Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

WeChat Pay สามารถทำธุรกรรมอะไรในจีนได้บ้าง

ปัจจุบัน เชื่อว่าคนไทยส่วนมากจะรู้แอปพลิเคชั่นของจีนที่มีชื่อเสียงเลื่องลือนามมานาน สำหรับการใช้จ่ายเงินหรือทำธุรกรรมผ่านออนไลน์ หรือ สังคมไร้เงินสด นั้นก็คือ เเอพกระเป๋าเงินออนไลน์ E-Wallet ที่คนจีนใช้งานกันมากที่สุดในตอนนี้ ซึ่งแอปพลิเคชั่นที่คนจีนนิยมใช้ในชีวิตประจำวันในทุกๆวัน คือ WeChat pay  เพื่อนๆคิดว่า WeChat pay  สามารถทำอะไรได้บ้างตามมาดูกันเลย 1. ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหาร ตอนนี้ถ้าได้มีโอกาสเดินทางไปเมืองจีน เเล้วได้เข้าไปกินอาหารตามภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้า เเม้เเต่อาหารริมทางเเละ สตรีทฟู้ดก็จะเห็นว่าทุกที่จะมี QR Code สำหรับให้สแกนเพื่อจ่ายเงิน นอกจากนี้เเล้ว ร้านในเขตที่ไกลจากตัวเมืองก็ยังมีการจ่ายเงินผ่าน WeChat Pay ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบัน การจ่ายเงินเเบบออนไลน์ได้ครอบคลุมทั่งพื้นที่ของจีนเเล้ว ยิ่งไปกว่านั้นมี ผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนในระบบของ WeChat Pay ราว 222 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 67 จากประชากรจีนทั้งหมด ในเขตชานเมือง 2. การช็อปปิ้ง หลังจากที่ลูกค้าช็อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าเเล้วลูกค้ามาตรงเคาน์เตอร์จ่ายเงิน จะเห็นได้เลยว่ามีการติดตั้ง QR Code สำหรับการจ่ายเงินผ่าน WeChat Pay ไม่เพียงเเต่ในห้างเท่านั้น เเม้เป็นเพียงร้านค้าขายส่ง ขายปลีก ร้านค้าทั่วไป เเละรวมถึงการช้อปปิ้งผ่านออนไลน์ WeChatPay ก็มีการจัดโปรโมชั่นเพื่อให้สิทธิรับผลประโยชน์สำหรับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดจากการใช้แทนบัตรเครดิต หรือการคืนเงินต่างๆ 3. การทำวีซ่า คนจีนที่มี WeChat Pay สามารถทำเรื่องขอวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางไปต่างประเทศได้  เเละประเทศไทยก็มีให้ความรวมมือด้วย ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่าง ตม.ของไทย กับจีน โดยจะเชื่อมต่อกับบริการขอวีซ่า E-VOA (Visa on Arrival) ทำให้ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจีนจะสามารถเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้อย่างสะดวกสบายขึ้นมาก เเค่โหลดโหลด WeChat Pay ไว้ในมือถือ  ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับ ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการเข้าถึงตลาดของนักท่องเที่ยวจีน ยิ่งมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ WeChat Pay เพื่อยเพิ่มโอกาสในการทำตลาดกับกลุ่มคนชาวจีนมากยิ่งขึ้น 4. ธนาคาร เเละ ธุรกรรมการเงิน มีการคิดค้นการจ่ายเงินผ่านระบบสเเกนใบหน้าสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงิน เพื่อให้ครอบคลุมการโอนเงิน จ่ายเงินเเละชำระค่าบริการต่างๆ ดังนั้นเเสดงให้เห็นว่าหลังจากนี้ประชากรจีนเเทบไม่ต้องพกเงินสดติดตัวเรย เเละไม่จำเป็นต้องพกมือถือเพื่อว่าทำธุรกรรมที่ธนาคารเเละไม่ต้องมีบัตร...

