Canva and Google Workspace

Canva บริษัทผลิตแพลตฟอร์มเพื่อการออกแบบชื่อดัง สนับสนุนการทำงานร่วมกันของพนักงานด้วย Google Workspace

“Canva พื้นที่ที่ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการออกแบบได้อย่างง่าย“ Canva นำเสนอสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกันด้วย Google Workspace เพื่อสนับสนุนพนักงานที่อยู่ต่างประเทศที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกเขาเชื่อมต่อถึงกันและพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากที่สุด “Google Workspace เป็นเหมือนอากาศและน้ำสำหรับเรา เป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติในที่ทำงานของเรา” Jeff Lai ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานภายในของ Canva กล่าว ยืนยันจากผู้ใช้จริงมาอย่างยาวนาน Google Workspace ธุรกิจที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สนับสนุนการทำงานร่วมกันในองค์กรอย่างสร้างสรรค์บนระบบคลาวด์ ซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยอย่างดีเยี่ยมจึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจากหลาย ๆ หน่วยงาน เช่น Canva ผู้ใช้งาน Google Workspace มาอย่างยาวนาน และ Jeff Lai ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานภายในของ Canva ได้กล่าวไว้ว่า “หากจะเป็นธุรกิจระดับโลก บริษัทต้องมั่นใจว่าองค์กรมีเทคโนโลยีที่สามารถเติบโตและขยายไปพร้อมกับตนเองได้” ดังนั้น Canva จึงตัดสินใจเลือก Google Workspace ที่จะมาตอบโจทย์การทำงานร่วมกันจากทั่วทุกมุมโลก Canva มีใบอนุญาตใช้งาน Google Workspace มากถึง 1,850 สิทธิ์ เพื่อรองรับพนักงานราว 1,200 คน ด้วยชุดแอปพลิเคชันที่ครอบคลุมความต้องการด้านการสื่อสาร การเชื่อมต่อ และประสิทธิภาพของผลงาน โดยมั่นใจว่าการใช้บริการ Google Workspace จะทำให้องค์กรมีพื้นที่จัดเก็บเพียงพอเพื่อให้ธุรกิจไม่ต้องเสียค่าบริการซื้อพื้นที่จัดเก็บเสริม ทีมนักออกแบบ นักพัฒนา นักการตลาด นักลงทุน และที่ปรึกษาของ Canva ใช้ Google Workspace สำหรับงานต่าง ๆ เช่น จัดกำหนดการประชุม ส่งอีเมลให้ฝ่ายภายในและภายนอก จัดเก็บไฟล์และติดตามกิจกรรมในสเปรดชีต ซึ่งการทำงานบน Google Workspace นั้นช่วยให้ Canva สามารถขยายฐานผู้ใช้งานได้มากขึ้นและช่วยให้ Canva ประสบความสำเร็จในการสร้างแพลตฟอร์มที่มีเทมเพลตและแบบอักษรนับพัน รวมถึงรูปภาพสต็อก ไอคอน และภาพประกอบนับล้าน  เข้าถึงได้จากทุกหนทุกแห่งราว 100 % เนื่องจากพนักงานของ Canva ที่อยู่ต่างประเทศนั้นมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โมเดลการทำงานแบบกระจายจึงเป็นโซลูชันที่เหมาะสมที่สุด Canva เลือกใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันที่พร้อมให้บริการตลอดแบบ 24/7...

Continue reading

‘เปรียบเทียบเอกสาร’ ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Docs ที่จะทำให้การตรวจเอกสารของคุณง่ายขึ้นกว่าเดิม

‘เปรียบเทียบเอกสาร’ ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Docs ที่จะทำให้การตรวจเอกสารของคุณง่ายขึ้นกว่าเดิม Google Docs เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “เปรียบเทียบเอกสาร (Compare Documents)” ผู้ใช้สามารถเปรียบเทียบความแตกต่างของเอกสารทั้งสองไฟล์ได้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ทำให้ง่ายต่อการดูการเปลี่ยนแปลงระหว่างสองเอกสาร ตัวอย่างเช่น นักการศึกษาสามารถใช้เครื่องมือนี้เพื่อเปรียบเทียบเรียงความและติดตามการแก้ไข ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน ในขณะเดียวกันผู้ใช้ทางธุรกิจสามารถใช้เครื่องมือนี้ในระหว่างการเจรจาสัญญาเพื่อดูว่าตลอดการเจรจามีข้อตกลงใดที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง และใช้ในการเปรียบเทียบเอกสารเวอร์ชันล่าสุดกับเวอร์ชันเริ่มต้น วิธีใช้งาน เปิด Google Doc ที่คุณต้องการ ซึ่งเอกสารนี้จะกลายเป็น “เอกสารหลัก (base)” ของคุณ จากแถบเครื่องมือ เลือก เครื่องมือ (Tools) > เปรียบเทียบเอกสาร (Compare Documents) ให้คลิกที่ “เลือกเอกสารเปรียบเทียบ (select the comparison document)” เพื่อเลือกเอกสารที่สองที่จะใช้ในการเปรียบเทียบ ในช่อง “กำหนดแอตทริบิวต์ความแตกต่าง (Attribute differences to)” ให้ป้อนชื่อของผู้ใช้ที่ต้องการจะติดป้ายกำกับว่าเป็นผู้เขียนคำแนะนำการแก้ไขในไฟล์เอกสารใหม่ที่ใช้ในการเปรียบเทียบ เลือก เปรียบเทียบ (Compare) จากนั้นระบบจะทำการสร้างไฟล์เอกสารใหม่ที่แสดงรายละเอียดที่แตกต่างระหว่างเอกสารทั้งสองฉบับที่ได้นำมาเปรียบเทียบกันขึ้นมา โดยระบบจะแสดง “การแก้ไขที่แนะนำ (Suggested Edits)” ที่มีชื่อของผู้ใช้ที่คุณเลือกเปรียบเทียบกำกับไว้นั่นเอง หมายเหตุ เจ้าของเอกสารและผู้ที่มีสิทธิ์แก้ไขเท่านั้นที่สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเปรียบเทียบความแตกต่างของไฟล์เอกสารทั้งสองไฟล์ได้อย่างง่ายดายและสามารถทำงานร่วมกันกับผู้อื่นได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจาก Google Docs ที่เป็นหนึ่งในชุดการทำงานใน Google Workspace ยังมีแอปพลิเคชันอำนวยความสะดวกอื่นๆอีกมากมาย ที่ทั้งอำนวยความสะดวกในการทำงานและรักษาความปลอดภัยแก่งานของคุณได้อย่างเยี่ยมยอด หากคุณสนใจหรืออยากสอบถามเกี่ยวกับ Google Workspace สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ดีมีเตอร์ ไอซีที ตัวแทนผู้ให้บริการ Google Workspace ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ...