Zendesk คือ? Cloud Customer Service Platform หน้าตาเป็นยังไง?

เรามารู้จัก Zendesk ให้มากขึ้นดีกว่า เครื่องมือตัวนี้เป็นระบบ Cloud Customer Service Platform อันดับหนึ่งของอเมริกา ที่อิงกับการใช้แนวคิดของ Ticketing System ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการติดต่อสื่อสารหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ และท่านยังสามารถติดตามผลลัพธ์ได้อีกด้วย  แนวคิดของระบบนี้คือการนำปัญหา คำถาม หรืองานที่ต้องทำ มาจัดการบันทึกอยู่ในรูปแบบของ Ticket เพื่อนำมาใช้เป็นศูนย์กลางในการพูดคุยและติดต่อสื่อสาร  รวมทั้ง Zendesk สามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบอื่นๆที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ทำให้การบริการลูกค้า และการประสานงานในองค์กรรวดเร็วขึ้น โดยทั้งหมดนี้ สามารถทำงานผ่าน Zendesk ได้ในหน้าจอเดียว https://youtu.be/yDIX6gNFwuc องค์ประกอบของหน้าจอ Zendesk Agent Workspace โดยหน้า Ticket ใน Zendesk Agent Workspace จะมีองค์ประกอบดังนี้ กำหนดได้ว่า Ticket นี้ใครเป็นผู้รับผิดชอบ และใครเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องบ้าง สามารถกำหนดสถานะได้ เช่น งานใหม่ยังไม่มีคนรับผิดชอบ (New), งานยังไม่เสร็จ กำลังมีคนทำ (Open), งานกำลังรอคำตอบจากผู้อื่น (On Hold) หรืองานสำเร็จแก้ไขแล้ว (Solved) ทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องรับทราบถึงสถานะของงาน และจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถ Attach ไฟล์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานนั้นๆ เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาหรือสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้ทันทีผ่าน Zendesk ไม่ต้องเปิดหลายหน้าจอ ,ทั้งการจัดการใบสั่งงาน ดึงข้อมูลประวัติ หรือส่งต่องานให้คนในทีม ก็สามารถทำได้เลยในที่เดียว ลดการทำงานซ้ำซ้อน และไม่ต้องตอบคำถามซ้ำๆกับลูกค้าท่านเดิม  บทสนทนาจะเรียงตามลำดับความเก่าไปใหม่ เพื่อให้การคุยเป็นธรรมชาติและต่อเนื่องที่สุด และยังสามารถเลือกลำดับความสำคัญ (Priority) ในการตอบลูกค้าได้ เช่น เร่งด่วน (VIP), ปกติ หรือสำคัญน้อย ข้อมูลการสนทนาทั้งหมดระหว่างเจ้าหน้าที่ กับลูกค้า จะปรากฏอยู่ทางด้านขวาของหน้าจอ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถสลับช่องทางการติดต่อได้ตลอดเวลา  มีการเก็บข้อมูล ประวัติทั้งหมด เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากที่สุด ที่มุมขวาของหน้าจอจะแสดงเส้นทางของผู้ที่ติดต่อเข้ามา (Customer Journey) ทำให้เจ้าหน้าที่รู้ว่า ลูกค้าติดต่อมาตอนที่ดูหน้าจออะไร เจ้าหน้าที่จะได้เตรียมข้อมูล เพื่อให้รายละเอียดได้ทันที ช่วยในการสนับสนุนลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น  ที่สำคัญคือสามารถทำรายงานและวิเคราะห์ข้อมูลทั้งของลูกค้าและของเจ้าหน้าที่ได้อีกด้วย...

