สร้างความเข้าใจโฆษณาบน Google ให้ดียิ่งขึ้น

ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักใช้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาสินค้าและบริการที่เหมาะสมกับพวกเขา และคุณสามารถพึ่งพา Google เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าและบริการของคุณได้มีการนำเสนออย่างมีประสิทธิภาพ และคุณรู้หรือไม่ว่า มีแบรนด์มากกว่า 5,000 แบรนด์เลือกใช้ Google ในการทำโฆษณา ทาง Google ได้ปรับปรุงและพัฒนาต้อนรับศักราชใหม่ ด้วยการทำให้ปฏิสัมพันธ์จากลูกค้าดียิ่งขึ้น ด้วยวิธีใหม่ในการแสดงเนื้อหาที่มีคุณภาพและสร้างแรงบันดาลใจในการซื้อให้กับผู้บริโภค รวมถึงให้ผลวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายมีพฤติกรรมกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของคุณอย่างไรผ่านช่องทางจาก Google


ช่องทางใหม่ในการสร้างแรงบันดาลใจกับผู้บริโภค และโปรโมทสินค้าของคุณ

ผู้บริโภคมักมองหาแรงจูงใจและความช่วยเหลือในสิ่งที่จะซื้อ จากการสำรวจของ Google ประมาณ 1,600 คน พบว่า 56% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนซื้อจากแบรนด์ที่ไม่คาดคิด เมื่อพวกเขาคิดว่าแบรนด์นั้นให้ความช่วยเหลือได้เป็นอย่างดี เพื่อให้คุณช่วยเหลือลูกค้าและนำเสนอคุณสมบัติที่โดดเด่นของสินค้าและบริการ ทาง Google กำลังเปิดตัวในส่วนของหน้าแสดงรายละเอียดผลิตภัณฑ์ ซึ่งคุณสามารถสร้างเนื้อหาได้เอง

สิ่งที่คุณสามารถทำได้:

– เพิ่มหน้าแสดงรายละเอียดสินค้าและบริการของคุณใน Google Shopping ด้วยเนื้อหาที่สร้างแรงจูงใจต่อลูกค้า และมีคุณภาพสูง

– เน้นคุณสมบัติและความสามารถของสินค้าและบริการที่ลูกค้าสนใจมากที่สุด

– สร้างคุณค่าของแบรนด์โดยตรงจากลูกค้าผ่าน Google (จากผลสำรวจล่าสุด นักช็อปออนไลน์ประมาณ 2,700 คน มองว่า Google ยังคงเป็นอันดับแรกที่ลูกค้าจะได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสิ่งที่จะซื้อ)

จากการเปิดตัว WebCollage เป็นพาร์ทเนอร์ครั้งแรก ซึ่งให้บริการแพล็ตฟอร์มคอนเทนต์สำหรับสินค้าและบริการของผู้ขาย ที่ลูกค้ามีการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 10% เมื่อมีเนื้อหาที่เป็นภาพมากขึ้น ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าผู้ขายทุกรายที่อัปโหลดเนื้อหา เช่น รูปภาพ หรือโลโก้ที่มีคุณภาพสูงลงแพล็ตฟอร์มนี้ จะสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีเหล่านี้ให้ลูกค้าได้

ตัดสินใจทางธุรกิจจะดียิ่งขึ้น ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกแบบใหม่

เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจทางธุรกิจได้ดีขึ้น กูเกิ้ลได้เปิดตัวการวิเคราะห์ใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจได้ดีขึ้นว่าโฆษณาสินค้าและบริการของคุณทำงานอย่างไรบน Google และคุณจะได้เรียนรู้ว่าโฆษณาของคุณจะปรากฏอย่างไรเพื่อให้คุณสามารถกำหนดราคาได้เหมาะสมขึ้น ในการลงทุนโฆษณาดิจิตัล และการตัดสินใจเลือกใช้สื่อ มีรายละเอียดดังนี้:

– แนวโน้มของประสิทธิภาพ เช่น แสดงกลุ่มสินค้าและบริการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และการเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพหรือราคาอย่างมีนัยสำคัญ

– ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตัวแปรของสินค้าและบริการ เช่น คำค้นหายอดนิยมสำหรับสินค้าและบริการของคุณ และแนวโน้มราคาเฉลี่ย

– สถิติกลุ่มสินค้าและบริการ เช่น แบรนด์และสินค้าของคู่แข่งที่ปรากฏกับคุณบ่อยที่สุด

ทุกแบรนด์ในศูนย์กลางผู้ขาย (Manufacturer Center) ที่ตรงตามข้อกำหนดของการมีสิทธิ์สามารถใช้การวิเคราะห์แบบใหม่เหล่านี้ได้

ความพร้อมในการขยายศูนย์กลางผู้ขาย
ในปี 2018 กูเกิ้ลได้ขยายศูนย์กลางผู้ขายจาก 7 ประเทศเป็น 24 ประเทศ ได้แก่

  1. สหราชอาณาจักร
  2. สหรัฐอเมริกา
  3. อาร์เจนตินา
  4. ออสเตรเลีย
  5. ออสเตรีย
  6. เบลเยียม
  7. บราซิล
  8. แคนาดา
  9. ชิลี
  10. โคลอมเบีย
  11. ฝรั่งเศส
  12. อินเดีย
  13. ไอร์แลนด์
  14. เยอรมนี
  15. ญี่ปุ่น
  16. มาเลเซีย
  17. เม็กซิโก
  18. เนเธอร์แลนด์
  19. นิวซีแลนด์
  20. ฟิลลิปปินส์
  21. โปรตุเกส
  22. สิงคโปร์
  23. สเปน
  24. แอฟริกาใต้

(คาดว่าจะขยายมายังประเทศไทยในอนาคต) ทางกูเกิ้ลหวังว่าการอัปเดตเหล่านี้จะช่วยให้ผู้บริโภคค้นหาข้อมูลสินค้าและบริการอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

ที่มา – Google Blog