Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

Hybrid Working กับ Google Workspace สร้าง Work Life Balance ต้อนรับปี 2022!

Hybrid Working กับ Google Workspace สร้าง Work Life Balance ต้อนรับปี 2022!

ปัจจุบันวิธีการทํางานมีการเปลี่ยนแปลงไป เพื่อปรับให้เข้ากับสถานการณ์ที่มีโรคแพร่ระบาดอย่าง Covid-19  เราไม่ได้ทํางานแค่ในสํานักงานหรือจากบ้าน (Work From Home) อีกต่อไปแล้ว ทุกทีมต่างก็ต้องติดต่อสื่อสาร สร้างสรรค์ และทํางานร่วมกันภายใต้สภาพแวดล้อมการทํางานแบบผสมผสาน (Hybrid Working) ที่ทุกคนจะสามารถทำงานร่วมกันไม่ว่าเวลาใด อยู่ที่ใด หรือแม้แต่จะใช้อุปกรณ์ประเภทใดก็ตาม 

Google Workspace พื้นที่การทำงานที่สามารถตอบโจทย์การทำงานแบบผสมผสานได้ดีที่สุด มาดูกันเลยว่า Google Workspace ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร

1. ติดต่อสื่อสารกันได้ทุกเมื่อแม้จะไม่ได้อยู่สถานที่เดียวกันด้วย Meet

หากต้องทำงานกับผู้คนที่ไม่ได้อยู่ในสำนักงาน เมือง หรือภูมิภาคเดียวกัน การประชุมทางวิดีโอของ Google Meet ช่วยลดระยะห่างให้กับคุณได้

  • ฟีเจอร์ปิดเสียงหรือวิดีโอของผู้เข้าร่วม – ใช้ฟีเจอร์ปิดเสียงหรือวิดีโอของผู้เข้าร่วม เพื่อป้องกันเสียงไม่พึงประสงค์
  • ฟีเจอร์เปิดใช้คําบรรยายวิดีโอ – ผู้เข้าร่วมที่ไม่ได้ยินเสียงในการประชุมสามารถเปิดใช้คําบรรยายวิดีโอได้ โดยฟีเจอร์นี้จะแปลงเสียงพูดในการประชุมเป็
  • ข้อความที่ด้านล่างของหน้าจอ ปัจจุบันฟีเจอร์นี้มีให้เลือกใช้ได้ 5 ภาษา ได้แก่ โปรตุเกส ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน และอังกฤษ
  • ฟีเจอร์เพิ่มสถานที่เมื่อตอบกลับคําเชิญเข้าร่วมประชุม – แจ้งให้ผู้เข้าร่วมทราบว่าคุณจะเข้าร่วมการประชุมจากสํานักงานหรือเข้าร่วมแบบออนไลน์ การทราบว่าผู้คนเข้าร่วมการประชุมจากที่ใดจะช่วยให้ผู้นำเสนอสามารถนําการประชุมได้ครอบคลุมผู้เข้าร่วมทั้งหมด 
  • ฟีเจอร์เปิดใช้โหมดแยกหน้าจอประชุม (Companion mode) – เมื่อเข้าร่วมโดยใช้ระบบเสียงและวิดีโอในห้องประชุม เช่น Nest Hub Max ให้ใช้โหมดแยกหน้าจอประชุม ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าร่วมการประชุมผ่านอุปกรณ์ส่วนตัวได้อย่างราบรื่น นอกเหนือจากการใช้ระบบของห้องประชุมเพียงอย่างเดียว โดยคุณสามารถดูงานนำเสนอได้ชัดขึ้น ส่งข้อความแชทถึงผู้เข้าร่วม โหวตในแบบสำรวจ หรือโพสต์คำถามในช่วงถามและตอบได้เหมือนตอนที่เข้าร่วมจากนอกสำนักงาน
  • สร้าง Jam ใน Google Jamboard เพื่อทํางานร่วมกันเป็นกลุ่ม – Jamboard เป็นไวท์บอร์ดเสมือนจริงที่ช่วยให้คุณระดมความคิดร่วมกับผู้อื่นได้แบบเรียลไทม์ 
  • ใช้ฟีเจอร์ยกมือ (Hand rising) – กระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมใช้ฟีเจอร์ยกมือเพื่อให้การประชุมเป็นไปตามกำหนดการ โดยเฉพาะในกรณีที่เข้าร่วมจากนอกสถานที่ การยกมือจะช่วยส่งสัญญาณให้ผู้อื่นทราบว่าคุณต้องการพูด นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณไม่ถูกขัดจังหวะการนำเสนออีกด้วย 
  • ใช้ห้องกลุ่มย่อย (Breakout rooms) – แบ่งผู้เข้าร่วมเป็นกลุ่มย่อยหรือห้องกลุ่มย่อยเพื่อทําโปรเจ็กต์ หรือจัดทําแบบสํารวจเพื่อดูว่าสมาชิกในทีมแต่ละคนมีความคิดเห็นอย่างไร