Continue reading

5 วิธีในการใช้ Live Chat เพื่อประสบการณ์ที่ดีขึ้นของลูกค้า

ในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า คุณจะต้องมีวิธีการตอบสนองการสื่อสารที่เกินความคาดหมายของลูกค้า และบริษัทใดก็ตามที่มีการบริหารประสบการณ์ลูกค้าที่ดีจะนำมาซึ่งลูกค้าที่ภักดีและยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น Live Chat เป็นหนึ่งในวิธีที่ทรงพลังที่สุดในการสื่อสารกับลูกค้าของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนการสนทนากับผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณให้กลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและสร้างความสัมพันธ์ที่ยาวนานขึ้นกับลูกค้า Live Chat คืออะไร? Live Chat คือ เครื่องมือสื่อสารทางออนไลน์ที่เพิ่มลงบนหน้าเว็บไซต์ของคุณ เครื่องมือนี้จะช่วยให้ผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณสามารถมีส่วนร่วมกับบริษัทของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็น การถาม-ตอบ ในเวลาที่ลูกค้าต้องการความช่วยเหลือหรือมีข้อสงสัยที่ต้องการข้อมูลคำตอบจากคุณนั่นเอง ด้วย Live Chat คุณสามารถตอบคำถามลูกค้าในแบบ real-time ได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ยังเป็นการตอบสนองที่รวดเร็วกว่าช่องทางการสื่อสารมาตรฐาน เช่น E-mail ที่อาจต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงหรือเป็นวันๆ ด้วยเหตุนี้เองทำให้อัตราความพึงพอใจในการบริการของลูกค้าผ่านช่องทางการแชทสูงถึง 73% ในขณะที่ E-mail และสื่อสังคมออนไลน์มีคะแนนอยู่ที่ 61% และ 48% ตามลำดับ 5 วิธีในการใช้ Live Chat เพื่อเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้า Live Chat มีประโยชน์ในหลายๆด้านที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเพิ่มยอดขาย สร้างลูกค้าใหม่ๆ และปรับปรุงอัตราความพึงพอใจของลูกค้า ในบทความนี้ ดีมีเตอร์ ไอซีที จะมาแบ่งปัน 5 วิธีที่คุณสามารถใช้ Live Chat เพื่อเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น 1. มอบบริการที่รวดเร็วทันใจในแบบเรียลไทม์ เมื่อลูกค้าของคุณกำลังมองหาการสนับสนุนหรือต้องการความช่วยเหลือ ลูกค้ามักต้องการคำตอบในทันที ผู้บริโภคจึงชอบที่จะใช้ Live Chat เพราะพวกเขารู้สึกว่าจะได้รับคำตอบที่รวดเร็วทันใจนั่นเอง หากคุณให้บริการที่ล่าช้า นั่นหมายถึงความเสี่ยงในการสูญเสียลูกค้า เพราะการตอบสนองลูกค้าช้าจัดว่าเป็นสาเหตุหนึ่งใน 3 เหตุผลที่ทำให้เสียลูกค้า และการใช้ Live Chat คือทางเลือกที่จะทำให้คุณสามารถพูดคุยโต้ตอบกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่วินาทีโดยที่ลูกค้าไม่ต้องรอนานเป็นชั่วโมง 2. ผสมผสานการแชทเข้ากับการบริหารประสบการณ์ลูกค้าของคุณ การขอให้ลูกค้าใส่รายละเอียดข้อมูลการติดต่อเพิ่มเติมก่อนที่จะเริ่มต้นแชทผ่านทาง Live Chat ด้วยข้อมูลส่วนนี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งการบริการเพื่อให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนได้ และด้วยข้อมูลพื้นฐานอย่างเช่นชื่อของลูกค้ายังช่วยให้คุณสามารถค้นหารายละเอียดของลูกค้าในฐานข้อมูล CRM ของคุณได้อีกด้วย นอกจากนี้การมีระบบ Zendesk Chat จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ทำให้คุณสามารถติดตามรายละเอียดการติดต่อ หรือประวัติการสั่งซื้อจากลูกค้ารายเดิมได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องถามคำถามเดิมๆและขอข้อมูลของลูกค้าซ้ำอีก 3. ตอบคำถามเพื่อขจัดความสงสัยและความกลัว การเพิ่ม Live Chat ลงบนหน้าเว็บไซต์ที่ลูกค้าของคุณเยี่ยมชมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการเพิ่ม Live Chat ลงบนหน้าเพจราคาผลิตภัณฑ์ หรือหน้าสำหรับสนับสนุนลูกค้าของคุณ เพราะการเพิ่มแชทในหน้าเว็บเหล่านี้จะทำให้ลูกค้าสามารถถามคำถามเฉพาะเรื่องที่ลูกค้าต้องการและคุณสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้แบบเรียลไทม์...

