับตัวแทนหรือลูกค้าที่ไม่สะดวกในการสนทนาเนื่องจากปัญหาทางภาษาหรือบุคลิกภาพของพวกเขา สามารถแชทติดต่อสอบถามได้อย่างง่ายดาย ตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าสามารถแก้ปัญหาของลูกค้าได้ดี ผ่านการแชทสด     สุดท้ายพิจารณาผลกระทบทางการเงินของแต่ละแพลตฟอร์มเมื่อเปรียบเทียบ แชทสด กับ การสนับสนุนทางโทรศัพท์ สายด่วน สำหรับการสนับสนุนทางโทรศัพท์มีค่าใช้จ่ายที่สูง และต้องใช้ระยะเวลารอ แต่ในทางกลับกัน แชทสดเป็นบริการฟรีแก่ลูกค้า (ผลิตภัณฑ์ของ Zendesk มีความสามารถที่บันทึกประวัติการแชทได้) คำถามของลูกค้าจะได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการลดราคาค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เมื่อมีการโยกย้ายการสนทนาจากศูนย์บริการไปยังวิดเจ็ตการแชท ทีมบริการลูกค้าสามารถช่วยลูกค้าจำนวนมากได้ตลอดเวลา ลดเวลาในการแก้ไขและการรอ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ถูกลงอย่างมาก ที่มา – Zendesk สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ราคา Zendesk พร้อมโปรโมชันพิเศษ โทร. 02 030 0066 Facebook Page : @demeterict support@dmit.co.th Official LINE...

มาดูเบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทระดับโลกอย่าง Lazada และเคล็ดลับเพิ่มประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าของเค้ากัน!

มาดูเบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทระดับโลกอย่าง Lazada และเคล็ดลับเพิ่มประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าของเค้ากัน! การบริการลูกค้าถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งในทุกๆธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการบริการก่อนและหลังการขาย ถือว่าเป็นปัจจัยหลักที่จะส่งผลต่อการปิดดีลการขายได้ มาดูกันดีกว่าว่าทาง Lazada มีวิธีบริหารและใช้เครื่องมืออะไรบ้างในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน LAZADA      บริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน e-commerce ในภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ครอบคลุมถึงประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศไทย ซีอีโอของ Lazada คุณ Maximilan Bittner ได้กล่าวถึงจุดสำคัญที่ทำให้บริษัทเติบโตด้วยอัตราที่รวดเร้วไว้ว่า “สิ่งสำคัญคือการโฟกัสให้เพียงไม่กี่จุดเท่านั้น แต่ไม่กี่จุดนั้นต้องเป็นจุดที่สำคัญ” ซึ่งจัดสำคัญที่ซีอีโอพูดถึงมีอยู่ 3 จุดหลักๆ คือ           1. การบริการลูกค้า                    2. การบริหารจัดการผู้ขาย               3. ความพึงพอใจของพนักงาน        (Customer Support)                    (Vendor Management)                  (Employee Satisfaction) แล้ว Lazada ทำอย่างไรถึงสามารถบริหารจัดการสามสิ่งนี้ให้มีประสิทธิภาพในเวลาเดียวกันได้?  ถ้าคุณมีธุรกิจส่วนตัวหรือทำงานในองค์กรใหญ่ๆก็จะรู้ดีว่าการที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้านั้น การทำงานเบื้องหลังไม่ได้ดูสมูทเหมือนภาพที่ออกมาเสมอไป ส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าก็คือ การใช้โปรแกรม helpdesk เข้ามาช่วยจัดการอย่างเช่น Zendesk Support กว่า 1,600 เอเจ้นท์ในบริษัท Lazada เพราะสิ่งที่ Lazada ต้องจัดการคือการจัดการระหว่าง ลูกค้าที่ซื้อสินค้ากับบริษัทขนส่งต่างๆในแต่ละประเทศ  และนี่ก็คือเคล็ดลับที่ทำให้ Lazada สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเจ๋งอีกอย่างหนึ่งของ Zendesk นั่นก็คือ...

Continue reading