Continue reading

ดึงข้อมูลที่ต้องบันทึกซ้ำ ๆ ด้วยฟังก์ชัน Filter และ Match บน Google Sheets

หากใครที่มีการทำงานในลักษณะที่ต้องบันทึกข้อมูลแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ทำให้เราต้องเสียเวลาในการบันทึกข้อมูลไปมากในแต่ละครั้ง และมีโอกาสผิดพลาดได้สูง วันนี้ทาง Demeter ICT มีเทคนิค Google Sheets มาแชร์สำหรับการสร้างลิสต์รายการเพื่อใช้ในการดึงข้อมูลตามรายการที่เราเลือกโดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาในการบันทึกข้อมูลเดิม ซ้ำ ๆ อีกต่อไป โดยฟังก์ชันที่ใช้มีเพียงแค่บรรทัดเดียวเท่านั้น ตัวอย่างชุดข้อมูลที่บันทึกยอดขายสินค้าของพนักงานแต่ละคน  ข้อมูลชุด A เป็นข้อมูลเดียวกันกับข้อมูลชุด B ซึ่งหากเป็นการบันทึกในรูปแบบปกติที่ไม่มีการดึงข้อมูล ในส่วนของข้อมูลชุด A จะต้องบันทึกข้อมูลทั้งหมด 4 ช่อง ด้วยกัน คือ Categories, Cost, Price, และ Margin ทำให้ต้องเสียเวลาเป็นอย่างมาก และโอกาสผิดพลาดสูง ดังนั้น เราจะแนะนำวิธีการดึงข้อมูลจากรายการที่เราเลือก โดยใช้ฟังก์ชัน Filter และ Match บน Google Sheets โดยทั้ง 2 ฟังก์ชัน จะมีโครงสร้าง ดังนี้ FILTER(range, condition1, )MATCH(search_key, range, ) ขั้นตอนที่ 1 เราต้องสร้างลิสต์รายการขึ้นมาก่อน โดยจะนำข้อมูลชุด B มาสร้างเป็นลิสต์รายการ ในส่วนของข้อมูลชุด A โดยมีวิธีการสร้าง ดังนี้ คลิกขวาช่องที่ต้องการทำลิสต์รายการ > เลือก Data validation ในส่วนของ Criteria ช่อง 1 กำหนดเป็น List from a range ช่อง 2 คลิกที่สี่เหลี่ยมท้ายช่อง จากนั้น เลือกข้อมูลที่ต้องการนำมาสร้างลิสต์รายการ เป็นอันเสร็จสิ้นในขั้นตอนที่ 1  ในขั้นตอนถัดไปจะพาทุกท่านไปดูวิธีการดึงข้อมูล ซึ่งเป็นจุดสำคัญในบทความนี้ ขั้นตอนที่ 2 เราจะทำการดึงข้อมูลจากรายการที่เลือกขึ้นมาแสดง จากชุดข้อมูลตัวอย่างจะเห็นว่า เมื่อเลือก Apple Care จะทำการดึงชุดข้อมูลฝั่งขวามือทันที โดยใช้ฟังก์ชัน Filter...