Continue reading

ทำไมผู้ทำธุรกิจ E-commerce ต้องมีการบริหารประสบการณ์ลูกค้า?

ปัจจุบันการซื้อสินค้าทางออนไลน์หรือร้านค้าแบบ E-commerce เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการลดเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังหน้าร้านค้าปลีก แต่อย่างไรก็ตามการซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ก็เป็นการเพิ่มความเสี่ยง ให้กับผู้บริโภคเช่นเดียวกัน ซึ่งหากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีส่วนในธุรกิจ E-commerce สิ่งสำคัญที่ควรตระหนักถึงคือความเสี่ยงต่างๆที่ลูกค้าต้องเผชิญในทุกขั้นตอนของกระบวนการซื้อ คุณจึงควรมีการบริการที่ดีไว้รับรองลูกค้าเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในทุกๆขั้นตอน จนกว่าจะแน่ใจว่าสินค้าถึงมือลูกค้าแล้ว ทำไมเหล่านักชอปออนไลน์หลายๆคนหรือแม้แต่ตัวคุณเอง ยินดีที่จะจ่ายเงินหรือซื้อสินค้าในราคาที่แพงกว่าเพื่อแลกกับการบริการที่ดีมากขึ้นกัน? นี่คือคำถามที่บรรดาเหล่านักวิจัยได้ให้คำตอบในการศึกษาปี 2003 พวกเขาพบว่า การที่ลูกค้าไม่สามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์หรือสินค้าได้ด้วยตัวเองคือปัญหาหลักๆที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกกังวล เช่น เรื่องของไซส์ ได้สินค้าที่ไม่ตรงตามความต้องการ ความเสียหายระหว่างการจัดส่ง และอื่นๆอีกมากมาย ลูกค้าจึงจำเป็นต้องทำการวัดขนาดและศึกษาตารางไซส์สินค้าด้วยตัวเองแทนที่การลองสินค้าในห้องลองตามปกติ หรือการศึกษาหาข้อมูลบนเว็บไซต์ด้วยตัวเองแทนที่การถามจากพนักงานขาย เป็นต้น ด้วยเหตุนี้เอง ปัญหาดังกล่าวข้างต้นจึงกลายเป็นรูปแบบแนวคิดที่ใช้วัดคุณค่าของธุรกิจ E-commerce ของผู้บริโภคสินค้าออนไลน์ กล่าวคือ ลูกค้าจะเลือกซื้อสินค้าออนไลน์กับคุณหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการบริหารประสบการณ์ลูกค้า (Customer experience management) การบอกต่อปากต่อปากดูเหมือนจะกลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจาก 84% ของผู้บริโภคสินค้าออนไลน์ไม่ไว้วางใจในโฆษณาชวนเชื่ออีกต่อไป แต่ผู้คนกลับเริ่มแสวงหาและตรวจสอบจากบุคคลใกล้ชิดแทน ฉะนั้นการมุ่งเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ถือเป็นวิธีการดึงดูดลูกค้าเพิ่มมากขึ้นจากการบอกต่อโดยอัตโนมัติ ทำให้ธุรกิจของคุณก้าวไปได้ไกลมากยิ่งขึ้น ในทางกลับกันการบอกต่อยังกลายเป็นดาบสองคม หากลูกค้าของคุณไม่ได้รับประสบการณ์ที่ดีพอเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มสูงที่ประสบการณ์ของลูกค้าจะกลายเป็นสนามรบในการแข่งขันในอนาคต เนื่องจากการบริหารประสบการณ์ลูกค้าถือเป็นครื่องมือชั้นเยี่ยมที่จะช่วยให้คุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง เพราะในปัจจุบันผู้บริโภคไม่เพียงแต่เปรียบเทียบเฉพาะผลิตภัณฑ์และราคาเท่านั้น แต่ยังพิจารณาไปถึงการให้บริการและประสบการณ์ที่ได้รับอีกด้วย ประสบการณ์ของลูกค้า (Customer experience) คือสิ่งที่ลูกค้าได้รับจากการบริการของคุณ ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ สุดประทับใจหรือประสบการณ์ที่เลวร้ายกลับไป ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารประสบการณ์ลูกค้าของคุณนั่นเอง ฉะนั้นหากคุณมีระบบการบริหารประสบการณ์ลูกค้าที่ดีอยู่ในมือ การประสบความสำเร็จในธุรกิจ E-commerce ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป สนใจทดลองใช้ Zendesk ฟรี หรือสอบถาม ราคา Zendesk ติดต่อ บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการระบบ Zendesk ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ – Zendesk Thailand Partner สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ราคา Zendesk พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ โทรเลย!  02-675-9371 092-262-6390 097-008-6314 (ฝ่ายขาย) support@dmit.co.th Official LINE...