2. ทํางานร่วมกันโดยใช้ Chat

คุณสามารถใช้ Chat สร้างพื้นที่ทำงานออนไลน์เพื่อให้ทีมทำโปรเจ็กต์ร่วมกันได้ทุกที่ทุกเวลา และยังเปลี่ยนแชทกลุ่มให้เป็นพื้นที่ทำงานของโปรเจ็กต์ได้อีกด้วย

  • แชร์ข้อมูล – ทำการสนทนาหลายรายการพร้อมกันด้วยพื้นที่ใน Chat หรือเริ่มการประชุมทางวิดีโอของ Google Meet และกําหนดเวลากิจกรรมของทีมได้โดยตรงจากพื้นที่ใน Chat ของคุณ 
  • จัดการไฟล์โปรเจ็กต์ – ในทุกๆทีมมักจะต้องทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการวางแผน การทำงานในสเปรดชีต การเตรียมงานนำเสนอ หรือการจัดการไฟล์อื่นๆ คุณสามารถค้นหาไฟล์ของโปรเจ็กต์ได้ง่ายขึ้นด้วยการเพิ่มไฟล์เหล่านั้นไปยังพื้นที่ใน Chat นอกจากนี้ยังเปิด แก้ไข รวมทั้งสร้างเอกสาร ชีต และสไลด์ในพื้นที่ทำงานดังกล่าวได้โดยตรงอีกด้วย 
  • จัดการและเตรียมความพร้อมให้สมาชิกในทีม – เพิ่มหรือนําสมาชิกออกจากพื้นที่ใน Chat ของคุณได้ตามต้องการ สมาชิกใหม่สามารถดูการสนทนาในอดีตและไฟล์ที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องค้นหารายละเอียดสําคัญที่กระจัดกระจายอยู่ในอีเมลต่างๆ 
  • มอบหมายงานและติดตามความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมาย – สร้างและจัดการงานของกลุ่มผ่านพื้นที่ใน Chat เมื่อมีผู้ใช้สร้าง มอบหมาย หรือทํางานเสร็จสิ้น ระบบจะแจ้งเตือนไว้ในพื้นที่ทำงานดังกล่าว

3. จัดการกําหนดการและตารางเวลาโดยใช้ Calendar

ในสภาพแวดล้อมการทํางานแบบผสมผสาน การจัดตารางเวลาให้ยืดหยุ่นเพื่อที่จะสามารถจัดการภาระหน้าที่ด้านการงานและธุระส่วนตัวได้อย่างลงตัว เช่น คุณหรือเพื่อนร่วมงานอาจแบ่ง “ช่วงเวลาการทำงาน” เป็นรอบละ 2-4 ชั่วโมง ไม่ใช่ 8 ชั่วโมงติดต่อกันแบบทั่วๆ ไป การทราบเวลาว่างและตารางเวลาการทำงานของกันและกันถือเป็นกุญแจสู่ความสําเร็จในสภาพแวดล้อมแบบผสมผสาน

  • แจ้งเวลาว่างให้เพื่อนร่วมงานทราบ – แสดงเวลาทํางานไว้ในปฏิทิน คุณสามารถระบุชั่วโมงทำงานในแต่ละวันได้ นอกจากนี้ยังสามารถบอกสถานะของคุณให้กับเพื่อร่วมงานทราบได้อีกด้วยว่าในช่วงเวลานั้นคุณกำลังว่างหรือกำลังยุ่งอยู่เพื่อป้องกันการรบกวนขณะที่คุณกำลังทำงาน
  • ตรวจสอบเวลาว่างของผู้อื่น – หากเพื่อนร่วมงานแสดงเวลาทํางานและสถานที่ในปฏิทิน คุณก็สามารถวางแผนเวลาจัดกิจกรรมโดยอิงตามเวลาว่างของเพื่อนร่วมงานรายนั้นได้
  • แจ้งสถานที่ทำงานให้เพื่อนร่วมงานทราบ – คุณสามารถใส่สถานที่ทํางานไว้ในปฏิทินได้ แสดงวันในสัปดาห์ที่คุณวางแผนจะเข้าไปที่สํานักงาน ทํางานจากที่บ้าน หรือทํางานจากที่อื่น