Continue reading

ฟีเจอร์ลับ! Google Docs ที่คุณไม่ควรพลาด

ฟีเจอร์ลับ Google Docs ที่คุณไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็นการแปลภาษาทั้งเอกสาร สั่งพิมพ์งานด้วยเสียง แปลงข้อความในภาพเป็นตัวหนังสือ หรือทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ได้พร้อมกันสูงสุด  100 คน! 1. แปลภาษาได้ทั้งเอกสาร คุณรู้หรือไม่ว่า Google Docs สามารถแปลเอกสารของคุณได้ทั้งหมด เพียงแค่กด Tools > Translate Document เลือกภาษาที่ต้องการ เพียงเท่านี้เอกสารของคุณทั้งหมดก็จะกลายเป็นภาษานั้น ๆ ปรับอีกนิดหน่อยก็จะได้งานแปลแบบ  สวย ๆ  ถือว่าเป็นการรวมฟีเจอร์ Google Translate ไว้ใน Docs เพื่อที่ง่ายต่อการทำงานนั่นเอง 2. สั่งพิมพ์งานด้วยเสียง คุณสามารถสั่งให้ Google Docs พิมพ์งานโดยที่คุณไม่ต้องพิมพ์เองให้เมื่อยมือใด ๆ โดยกดที่ Tools > Voice Typing หรือ Ctrl + Shift + S เลือกภาษาและพูดประโยคที่ต้องการจะพิมพ์ลงไป เพียงเท่านี้ Google Docs ก็จะพิมพ์ตามที่คุณพูด ถือว่าสะดวกสุด ๆ  3. เปลี่ยนข้อความในภาพเป็นตัวหนังสือใน Docs เข้าไปที่ Google Drive เลือกภาพที่ต้องการจะแปลงเป็นตัวหนังสือ คลิกขวา > Open With > Google Docs คุณก็จะได้ข้อความในภาพมาเป็นตัวหนังสือใน Docs ไม่ต้องเปิดไฟล์แล้วพิมพ์ตามให้เสียเวลา  4. เสิร์ชข้อมูลและหาภาพในกูเกิ้ลได้ไม่ต้องสลับหน้าต่าง หากคุณกดปุ่ม Explore ที่อยู่มุมขวาล่าง คณจะสามารถเสิร์ชข้อมูลจาก Google ได้โดยตรง แค่คุณพิมพ์คำที่ตรงการจะเสิร์ชลงไปและกดที่ WEB จะขึ้นข้อมูลต่าง ๆ ใน Google และสามารถเลือกรูปที่ IMAGES เพื่อแทรกลงในเอกสารได้เลยทันที ไม่ต้องกดเซฟ ไม่ต้องสลับหน้าต่างให้ยุ่งยากอีกต่อไป 5. ตรวจคำผิดด้วย Spelling and Grammar...

Continue reading

เชื่อมต่อ LINE OA เข้ากับ Zendesk ด้วย Social Messaging

ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คำถามยอดฮิตของลูกค้าคือ จะเชื่อมต่อบัญชี LINE OA เข้ากับ Zendesk Support ได้ไหม? เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่ใช้แอปพลิเคชันไลน์ในการสื่อสารกันเป็นจำนวนมาก เรียกว่าเป็นช่องทางยอดฮิตอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ ทางเราก็จะตอบกลับลูกค้าไปตลอดว่าไม่ได้เนื่องจากติดปัญหาและมีข้อจำกัดของไลน์เอง แต่มาวันนี้คำตอบได้เปลี่ยนไปแล้วเพราะ Zendesk ได้ออกตัว Connector ที่จำหน่ายแยกเป็น Add on ออกมาใหม่ เรียกว่า “Social Messaging” ที่จะทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชันส่งข้อความยอดนิยมอย่าง LINE OA (Official Account), Facebook Messenger, WhatsApp, WeChat และ Twitter Direct Messages (DMs) เข้ากับ Zendesk Support และ Zendesk Support Suite เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างง่ายดายไร้รอยต่อ ด้วย Social Messaging Add on นี้จะทำให้ทุกข้อความที่ลูกค้าติดต่อเข้ามาจากช่องทางโซเชียลที่กล่าวไปข้างต้นถูกเปิดเป็น Ticket ใน Zendesk Support รวมถึงพนักงานหรือ Agents ก็สามารถตอบกลับจากหน้า Interface ของ Zendesk Support ได้เลย อีกทั้งยังสามารถสร้าง Business Rule ต่าง ๆ เช่น triggers, automations และ macros รวมถึงการเก็บข้อมูลการสนทนาซึ่งช่วยให้สามารถติดตามเคสของลูกค้าได้ แก้ปัญหาเคสหลุดและข้อความตกหล่นได้เหมือนกับ ticket ทั่วไป รายละเอียดจำนวน Account ของช่องทางต่าง ๆ ที่สามารถเชื่อมต่อได้มีดังนี้LINE OA, WhatsApp และ WeChat = ไม่จำกัดจำนวน AccountFacebook Messenger = 15 pagesTwitter Direct Messages...

Continue reading

“Zendesk” Customer Service Software ที่ทั่วโลกยอมรับ

บริษัททั่วโลกเขารู้จัก และใช้กันมานานแล้ว แล้วคุณหล่ะรู้จัก Zendesk รึยัง? หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Zendesk มาบ้าง หรืออาจจะไม่เคยได้ยินก็แล้วแต่ แต่ในวันนี้คุณจะได้รู้จักเจ้า Zendesk มากขึ้นไปพร้อมๆกับเรา คุณเคยเจอปัญหาลูกค้าทักมาจากหลายหลายช่องทางจนตอบผิดตอบถูกไหม? คุณเคยเจอปัญหาลูกค้าเก่า แต่ต้องเสียเวลากรอกข้อมูลใหม่ทุกครั้งไหม? คุณเคยเจอปัญหาต้องจ้างพนักงานเพิ่ม ต้นทุนมากขึ้น เพื่อมารองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้นไหม? ซึ่งการที่เราจะขยายธุรกิจต่อไปได้นั้น เราต้องวางรากฐานและกระบวนการทำงานให้พร้อมที่จะรับมือกับปัญหาที่พูดไว้ข้างต้น หรือลูกค้าที่จะเข้ามามากขึ้น นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้บริษัทชั้นนำหลายบริษัททั่วโลก เลือกใช้ Zendesk เพราะ ปัญหานี้พวกนี้แหละ สามารถแก้ได้ด้วยเจ้าระบบ Zendesk ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมช่องทางการสื่อสารแบบ Omnichannel เพื่อให้สะดวกและรวดเร็วต่อการตอบสนองของลูกค้าที่สุด และยังเป็นการช่วยลดการทำงานซับซ้อนให้กับพนักงานของเราอีกด้วย ดังนั้นพนักงาน 1 คน สามารถรับลูกค้าได้มากขึ้น หมายความว่าเราสามารถถึงประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เราประหยัดต้นทุนในเรื่องของค่าแรงอีกด้วย หรือจะเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้า การที่คุณจะขยายธุรกิจและเติบโตให้ใหญ่ขึ้น หลักเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องเก็บข้อมูลลูกค้าไว้ให้เป็นระเบียบและปลอดภัยที่สุด เพราะเราไม่สามารถจำลูกค้าได้ทุกคนอยู่แล้ว แล้วถ้าลูกค้าคนนึงติดต่อมา จะให้เราถามข้อมูเขาทุกครั้งก็เกรงว่าจะไม่เหมาะสม ซึ่งปัญหานี้ก็แก้ได้ด้วย Zendesk เช่นกัน ซึ่งที่กล่าวมาด้านบนก็เป็นปัจจัยหลักๆที่ทำไมบริษัทชั้นนำจึงเลือกใช้ Zendesk และสามารถทำให้บริษัทเหล่านั้นอยู่แนวหน้า และมีผลประกอบการที่ดีขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย คราวนี้มาดูกันดีกว่าว่ามีบริษัทอะไรที่ใช้ Zendesk บ้าง ต่างประเทศ Daniel Wellington บริษัทขายนาฬิกาชื่อดังที่มีสไตล์เรียบหรูดูแพง Airbnb สำหรับสายท่องเที่ยวน่าจะรู้จักกันดี คือ แอฟพลิเคชั่นจองที่พักออนไลน์ที่เป็นที่นิยมมากตอนนี้ Foodpanda บริษัทที่ฮิตและนิยมมากในช่วง Covid นี่คือบริษัท Food Delivery Discord สำหรับสายเกมเมอร์ บริษัทที่ทำระบบเชื่อมต่อการสื่อสารของคนจำนวนมากไว้ด้วยกัน Uber บริษัทที่ทุกคนรู้จักกันในเรื่องของการเรียก Taxi ทางออนไลน์หรือแอฟพลิเคชั่น ประเทศไทย Kerry Express สำหรับสายช้อปปิ้งออนไลน์ต้องรู้จักแน่นอน บริษัทขนส่งอันดับต้นๆของประเทศไทย 2C2P เป็นบริษัทที่ดูแลเกี่ยวกับการจ่ายเงิน หรือระบบการเงินออนไลน์ Finn Mobile หรือที่ทุกคนเคยรู้จักในชื่อของ Line Mobile นั่นเอง เป็นธุรกิจเกี่ยวกับเครือข่ายโทรศัพท์ ก็ได้ใช้ Zendesk ในการทำงานเช่นเดียวกัน SCG Express ก็เช่นกัน เพิ่งจะได้เริ่มใช้ Zendesk มาไม่นานมานี้เพื่อที่จะขยายธุรกิจและรองรับลูกค้าที่มากขึ้น...

Continue reading

ทริคการใช้ Google Calendar ที่คุณอาจจะยังไม่รู้

Google Calendar กำลังเป็นที่นิยมของหลาย ๆ องค์กรที่ใช้ในการนัดหมายประชุม บางท่านก็ใช้งานเป็นประจำ ส่วนบางท่านก็พึ่งเริ่มใช้ ซึ่งเราจะมาแนะนำเทคนิคและทริคดี ๆ ด้วยกัน 5 ทริค ในการใช้งาน Google Calendar ซึ่งบางท่านก็อาจจะยังไม่รู้และไม่เคยใช้ เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน Google Calendar เราไปดู ทริคการใช้ Google Calendar ที่คุณอาจจะยังไม่รู้ กันเลย! 1. Drag & Drop สร้างการนัดหมาย คุณสามารถสร้างการนัดหมายแบบรวดเร็วได้ด้วยการลากและวางเม้าท์ในวันที่คุณอยากจะทำการนัดหมาย หรือต้องการย้ายการนัดหมายไปวันอื่น ๆ ก็ทำได้ด้วยการลากไปวางในวันที่ต้องการ  2. Keyboard Shortcuts ปุ่มลัดใช้ใน Calendar  คุณรู้หรือไม่? ว่าเราสามารถใช้ปุ่มลัดใน Google Calendar เพื่อใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยการกดที่แป้นพิมพ์ภาษาอังกฤษ          – ดูวัน อาทิตย์ หรือเดือนก่อนหน้า     K หรือ P          – ดูวัน อาทิตย์ หรือเดือนถัดไป         J หรือ N           – กลับมาวันปัจจุบัน                     T           – สร้างการนัดหมาย          ...

Continue reading

4 ทริค! เพิ่มการทำงานแบบ Productive ด้วย G Suite

หลาย ๆ ท่านคงจะเคยได้ยินการทำงานแบบ Productive มาบ้างแล้ว ซึ่งในการทำงานแบบนั้นคืออะไร เราจะอธิบายเพิ่มเติมให้ฟังกันสักนิดนึง   การทำงานแบบ Productive คือ การทำงานที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ไม่หักโหมให้ได้งานปริมาณเยอะ ๆ แต่เป็นการทำงานที่ให้ได้งานที่มีคุณภาพเหมาะสมตามเวลานั่นเอง เกิดมาจากการจัดการ การวางแผน ลำดับความสำคัญงานในแต่ละวัน และการทำงานแบบนี้ ไม่ได้หมายถึงว่าเราสามารถจัดการเวลางานได้เพียงอย่างเดียว ยังรวมไปถึงการจัดการด้านอื่น ๆ เช่น เวลาครอบครัว เวลาพักผ่อน ได้ดีอีกด้วย  ซึ่งวันนี้เรามี 4 ทริคที่จะช่วยให้การทำงานของคุณมี Productive มากขึ้น ด้วย G Suite ที่ทุก ๆ ท่านสามารถนำไปปรับใช้กับการทำงานได้เลยทันที! ทริคที่ 1 การจัดลำดับความสำคัญของงานและเวลา การที่เราสามารถจัดสำดับความสำคัญงานในแต่ละวันได้ จะทำให้เรานั้นสามารถทำงานได้งานเป็นระบบ อาจะเริ่มจากการทำ To-Do-List ในแต่ละวัน หลังจากนั้นเรียงลำดับความสำคัญของงานแต่ละชิ้น ก็จะทำให้เราโฟกัสงานและเสร็จไปเป็นอย่าง ๆ แบบมีคุณภาพและเป็นไปตามเวลาที่เรากำหนด  ซึ่งการใช้ Google Calendar เราจะสามารถสร้าง Task ลงในปฎิทินของเราในแต่ละวันได้ สามารถดูตารางนัดประชุมกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ได้ และเห็นภาพรวมงานที่เราจะต้องทำในแต่ละเดือนได้ อีกทั้งยังสามารถแจ้งเตือนล่วงหน้าได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้เราบริหารเวลาในการทำงานได้ดีมากขึ้น ทริคที่ 2 Brainstorm หรือแชร์ไอเดียงานร่วมกับทีม ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันจะต้องมีการทำงานร่วมกันในหลาย ๆ ฝ่ายเพื่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพหรือบูรณาการ ซึ่งการมีเครื่องมือที่ดี ที่สะดวกสบาย สามารถแชร์ แก้ไข หรือ Feedback เอกสารได้แบบเรียลไทม์ ประหยัดเวลาและลดขั้นตอนในการโหลดไฟล์ ก็จะสามารถ Support การทำงานร่วมกันได้อย่าง Productive มากขึ้น Google Docs, Sheets, Slides สามารถทำแบบนั้นได้ และทำงานสูงสุดถึง 100 คน ที่ Active พร้อมกัน โดยมีรายละเอียดในการติดตามชัดเจนว่าใครแก้ไขและเพิ่มเติมในส่วนไหนบ้าง ยืดหยุ่นต่อการทำงานอีกด้วย    ทริคที่ 3 ติดต่อสื่อสารกับคนในองค์กรให้ง่ายและเข้าใจตรงกัน หลาย ๆ ครั้งที่เราจะต้องนัดประชุมหรือคุยงาน แล้วหากเราฟังมาไม่เข้าใจมากพอหรือเข้าใจผิด...

Continue reading

ถอดบทเรียนรักษาระดับความพึงพอใจของลูกค้าให้ได้ถึง 90% จาก Foodpanda

เพราะความหิว รอกันไม่ได้ ในวิกฤตโควิด-19นี้ หากพูดถึงแอปพลิเคชันเดลิเวรียอดฮิตที่คนไทยต้องมีติดเครื่อง เมื่อลองนับนิ้วไล่รายชื่อดูไม่พ้นต้องเจอผู้ให้บริการรายนี้เป็นแน่ “Foodpanda” Foodpanda ผู้ให้บริการสั่งซื้อ และจัดส่งอาหารออนไลน์เดลิเวรีผ่านแอปพลิเคชันเจ้าแรกในประเทศไทย เชื่อมโยงความหิวของลูกค้าเข้ากับอาหารที่พวกเขาชื่นชอบ โดยทำให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งซื้ออาหารจากร้านอาหารท้องถิ่นจำนวนมาก ผ่านทางออนไลน์หรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้บริโภคต่างก็หลงใหลในทางเลือกที่หลากหลาย จนปัจจุบัน Foodpanda ดำเนินการทั้งหมด 40 ประเทศ เชื่อมต่อกับร้านอาหารกว่า 580,000 แห่งทั่วโลก และเป็นหนึ่งในบริการจัดส่งอาหารที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในตลาด ถึงอย่างนั้นท่ามกลางออเดอร์ที่ทะยานเข้ามาไม่หวาดไม่ไหวในแต่ละวัน Foodpanda ก็ยังสามารถรักษาระดับความพึงพอใจของลูกค้าไว้ได้อย่างน่าประทับใจ โดยมีคะแนน CSAT (Customer Satisfaction Score) ที่พุ่งสูงถึง 90%   เรามาดูอีกหนึ่งเคล็ด(ไม่)ลับของเบื้องหลังการบริการลูกค้าอันยอดเยี่ยมนี้กัน เดิมทีนั้น คำร้องขอรับความช่วยเหลือของลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาของ Foodpanda จะเกิดขึ้นหลังจากลูกค้าสั่งซื้ออาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่มีความกังวลว่าอาหารของพวกเขาจะมาถึงไม่ทันเวลา จึงได้ติดต่อสอบถามมาทาง Foodpanda แต่ปัญหาของ Foodpanda คือการที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถรับรู้กระบวนการของคำสั่งซื้อได้ ไม่รู้ว่าสถานะคำสั่งซื้อไปถึงไหนแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่จำเป็นที่จะต้องสื่อสารกับร้านอาหารที่เป็นพันธมิตรและผู้ขับขี่ทุกครั้ง โดยใช้วิธีการพกพาโทรศัพท์สองเครื่อง พักสายลูกค้าและโทรไปสอบถามสถานะคำสั่งซื้ออีกเครื่อง การซัพพอรต์ทางโทรศัพท์เป็นช่องทางที่รวดเร็ว เป็นส่วนตัว และเหมาะแก่ช่วงเวลาเร่งด่วน ถึงอย่างนั้นก็แลกมาด้วยทรัพยากรที่เสียไปอย่างใช่เหตุมหาศาล Foodpanda ตระหนักว่าเพื่อที่จะบริหารจัดการทีมซัพพอรต์ทั่วโลก กลยุทธ์ด้านการซัพพอรต์ที่ไม่เหมือนใครเป็นสิ่งจำเป็น จึงเลือกใช้ ‘Zendesk Support’ และ ‘Zendesk Chat’ ช่องทาง Live Chat ช่วยอำนวยความสะดวกทั้งเจ้าหน้าที่และลูกค้า ในขณะที่ Zendesk Support ทำให้ Foodpanda สามารถรวมทุกช่องทางการติดต่อ และบริหารจัดการคำร้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ “Live Chat เป็นช่องทางที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดสำหรับลูกค้าในการติดต่อกับเรา ทุกครั้งที่ลูกค้ามีปัญหา เจ้าหน้าที่สามารถแชทตอบกลับลูกค้าได้หลายรายพร้อมกัน ดังนั้นเวลารอของลูกค้าจะลดลงและลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น” – Jorge Vernetta (Global Operations Manager at Foodpanda) กล่าว ความต่อเนื่องของการแชทผ่านแอปพลิเคชันทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม และช่องทาง Live Chat นี้เอง ที่ทำให้ Foodpanda สามารถคงค่าคะแนนความพึงพอใจของลูกค้าเอาไว้ได้ถึง 90% ปัจจุบัน Foodpanda ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ...

Continue reading

Android ใช้โหมด Dark Theme ใน Docs, Sheets และ Slides ได้แล้ว

เมื่อไม่นานมานี้ Google ได้อัพเดตระบบการทำงานใน Google Docs, Sheets และ Slides ที่สามารถใช้โหมด Dark Theme ในระบบ Android ได้แล้ว ซึ่งตอนนี้ยังปล่อยให้อัพเดตเฉพาะระบบนี้เท่านั้น และคาดว่าระบบ IOS ก็คงจะปล่อยให้อัพเดตกันตามมาติด ๆ  ในโหมด Dark Theme นี้จะสามารถปรับ Interface และการใช้งานได้อย่างชาญฉลาด! โดยเฉพาะการทำงานที่มีสภาพแวดล้อมแสงน้อย ถ้าใช้โหมดนี้ก็จะทำให้การทำงานของคุณนั้นง่ายมากขึ้น  อีกทั้งยังประหยัดแบตเตอรี่อีกด้วย Docs, Sheets, and Slides ในโหมด Dark Theme  การตั้งค่า สำหรับใน Android ถ้ามีการเปิดใช้งาน Dark Theme อยู่แล้ว Google Docs, Sheets และ Slides ก็จะปรับเข้าสู่โหมด Dark Theme แบบอัตโนมัติ หรือคุณสามารถเปิดหรือปิดโหมดนี้ได้อย่างอิสระเพียงตั้งค่าในแอป และขั้นตอนในการเปิดโหมดนี้นั้นก็ง่ายมาก โดยมีวิธีการตั้งค่า ดังนี้ เปิดแอป Google Docs, Sheets, Slides ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณ กดที่เมนู มุมบนซ้าย เลือก Setting เลือก Choose theme จากนั้นเลือก Theme ที่ต้องการ เช่น Dark, Light หรือ System defaut การดูตัวอย่างเอกสารหรือชีตในโหมด Light Theme หากคุณเปิดใช้ Dark Theme การกดดูตัวอย่างเอกสารหรือชีตของคุณก็จะเป็นโหมด Dark Theme แบบอัตโนมัติ แต่คุณสามารถดูตัวอย่างเอกสารว่าจะแสดงอย่างไรในรูปแบบ Light Theme ได้ ดังนี้ เปิดแอป Google Docs, Sheets, Slides ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณ เปิดเอกสารหรือชีตที่คุณต้องการจะดู...

Continue reading