เรื่องราวความสำเร็จของ Uber

ความเร็วในการตอบ Chat ปริมาณแชทของผู้ขับขี่หน้าใหม่ / สัปดาห์ (สหรัฐอเมริกา) ค่าความพึงพอใจ ของลูกค้าผ่าน Chat รองรับภาษา โซลูชันที่ใช้ < 30 วินาที 30,000 95% 10+ Uber ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2552 โดยนำเสนอการเดินทางที่ปลอดภัยและราคาไม่แพง เพียงคุณกดปุ่มแค่ปุ่มเดียว โดยใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่ เช่น ผู้ขับขี่ที่มีรถเป็นของตัวเองและมีเวลาว่าง เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการขนส่ง ของชุมชน ทำให้ปัจจุบัน Uber มีการดำเนินการมากกว่า 450 เมืองใน 76 ประเทศทั่วโลก การขยายตัวอย่างรวดเร็วทำให้ Uber เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติม เช่น UberEATS, UberRUSH และ Uber for Business เป็นต้น แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเบื้องหลังพวงมาลัย มีระบบการดำเนินงานที่ซับซ้อนและต้องมีการติดต่อกับลูกค้าเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ทั้งคนขับและผู้โดยสารในการได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่น ด้วยเหตุนี้เอง Uber จึงจำเป็น ต้องมีความยืดหยุ่นอยู่ตลอดเวลาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า เพื่อให้บริการเป็นไปอย่างราบรื่น Uber เลือกใช้ Zendesk Support เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าในแต่ละเมือง เนื่องจาก Zendesk เป็นระบบที่มีความคล่องตัวบน Cloud และใช้งานง่าย เหมาะสำหรับทีมที่เพิ่งเปิดตัวไม่นานในเมืองใหม่ๆ อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นเหมาะสำหรับการรองรับการเติบโตแบบทวีคูณของบริษัทได้ ปริมาณการสนับสนุนของ Uber ส่วนใหญ่มาจาก Uber app และในกรณีเริ่มต้นใช้งาน ผู้ขับขี่รายใหม่จะได้รับแจ้งให้ทำการ อัปโหลดเอกสารต่างๆเพื่อใช้สร้างประวัติผู้ขับขี่ Uber จึงเลือกนำ Zendesk Chat เข้ามาใช้เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถถามคำถามต่างๆได้ แอชลีย์แบรดฟอร์ด (Global Chat Support Program Manager ของ Uber) กล่าวว่า “Zendesk Chat เป็นสิ่งที่ ยอดเยี่ยมมากในการใช้งานเพื่อลงทะเบียนผู้ขับขี่รายใหม่ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับเจ้าหน้าที่ในการตอบคำถามต่างๆมากมายผ่านการสื่อสารระหว่างกันเพียงครั้งเดียว มันเร็วมากจริงๆ” นอกจากนี้ในฝรั่งเศส ทีมงานยังได้ใช้แชทเพื่อเข้าถึงผู้ใช้ในเชิงรุกบนหน้าเว็บไซต์ บางกรณีทีมงานได้เลือกใช้ live chat...

Continue reading

สรุปข้อแตกต่างระหว่าง Gmail Free Version กับ G Suite

ข้อแตกต่างของ Gmail Free Version และ G Suite หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราต้องเสียเงินเพื่อใช้อีเมลของ Google ทั้งๆที่โดยปกติเราสามารถใช้งาน Google Apps ได้ฟรีๆอยู่แล้ว แต่คุณอาจจะยังไม่รู้ว่า G Suite นั้นมีข้อดีมากมายที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคุณได้อีกหลายเท่าตัว มีเหตุผลหลัก 7 ข้อที่ทำให้ G Suite น่าใช้งาน              1. สามารถกำหนดชื่อโดเมนอีเมลได้ด้วยตัวเอง ธุรกิจที่ใช้ Gmail แบบ Free Version  รูปแบบอีเมลจะเป็น  mybusinessname@gmail.com ซึ่งอีเมลลักษณะนี้เป็นอีเมลที่ทุกคนสามารถสร้างขึ้นได้  แต่หากคุณหันมาใช้ G Suite คุณจะสามารถกำหนดชื่อโดเมนอีเมลของคุณได้ เช่น contact@businessname.com ซึ่งทำให้ธุรกิจของคุณดูมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นอีกทั้งยังเป็นการเพิ่มคุณค่าและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ธุรกิจของคุณ             2. สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา เมื่อคุณใช้ G Suite สามารถรับประกันได้ว่าระบบจะสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะไม่เกิดเหตุขัดข้อง แต่หากคุณใช้ Gmail แบบ Free version ที่ไม่มีการรับประกันในจุดนี้ ซึ่งอาจเกิดปัญหาในการใช้งานได้             3. สามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสูงสุดได้กว่า 70 เท่า! Free version ของ Gmail ให้พื้นที่จัดเก็บเพียงแค่ 15 GB หากเป็นแบบ G Suite คุณจะได้พื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 1 TB สำหรับบางธุรกิจที่ใช้เกี่ยวกับงานเอกสารทั่วไปอาจจะไม่ประสบกับปัญหาประเภทนี้แต่ในปัจจุบันเราใช้วีดีโอในการสื่อสารและการทำงานกันมากขึ้น จึงจำเป็นที่จะต้องใช้พื้นที่ที่จัดเก็บที่มีขนาดใหญ่เพียงพอ             4. มีคนให้คำปรึกษาตลอดเวลา นี่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ มีบริการต่างๆมากมาย ทั้ง Google Docs ,Google Sheets และ Google Slides ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาหรือข้อสงสัยขึ้นก็จะมีคนคอยให้คำปรึกษาและเสนอแนวทางการแก้ปัญหาต่างๆให้คุณได้ตลอดเวลา             5. ไม่มีโฆษณาให้กวนใจ Gmaill Free Version Keyword จะมีโฆษณามากมาย...

