Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

รู้จัก Zero-Party Data กลยุทธ์เก็บข้อมูลลูกค้าด้วยความเต็มใจ

เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย!

Zero-Party Data คืออะไร?

Zero-Party Data คือ ข้อมูลที่ลูกค้าหรือผู้ใช้งานจงใจและเต็มใจแบ่งปันให้กับธุรกิจหรือแบรนด์โดยตรง ทาง Forrester ให้คำจำกัดความไว้แบบนี้ ซึ่งในบางกรณีลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากธุรกิจหรือแบรนด์เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนกัน

ข้อมูลเหล่านี้สามารถเก็บได้จากการทำแบบสำรวจต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ การทำแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ หรืออาจเป็นคำตอบจากลูกค้าที่ตอบมาเพื่อเล่นเกมที่ธุรกิจหรือแบรนด์นั้น ๆ จัดขึ้น

ภาพจาก stackadapt

ความสำคัญของ Zero-Party Data

ด้วยความที่ในปัจจุบันมีกฏหมายหรือข้อบังคับมากมายเกี่ยวกับการป้องกันหรือความปลอดภัยของข้อมูล เช่น GDPR, CCPA หรือที่ในบ้านเรารู้จักกันในชื่อ PDPA ข้อบังคับเหล่านี้ทำให้การเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้ามีความยุ่งยากกว่าเมื่อก่อน หรือถ้าคุณต้องการมองหาข้อมูลจากบุคคลที่สามก็ทำให้มีราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย จึงทำให้หลาย ๆ ธุรกิจ เริ่มหันมาทำ Zero-Party Data กันมากยิ่งขึ้น

Zero-Party Data ไม่เพียงแต่จะสร้างความปลอดภัยทางด้านข้อมูลให้กับธุรกิจหรือแบรนด์เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและความภักดีให้กับลูกค้าของคุณอีกด้วย เพราะพวกเขาเชื่อใจได้ว่าข้อมูลเหล่านั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาอนุญาตและเต็มใจที่มอบให้คุณแล้ว เพื่อให้คุณมอบประสบการณ์ที่ Personalized กับพวกเขาได้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิด Conversion หรือการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับลูกค้าไปพร้อม ๆ กันได้อีกด้วย

ประโยชน์ของ Zero-Party Data มีอะไรบ้าง?

1. ประสบการณ์ที่เฉพาะตัวขั้นสูง (Hyper-Personalized Experiences) จากข้อมูล Zero-Party Data แบรนด์สามารถนำข้อมูลมาต่อยอดในการสร้าง Personalized Marketing โดยปรับแต่งคำแนะนำของสินค้า ข้อความทางการตลาด หรือแม้แต่เนื้อหาต่าง ๆ ให้มีความเฉพาะตัวและเหมาะกับลูกค้าแต่ละคน

2. แคมเปญการตลาดที่มีประสิทธิภาพ (Effective Marketing Campaigns) เมื่อคุณทำความรู้จักลูกค้าและมีข้อมูลที่เชิงลึกมากขึ้น ช่วยให้คุณสามารถสร้างแคมเปญการตลาดที่ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลให้มีผลลัพธ์และมี Conversion ที่สูงขึ้นตามไปด้วย

3. การมีส่วนร่วมของลูกค้าที่ดีขึ้น (Improve Customer Engagement) จากผลสำรวจพบว่า หากแคมเปญการตลาดหรือเนื้อหาของคุณมีความเฉพาะตัวและตรงใจกับลูกค้า ทำให้ลูกค้าอยากมีส่วนร่วมหรือแบ่งปันข้อมูลให้กับแบรนด์ของคุณมากขึ้นเช่นกัน

จุดเด่นของ Zero-Party Data คืออะไร?

  • อยู่บนพื้นฐานความยินยอม (Consent Based) ลูกค้าเต็มใจให้ข้อมูลนี้แก่แบรนด์ของคุณ โดยมักจะคาดหวังถึงประสบการณ์ที่ดีขึ้นหรือผลประโยชน์ส่วนบุคคล
  • มีความแม่นยำสูง (Highly Accurate) เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้มาจากแหล่งที่มาและเจ้าของข้อมูลโดยตรง จึงสามารถเชื่อถือได้และไม่จำเป็นต้องคาดเดาถึงความชอบและความต้องการของพวกเขาอีกต่อไป
  • ข้อมูลเชิงลึกมากมาย (Rich in Insights) ข้อมูล Zero-party ช่วยให้แบรนด์ของคุณได้รับข้อมูลอันมีค่าทั้งในเรื่องเกี่ยวกับความสนใจ ความต้องการ แรงจูงใจ และแม้แต่บริบทที่แตกต่างกันของลูกค้า
  • ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น (Stronger Relationship) ด้วยการที่เรารู้จักลูกค้าของเรามากขึ้นว่าเขาชอบอะไรไม่ชอบอะไร เป็นการช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีและเป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างแบรนด์และลูกค้าของคุณ

ตัวอย่างการรวบรวมข้อมูล Zero-Party Data มีอะไรบ้าง?

เนื่องจากการเก็บข้อมูลแบบ Zero-Party Data มีหลากหลายวิธี ดังนั้นการเก็บข้อมูลนั้นไม่ได้มีวิธีที่ชัดเจนมากนัก ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม พฤติกรรม กลุ่มลูกค้าและเป้าหมายที่ธุรกิจหรือแบรนด์นั้น ๆ ต้องการจะนำข้อมูลไปใช้ทำอะไร ดังนั้นจึงเป็นการยกตัวอย่างแค่บางส่วนเท่านั้น

  • ป๊อปอัป (Pop-ups) สร้างป๊อปอัปบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันในการนำเสนอสิ่งจูงใจ เช่น โปรโมชันหรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าอยากกรอกข้อมูลหรือแบบสำรวจแลกกับสิทธิพิเศษที่เขาจะได้รับ
  • แบบทดสอบหรือแบบสำรวจเชิงโต้ตอบ (Interactive Quizzes) สร้างแบบทดสอบหรือแบบสำรวจที่เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงและสามารถเก็บข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าได้ในคราวเดียว
  • คำแนะนำผลิตภัณฑ์เฉพาะบุคคล (Personalized Product Recommendations) การที่เราแนะนำหรือนำเสนอสินค้าไปยังลูกค้าแต่ละคน ทำให้เราสามารถรับรู้ได้ว่าตอนนี้ลูกค้าคนนี้กำลังสนใจหรือไม่สนใจสินค้าหรือบริการใดอยู่ เพื่อให้เราสามารถส่งแคมเปญที่พวกเขาสนใจได้ตรงใจมากยิ่งขึ้น
  • รางวัลโปรแกรมสะสมคะแนน (Loyalty Program Rewards) โปรแกรมการสะสมคะแนนเพื่อแลกสิ่งของหรือสิทธิพิเศษ ช่วยให้เรารู้จักตัวตนหรือความชื่นชอบของลูกค้าคนนั้น ๆ มากยิ่งขึ้น ดูได้จากสิ่งที่ลูกค้าชอบซื้อ สิ่งที่ลูกค้าชอบแลก หรือประวัติการใช้งานต่าง ๆ ก็สามารถเก็บได้เช่นเดียวกัน
  • การโต้ตอบการบริการลูกค้า (Customer Service Interactions) การที่เรามีทีมบริการลูกค้า ทำให้เราสามารถเก็บข้อมูลเชิงลึกได้อีกหนึ่งช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นคำติชมที่ได้รับจากลูกค้า ข้อเสนอหรือสิ่งที่ควรจะแก้ไขและปรับปรุง เพื่อให้แบรนด์หรือธุรกิจของเราสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าได้
  •  

โดยรวมแล้วการเก็บข้อมูลแบบ Zero-Party Data เป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความสัมพันธ์และความภักดีระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ช่วยมอบประสบการณ์ที่เฉพาะตัว (Personalization) และมอบสิทธิพิเศษเพื่อแลกกับข้อมูลของพวกเขา เป็นการเพิ่มยอดขายและเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ในเวลาเดียวกัน

แต่ถ้าหากคุณอ่านมาถึงตรงนี้คงต้องบอกว่า การที่ธุรกิจหรือแบรนด์จะเริ่มทำสิ่งที่เรียกว่า Zero-Party Data นั้น ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะเริ่มง่ายนัก คุณจำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อมูลทั้งในส่วนของธุรกิจและส่วนของเครื่องมือในการเก็บข้อมูลเหล่านั้น  หรือมีอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายกว่านั้น คือ การขอข้อเสนอแนะหรือข้อมูลต่าง ๆ จากผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยตรง

หากคุณต้องการเริ่มต้นหรือสนใจที่จะเก็บข้อมูลแบบ Zero-Party Data แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? สามารถติดต่อ Demeter ICT เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่จะมาให้คำปรึกษาคุณทั้งในเรื่องของเครื่องมืออย่าง Braze ที่จะช่วยให้คุณสามารถสร้าง Zero-Party Data ที่แท้จริงได้

หรือถ้าคุณกำลังสงสัยว่าข้อมูลแต่ละประเภทอย่าง Zero-Party Data, First-Party Data, Second-Party Data และ Third-Party Data แตกต่างกันอย่างไร? คลิกด้านล่างเพื่ออ่านบทความได้เลย

แหล่งอ้างอิง: TheFinancialBrand, Bloomreach, Braze, Forrester

ซอฟต์แวร์เพื่อการตลาด เพิ่มการมีส่วนร่วมระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ของคุณ

บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด – Your Business Transformation Partner

ผู้ให้บริการ Braze ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

Line@ : @dmit