Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

กลยุทธ์ Data-Driven สร้างการตลาดที่ตรงใจลูกค้า

ยุคดิจิทัลเป็นยุคที่ข้อมูลเข้ามามีบทบาทสำคัญและเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนธุรกิจในตอนนี้ (Data-Driven) ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไร? เล็กใหญ่แค่ไหน? คุณก็จำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลเพื่อมาประกอบการวางแผน การตัดสินใจและการดำเนินการบางสิ่งบางอย่างเพื่อให้ธุรกิจของคุณนั้นเติบโตขึ้น

เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย!

Data-Driven คืออะไร ?

Data-Driven (การขับเคลื่อนด้วยข้อมูล) คือ การทำหรือตัดสินใจบางสิ่งบางอย่าง โดยการอ้างอิงและวิเคราะห์จากข้อมูลเป็นหลัก เพื่อให้เราสามารถตัดสินใจหรือได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นนั่นเอง

การที่ธุรกิจขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของลูกค้าเป็นหนึ่งสิ่งที่แสดงถึงความเอาใจใส่ลูกค้า เพราะว่าคุณให้ความสำคัญและพยายามที่จะเข้าใจลูกค้าของคุณว่าเขาต้องการอะไร ไม่เพียงแต่จะเป็นการเพิ่ม ROI ให้กับบริษัท แต่การทำ Data-Driven ยังช่วยให้ธุรกิจทำ Trend Forecasting ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

Data-Driven มีความสำคัญกับนักการตลาดอย่างไร ?

Data-Driven เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นักการตลาดเลือกใช้ข้อมูลจากหลากหลายช่องทาง ทั้งข้อมูลที่ได้มาจากการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรงหรือผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมลูกค้าเชิงลึกและช่วยในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด รวมถึงการคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตหรือที่เรียกว่า Data-Driven Marketing นั่นเอง

เพราะการที่นักการตลาดจะปล่อยแคมเปญการตลาดออกไปนั้น คงไม่ใช่ลองปล่อยไปก่อนแล้วค่อยมาดูว่าลูกค้าสนใจไหม? แต่ธุรกิจจะต้องศึกษาถึงพฤติกรรม ความต้องการ ปัญหาของลูกค้าของตัวเองให้ดีเสียก่อน ยิ่งถ้าคุณเป็นธุรกิจระดับกลางถึงใหญ่การจะปล่อยแคมเปญการตลาดออกไปสักชิ้น จะต้องใช้ทั้งเวลา แรงและเงินทุนที่มหาศาล

ถ้าแคมเปญการตลาดนั้นไม่ตอบโจทย์ลูกค้า คุณอาจจะไม่ได้เสียแค่แรง เวลาและเงินทุนเพียงเท่านั้น แต่อาจจะสูญเสียลูกค้าคนสำคัญไปด้วย นี่คือสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าทำไมการทำ Data-Driven Marketing จึงมีความสำคัญกับนักการตลาดและธุรกิจของคุณ

ข้อมูล Data-Driven Marketing มีอะไรบ้าง ?

1. ข้อมูลจากเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน (Web & Mobile App Analytics)

คือ การวิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์และแอปพลิเคชันจากการติดตาม MAU (Monthly Active User) ว่ามีลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์หรือเข้าแอปของคุณต่อเดือนกี่คน และสามารถเจาะลึกลงไปได้ว่าลูกค้าของคุณมาจากช่องทางไหน หน้าเพจใดที่ลูกค้าใช้เวลามากที่สุด และเมื่อใดที่พวกเขาออกจากหน้าเว็บไซต์และแอปของคุณ

2. ข้อมูลจากอีเมลและข้อความบนมือถือ (Email & Mobile Messaging Analytics)

คือ การเก็บข้อมูลลูกค้าจากการส่งข้อความโดยตรงถึงลูกค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการติดต่อกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพราะปรับแต่งข้อความให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น Email, Message หรือ Push Notification ที่จะช่วยระบุแนวโน้มความสนใจของลูกค้าได้จาก Open rates, Click-through rates, Conversion rates, and Opt-out rates (Unsubscribed) รวมถึงกระตุ้นให้ลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์หรือเข้าแอปพลิเคชันที่เราต้องการได้

3. ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย (Social Media Analytics)

คือ การเก็บความคิดเห็นและการรีวิวของลูกค้าสำหรับคอนเทนต์หรือแคมเปญการตลาดที่ปล่อยออกไป เพราะโซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่การทดลองที่ยอดเยี่ยมสำหรับแคมเปญการตลาด ด้วยการที่มีต้นทุนต่ำ ทำให้ธุรกิจสามารถทดลองแคมเปญการตลาดที่จะปล่อยไปยังกลุ่มเป้าหมายของคุณก่อนได้ว่าผู้คนมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์หรือแคมเปญการตลาดของคุณอย่างไร และคอนเทนต์แบบใดที่ทำให้เกิดการเข้าชมเว็บไซต์

4. ข้อมูลจากระบบ CRM ต่าง ๆ (CRM Analytics)

คือ การเก็บข้อมูลบนระบบ CRM ที่จะช่วยแสดงเส้นทางการเป็นลูกค้าทั้งหมด ตั้งแต่ก่อนมาเป็นลูกค้าไปจนถึงวันสุดท้ายของการเป็นลูกค้า โดยเราสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ทำให้ลูกค้าคนนั้นจากเราไป เพื่อให้คุณปรับปรุงแคมเปญการตลาดหรือช่องทางการขายให้เหมาะสมตามกลุ่มเป้าหมายและความต้องการของลูกค้าได้และดึงกลุ่มลูกค้าเสียไปกลับมา นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ดีในการวัดผลกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณสามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจได้มากแค่ไหน

5. ข้อมูลจาก Third-Party Data

คือ การเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้มาจากผู้อื่นและนำข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งมาวิเคราะห์ร่วมกัน เพื่อศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แต่ข้อควรระวัง คือ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีกฎหมายใหม่มากมายที่ทำให้การใช้ประโยชน์จากข้อมูลของ Third Party Data ซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้นโปรดตรวจสอบวิธีการจัดหาข้อมูลและจัดการข้อมูลอย่างรอบคอบ

ข้อดีของ Data-Driven Marketing กับนักการตลาดและธุรกิจมีอะไรบ้าง ?

1. กำหนดกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าได้แม่นยำยิ่งขึ้น (Improve Customer Targeting)

การที่ธุรกิจเริ่มลงทุนและให้ความสำคัญในการเก็บข้อมูลของลูกค้า (Customer Data) และการทำ Data-Driven Marketing เพื่อช่วยให้เข้าใจความต้องการและความชอบของลูกค้าอย่างแท้จริง คุณจะสามารถสร้างแคมเปญการตลาดที่เฉพาะตัวและตรงกลุ่มเป้าหมายที่มีความแตกต่างกันได้มากยิ่งขึ้น

2. ปรับแต่งให้มีความเฉพาะตัว (Personalization)

Data-Driven Marketing สามารถช่วยให้คุณปรับแต่งข้อความและประสบการณ์การตลาดของคุณให้เหมาะสมและตอบโจทย์กับลูกค้าแต่ละราย (Personalized Marketing) ซึ่งจะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและความภักดีของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

3. เพิ่ม Conversion และ ROI (Get Higher Conversion and Increased ROI)

เมื่อลูกค้าได้รับแคมเปญการตลาดที่ตรงความต้องการหรือเกี่ยวข้องกับพวกเขามากขึ้น ส่งผลให้แคมเปญการตลาดของคุณมี Conversion Rate ที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ ROI เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

4. ช่วยให้การตัดสินใจดียิ่งขึ้น (Better decision-making)

Data-Driven Marketing ช่วยให้คุณตัดสินใจในทุกแง่มุมของกลยุทธ์การตลาดของคุณได้ดีขึ้น ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการสร้างเนื้อหาคอนเทนต์ ซึ่งทำให้กลยุทธ์การตลาดของคุณประสบความสำเร็จและตรงใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยที่คุณสามารถติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญการตลาดและช่วยให้คุณระบุได้ว่าแคมเปญใดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดและจัดงบประมาณการตลาดของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

5. เสริมสร้างแบรนด์ของคุณให้แข็งแกร่ง (Strengthen Your Brand)

การมอบสิ่งที่ลูกค้าต้องการในเวลาที่ใช่นั้นจะทำให้แบรนด์ของคุณเป็นฮีโร่ ลูกค้าจะประทับใจและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณและมองแบรนด์ของคุณในแง่ดี ลูกค้าอาจจะกลับมาซื้อซ้ำ (Re-Purchasing) ยิ่งไปกว่านั้นลูกค้าอาจจะแนะนำให้เพื่อน ๆ ของพวกเขา (Word of mouth)  ด้วยการทำ Data-Driven Marketing คุณกำลังตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์เชิงบวก คุณจะสามารถสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีและทำให้แบรนด์ของคุณนั้นแข็งแรงและเป็นที่รู้จักในเชิงบวกเป็นวงกว้าง

การทำ Data-Driven Marketing เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ถ้าหากธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณต้องการที่จะเติบโตไปอย่างมั่นคงและเป็นที่รักของลูกค้า ซึ่งจริง ๆ แล้วการเก็บข้อมูลลูกค้าของคุณก็มีหลากหลายวิธีคุณสามารถเลือกวิธีที่เหมาะกับธุรกิจของคุณได้ แต่ถ้าหากคุณมีเครื่องมือที่เหมาะสมในการช่วยเก็บข้อมูลลูกค้า (Customer Data Platform) เช่น แพลตฟอร์ม Martech อย่าง Braze ก็จะยิ่งทำให้คุณทำ Data-Driven ได้ง่าย รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นตามไปด้วย

บทความต่อไปเราจะมาพูดถึงวิธีและขั้นตอนในการเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อสร้าง Data-Driven Marketing ให้กับธุรกิจและแบรนด์ของคุณกัน โปรดติดตามบทความหน้าของผมเร็ว ๆ นี้ครับ

แหล่งอ้างอิง Braze, Dia, RealSmart, StepTraining, Mailchimp

ซอฟต์แวร์เพื่อการตลาด เพิ่มการมีส่วนร่วมระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ของคุณ

บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด – Transform Your Business

ผู้ให้บริการ Braze ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

Line@ : @dmit