Continue reading

ประสบการณ์จริงจากผู้ใช้ G Suite – บริษัท ธีรชัยสตีล คอร์ปอเรชัน จำกัด

วันนี้เรามีคำบอกเล่าจากประสบการณ์จริงของผู้ใช้บริการ G Suite พร้อมเหตุผลว่าทำไมหน่วยธุรกิจและองค์กรต่างๆ จึงควรใช้ G Suite ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ คุณพรเทพ สุธีรชัย กรรมการบริหาร บริษัท ธีรชัยสตีล คอร์ปอเรชัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้า ตัด และขายเหล็กทุกชนิด ที่มีระบบการทำงานอย่างมืออาชีพ พร้อมทั้งจำหน่ายและให้บริการเหล็ก และอลูมิเนียมสำหรับการผลิตบรรจุภัณฑ์ทางอาหารและทั่วไป ตอบสนองความต้องการระดับสูงของโรงงานผลิต รวมถึงจำหน่ายเหล็กโครงร่าง เหล็กหลังคา (Metal Sheet) เหล็กแผ่นผนังสำเร็จรูป (Metal Siding) เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของการก่อสร้างที่ทันสมัยในอนาคตอีกด้วย Q: จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง     แต่เดิมบริษัทฯ มีระบบการทำงานแบบแยกส่วน โดยพนักงานแต่ละคนทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง ในบางครั้งการทำงานร่วมกันที่ต้องใช้เอกสารหรือไฟล์ร่วมก็จะสับสนเวลาส่งไฟล์ผ่านเมล์หรือใช้ทัมพ์ไดรฟ์เสียบไฟล์ข้ามกันไปมาระหว่างเครื่อง ซึ่งเอกสารและไฟล์ของบริษัทฯ มีเป็นจำนวนมาก จึงมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดสูง ดังนั้นบริษัทฯ จึงสนใจระบบที่พนักงานทุกคนสามารถใช้ทำงานร่วมกันได้ ที่อยู่บนเวอร์ชันเดียวกัน ไม่ใช่ว่าของไฟล์ของพนักงานแต่ละคนมีเวอร์ชันทั้งที่เป็นงานเดียวกัน ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาความผิดพลาดได้ เราเลยพบว่าระบบคลาวด์ค่อนข้างตอบโจทย์การแก้ปัญหาดังกล่าว   Q: ทำไมถึงเลือก G Suite     ตัว G Suite ระบุคอร์สไว้ชัดเจนเลยว่า แพ็คเกจนี้มีอะไร เราจะได้อะไรจากแพ็คเกจนี้บ้าง ซึ่งทำให้เราสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายได้ง่าย เหมือนเวลาไปทานบุฟเฟ่ต์ มันก็จะมีหลายแบบ หลายคอร์สใช่ไหม อย่างเช่น คอร์ส 499 บาทได้อะไรบ้าง คอร์ส 599 บาทได้อะไรเพิ่มบ้าง อะไรแบบนี้ (หัวเราะ) อีกอย่างคือ G Suite มี Trial ให้ทดลองใช้ แล้วก็พวกการเพิ่มฟังก์ชันต่างๆก็สามารถเพิ่มได้ง่ายกว่า ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เราเองก็มีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของ G Suite ที่ให้บริการโดยกูเกิ้ล เนื่องจากเป็นบริษัทระดับโลกที่ให้บริการบนระบบคลาวด์     Q: การเปลี่ยนแปลงหลังใช้ G Suite     พนักงานทุกคนทำงานพร้อมกันกันได้เลย ไม่ต้องส่งไฟล์ข้ามไปข้ามมา ใครกำลังพิมพ์อะไรเราก็เปิดขึ้นมาดูได้เลย แล้วเราก็จะสามารถติดตามงานได้ง่ายขึ้น พอเราทำงานผ่านระบบคลาวด์แล้วเนี่ย เราก็จะสามารถทำงานกันได้รวดเร็วขึ้น พนักงานรุ่นใหม่ๆก็ชื่นชอบกัน เพราะมันมีฟังก์ชันต่างๆให้ลองเล่นเยอะ แต่พนักงานรุ่นเก่าๆอาจจะต้องทำความเข้าใจกับมันเยอะหน่อย (หัวเราะ) แต่จริงๆแล้วตัวฟังก์ชันมันไม่ได้ซับซ้อนและยุ่งยากอะไรเลยนะ ผมคิดว่าถ้าใครไม่มีพื้นฐานโปรแกรม...

Continue reading

G Suite เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการเข้าถึงข้อมูลเพื่อป้องกันโจรกรรม