4. ใช้ Meet, Calendar และ Gmail เพื่อ Work life balance

ความเหนื่อยล้าจากการประชุมแบบต่อเนื่องถือเป็นข้อกังวลสำคัญในช่วง Covid -19 ทุกคนต้องทำงานจากบ้าน การรับส่งอีเมลมากจนเกินไปก็ถือเป็นอีกหนึ่งข้อร้องเรียนที่พบบ่อยในสถานที่ทำงาน Google Workspace มาพร้อมเครื่องมือที่ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ลองใช้การประชุมแบบรวดเร็ว – ในการตั้งค่าการประชุม คุณสามารถกำหนดระยะเวลาการประชุมเริ่มต้นไว้ที่ 25 นาทีแทนที่จะเป็น 30 นาทีได้ หรืออาจกําหนดเวลาการประชุมให้จบลงเร็วขึ้น 5-10 นาที ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าร่วมมีเวลาพักสมองก่อนที่จะต้องเข้าร่วมการประชุมต่อไป 
  • กําหนดสถานที่เมื่อตอบรับคําเชิญเข้าร่วมการประชุม – เมื่อตอบรับคําเชิญเข้าร่วมการประชุม คุณสามารถเลือกสถานที่ที่เข้าร่วมเพื่อแจ้งให้ผู้จัดการประชุมทราบได้ว่าจะเข้าร่วมจากห้องประชุมในสํานักงานหรือแบบออนไลน์จากนอกสถานที่ 
  • ซ่อนมุมมองกล้องของตัวเอง – เปลี่ยนหรือซ่อนมุมมองกล้องของตัวเองในการประชุมทางวิดีโอ เพื่อให้คุณสามารถโฟกัสไปที่ผู้นําเสนอและงานนําเสนอได้
  • ข้อมูลเชิงลึกด้านเวลา (Time Insights) ในปฏิทินจะช่วยให้คุณทราบระยะเวลาที่ใช้ไปกับการประชุมในช่วงวัน สัปดาห์ หรือเดือนที่ผ่านมา และยังสรุปรายชื่อบุคคลที่เข้าร่วมการประชุมกับคุณอีกด้วย มีเพียงคุณและผู้ที่ช่วยคุณจัดการปฏิทินเท่านั้นที่จะมองเห็นข้อมูลเชิงลึกด้านเวลาได้ ผู้จัดการหรือบุคคลอื่นจะไม่เห็นข้อมูลนี้ของคุณ
  • ติดป้ายกํากับและจัดเรียงข้อความใน Gmail โดยอัตโนมัติ – การติดป้ายกํากับและการจัดเรียงจะช่วยให้คุณสามารถโฟกัสไปยังข้อความที่ต้องให้ความสนใจได้ทันที เช่น ข้อความจากผู้จัดการหรือความคิดเห็นจากลูกค้า 
  • ให้ Gmail ช่วยกระตุ้นเตือน (Nodges) ให้คุณติดตามข้อความที่อาจพลาดไป – เมื่อเปิดการกระตุ้นเตือน Gmail จะแสดงข้อความที่ด้านบนของกล่องจดหมายอีกครั้ง หากคุณหรือผู้รับไม่ได้ตอบกลับหลังจากผ่านไป 2-3 วัน

Google Workspace พื้นที่การทำงานที่สามารถตอบโจทย์การทำงานแบบผสมผสาน พื้นที่การทำงานที่ทำให้คุณทำงานร่วมกันได้อย่างสะดวกสบาย พื้นที่การทำงานแห่งอนาคต ที่ถูกออกแบบและคัดสรรเพื่อให้การทำงานของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและเกิดประสิทธิผลอย่างสูงสุด นอกจากนี้แอปพลิเคชันจาก Google Workspace ต่างก็มีฟังก์ชันที่ช่วยในการทำงานมากมาย และยังมีการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆเพื่อให้การทำงานของคุณลื่นไหลอยู่เสมอ

หากคุณสนใจ Google Workspace ติดต่อ ดีมีเตอร์ ไอซีที ตัวแทนผู้ให้บริการ Google Workspace ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เรามีแพ็กเกจพร้อมบริการเสริมแบบครบวงจรที่สามารถตอบโจทย์ได้ทุกธุรกิจแบบครบจบในที่เดียว

ระบบอีเมลองค์กรและชุดแอปพลิเคชันเพื่อการทำงานร่วมกัน ตอบโจทย์สำหรับทุกธุรกิจ

บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด - พันธมิตรระดับ Google Premier Partner

ตัวแทนจำหน่าย Google Workspace ในประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิกอย่างเป็นทางการ