การปกป้องข้อมูลและทรัพย์สินที่สำคัญขององค์กรคุณถือเป็นความท้าทายอย่างมาก G Suite ช่วยปกป้องข้อมูลของคุณด้วยวิธีการต่างๆ อย่างการตรวจจับการโจรกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงผ่านทางการเรียนรู้ของระบบ โดยบังคับให้มีการตรวจสอบความถูกต้อง ด้วยการบังคับใช้หลักด้านความปลอดภัยและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลผ่านเครื่องมือต่างๆเช่น DLP วันนี้ G Suite ได้เพิ่มฟังก์ชั่นควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล และเพิ่มระบบป้องกันการโจรกรรมให้ดียิ่งขึ้น ด้วยระบบ ‘OAuth’ ให้องค์กรของคุณสามารถมองเห็นและควบคุมข้อมูลภายนอกได้   ระบบควบคุมการเข้าถึงของข้อมูลภายนอกแบบใหม่ ระบบ ‘OAuth’ ช่วยให้เก็บข้อมูลได้อย่างปลอดภัยโดยที่ให้ผู้ใช้ G Suite สามารถเลือกรับข้อมูลจากภายนอกได้ เป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันสแปม ผู้ใช้งานสามารถเลือกสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลของตนเอง ดังนั้นจึงช่วยป้องกันข้อมูลที่เข้าข่ายโจรกรรม หรือข้อมูลอันตรายต่อผู้ใช้งานโดยบังเอิญได้       ซึ่งการควบคุมความปลอดภัยแบบใหม่นี้ สิ่งที่ผู้ใช้งาน G Suite สามารถทำได้ มีดังนี้ 1. ตรวจสอบข้อมูลภายนอกอย่างละเอียดได้ ก่อนที่จะเข้าถึงฐานข้อมูลของ G Suite   2. อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลได้ เฉพาะข้อมูลที่น่าเชื่อถือและได้รับการตรวจสอบจาก ‘OAuth’ เท่านั้น ปกป้อง ‘OAuth’ ในการเข้าถึงข้อมูลหลักของ G Suite โดยป้องกันการติดตั้งแอปที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะจำกัดปัญหาที่เกิดจาก shadow IT เมื่อทำการติดตั้งระบบ ‘OAuth’ การเข้าถึงข้อมูลภายนอกจะถูกบังคับใช้ตามนโยบายที่กำหนดโดยผู้ดูแลระบบและพนักงานจะได้รับการป้องกันโดยอัตโนมัติจากแอปที่ไม่ได้รับอนุญาต เปิดใช้งานระบบ ‘OAuth’ สำหรับโดเมนของคุณ ฟังก์ชันสุดพิเศษนี้กำลังเปิดใช้งานเป็นระยะๆ และจะมีให้บริการภายในคอนโซลผู้ดูแลระบบภายใน 2-3 วันถัดไป หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมว่าธุรกิจของคุณสามารถทำงานร่วมกันในการจัดเก็บข้อมูล และติดต่อสื่อสารภายในองค์กรอย่างปลอดภัยด้วย G Suite ได้อย่างไร สอบถามคำแนะนำในการเริ่มต้นใช้งานได้ที่นี่   ที่มา : G suite บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการ Google Apps for Work ในประเทศไทย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ โทรเลย!  02-675-9371  092-262-6390  097-008-6314 (ฝ่ายขาย)  support@dmit.co.th Official LINE           ...

ออลไทยแท็กซี่ (All Thai Taxi) วางใจเลือกใช้ G Suite เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรอย่างทวีคูณ

          บริษัท ออลไทยแท็กซี่ จำกัด ผู้นำนวัตกรรมการให้บริการรถแท็กซี่ที่ยกระดับการบริการที่เป็นเลิศ มีความสะดวกสบาย และปลอดภัย (หรือที่เราเห็นคุ้นตากันบนท้องถนนที่เป็นรถแท๊กซี่พรีอุส สีเหลือง) ตัดสินใจนำ Google for Work หรือชื่อใหม่ในนาม G Suite เข้ามาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดต้นทุนธุรกิจของบริษัทฯ คุณอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ ประธานกรรมการบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด และ บริษัท ออลไทย แท็กซี่ จำกัด           คุณอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ ประธานกรรมการบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด และ บริษัท ออลไทย แท็กซี่ จำกัด ได้กล่าวถึงการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้งานในบริษัทฯ ว่าเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการให้บริการของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีการให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ระบบแผนที่เพื่อบอกเส้นทาง การบริหารจัดการรถยนต์พาหนะ และการบริหารจัดการภายใน เพื่อให้กระบวนการทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด          “Google Apps for Work ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันของเราอย่างมาก โดยเฉพาะในธุรกิจขนส่งที่ต้องมีการจัดการเอกสารเพื่อประสานงานภายใน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลยานพาหนะ การนัดหมาย การซ่อมบำรุงรักษา เอกสารการเบิกเงิน การติดต่อกับคู่ค้า เรียกได้ว่า Google Apps for Work ช่วยลดความซ้ำซ้อนของการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งไม่ว่าอยู่ที่ไหน พนักงานของเราก็สามารถทำงานได้ด้วยข้อมูลชุดเดียวกันผ่านอุปกรณ์พกพา หรือคอมพิวเตอร์” คุณอนันต์ กล่าว           ในด้านการลงทุนนั้น คุณอนันต์กล่าวว่าการใช้ Google for Work นั้นเปรียบเสมือนการมีระบบไอทีระดับโลกของกูเกิ้ล (Google) มาใช้ในองค์กรด้วยค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม ไม่ต้องลงทุนฮาร์ดแวร์และระบบความมั่นคงปลอดภัยเอง ซึ่งหากต้องลงทุนเองเพื่อให้ได้การทำงานในระดับเดียวกันเพื่อยกระดับการทำงานภายในขององค์กร จะต้องใช้เงินลงทุนอย่างมหาศาล ซึ่ง Google for...

Continue reading

ดีมีเตอร์ ไอซีที จับมือ แซทเทอไลท์ออฟฟิส บุกตลาด Google Add-On Service ในประเทศไทย

กรุงเทพฯ 4 สิงหาคม 2559 บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด หนึ่งในผู้ให้บริการ Google Apps รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จับมือกับ แซทเทอไลท์ ออฟฟิส (Sateraito Office Inc.) กูเกิ้ลพาร์ทเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นบุกตลาด Google Add-On Service ในประเทศไทย Sateraito Office Inc. (www.sateraito.jp) มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นกูเกิ้ลพาร์ทเนอร์ใหญ่อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นเจ้าของโซลูชั่นเสริมบนระบบ Google Apps for Work ที่มีผู้ใช้งานในประเทศญี่ปุ่นมากกว่า 25,000 องค์กร รวมมีผู้ใช้งานทั้งสิ้นกว่า 5 ล้านคน หรือมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าร้อยละ 70 โดยเน้นโซลูชั่นด้านเวิร์คโฟล (Workflow) การล๊อกอินครั้งเดียว (Single Sign-On) การจัดการเอกสาร (Document Management) โดยโซลูชั่นส์ของ Sateraito Office จะช่วยต่อยอดให้กับบริษัทหรือองค์กรที่ใช้ Google Apps อยู่แล้ว สามารถปรับองค์กรให้เป็นองค์กรดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเอกสารทั้งหมดที่เป็นกระดาษจะถูกแทนที่ด้วยขั้นตอนการอนุมัติ และเอกสารอ้างอิงทั้งหมดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่อกับ Google Apps และทำงานบนระบบคลาวด์อย่างครบวงจร “ปัจจุบ้น องค์กรจำนวนมากยังคงบริหารจัดการภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการจองห้องประชุม การขออนุมัติลา การขอเบิกค่าใช้จ่าย ฯลฯ ด้วยระบบกระดาษ หรือระบบงานไอทีที่มิได้เชื่อมต่อกับ Google Apps for Work อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ต้องมีการอัพเดทข้อมูลภายหลังการอนุมัติลงในปฏิทิน (Calendar) บนระบบ Google Apps ของแต่ละคน ภายใต้การทำงานของ Sateraito Office ที่เชื่อมต่อกับ Google Apps for Work อย่างสมบูรณ์แบบ จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานในองค์กร สามารถทำงานนอกเหนือจากการใช้อีเมล์ หรือเครื่องมือ Google Apps อื่นๆ ในการอนุมัติ หรืออัพเดทข้อมูลที่ต้องแบ่งปันร่วมกับบุคลากรอื่นในองค์กร” ดร. วรัญญู สุจิวรพันธ์พงศ์ ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท...

Continue reading