Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

Google Meet: มัดรวมฟีเจอร์เด่นๆ เน้นเพิ่มประสิทธิภาพให้ทุกการประชุม Vol.1

อัปเดต Google Meet รอบนี้ขอยกทัพฟีเจอร์เด่นๆที่น่าสนใจ ตั้งแต่ช่วงปีหลัง 2023 – ปัจจุบัน มาดูซิว่าฟีเจอร์ไหนที่คุณยังไม่เคยลองเล่นบ้าง ขอบอกว่าอัปเดตที่ผ่านมา Google Meet ก็ได้นำเทคโนโลยี AI มากมายเข้ามาช่วยพัฒนาคุณภาพการประชุมให้ราบรื่นและดียิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย… 1. ฟีเจอร์ Raise your hand ยกมือผ่านกล้องได้เลย ก่อนหน้านี้ Google Meet ไ้ด้มีฟีเจอร์ Raise your hand มาให้ผู้เข้าร่วมการประชุมสามารถยกมือถามเพิ่มเติมระหว่างการประชุมด้วยการคลิกที่ปุ่มไอคอนรูปมือ (Rise your hand) เพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์ไปยังผู้พูดและผู้เข้าร่วมอื่นๆ  แต่ตอนนี้เราสามารถใช้ฟีเจอร์ Raise your hand ได้ด้วยการโบกมือจริงๆผ่านกล้องได้แล้ว หากต้องการนำมือลงก็ให้คลิกที่ปุ่มไอคอน Rise your hand ซึ่งข้อดีก็คือช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้มีส่วนร่วมมากขึ้นและสัมผัสได้เหมือนว่าอยู่ในห้องประชุมจริงๆ  วิธีเปิดการใช้งานฟีเจอร์ 1. ไปที่ Google Meet 2. ไปที่ More options > Setting > General 3. ที่ Raise your hand automatically ให้คลิก เปิดใช้งาน หมายเหตุ : ฟีเจอร์นี้ใช้ได้เฉพาะผู้ใช้งานแพ็กเกจ Google Workspace Business Plus, Business Standard, Enterprise Essentials, Enterprise Plus, Enterprise Standard , Enterprise Starter, Education Plus, Teaching and Learning Upgrade และ Google Workspace Individual เท่านั้น  2. คอลแบบ 1:1 ผ่านแอป Meet บนมือถือ...

Continue reading

รวมฟีเจอร์ Google Workspace อัปเดตปี 2023 – 2024

ในแต่ละปี Google Workspace ก็จะมีการพัฒนาและปล่อยฟีเจอร์ใหม่ ๆ ออกมาให้เราได้ใช้งานและตื่นตาตื่นใจกันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งปีที่ผ่านมาก็เรียกได้ว่าน่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียว เพราะมีการอัปเดตฟีเจอร์หลายตัวและแต่ละฟีเจอร์ก็ตอบโจทย์ต่อการใช้งานได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นทาง Demeter ICT จึงได้รวบรวมบทความอัปเดตฟีเจอร์ของเราตั้งแต่ปี 2023 ตลอดจนถึงช่วงต้นปี 2024 นี้เลย มาดูกันว่ามีฟีเจอร์อะไรบ้าง !  Duet AI Duet AI เป็นผลิตภัณฑ์ที่กำลังเป็นที่จับตามองมากที่สุดในขณะนี้ เพราะ Duet AI นั้นใช้เทคโนโลยี  Generative AI ที่จะสามารถช่วงสร้างสรรค์ผลงานและช่วยจัดการงานต่าง ๆ ในองค์กรได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหากคุณใช้ Google Workspace อยู่แล้ว การใช้ Duet AI เข้ามาช่วยในการทำงานก็ยิ่งส่งผลดีและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น คุณสามารถทำความรู้จัก Duet AI เบื้องต้นได้ที่บทความของเราด้านล่างนี้ Gmail ฟีเจอร์นัดหมายใน Gmail วิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจและสะดวกมาก ๆ เพราะคุณสามารถนัดหมายผ่าน Gmail ได้เลยทันที ไม่ต้องคอยนัดหมายผ่าน Google Calendar หรือ Google Meet แล้วส่งอีเมลแยกอีกต่อไป หากต้องการนัดหมายก็เพียงแค่ทำตามขั้นตอนนี้ได้เลย ! ฟีเจอร์ส่งอีเมลถึงผู้รับหลายคนแบบระบุชื่อรายคน แน่นอนว่าคุณอาจจะกำลังใช้ Dear Customer หรือ Dear AII อยู่ เพราะหากจะให้ระบุชื่อรายคน คุณได้พิมพ์จนนิ้วล็อคแน่ ๆ ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องพิมพ์ระบุชื่อรายคนด้วยตัวเอง เพียงแค่ใช้ @ ใน Gmail เท่านั้น ประหยัดเวลามาก ๆ Google Drive ฟีเจอร์สแกนเอกสารด้วยโทรศัพท์ ไม่นานมานี้หลาย ๆ คนก็คงมีการทำงานผ่านโทรศัพท์กันอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะการอัปโหลดไฟล์ที่อยู่ในโทรศัพท์ ซึ่งตอนนี้คุณสามารถสแกนเอกสารและบันทึกลงใน Google Drive ได้เลยทันที ไม่ต้องคอยหาแอปสแกนหรือถ่ายรูปลงอย่างเดิมอีกต่อไปแล้ว ลดขั้นตอนการทำงานได้อย่างรวดเร็ว Google Chat Google...

Continue reading

ส่องกรณีศึกษาจาก TaylorMade กับการยกระดับ IT Support ด้วย Freshservice

หากใครเคยเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าโดยเฉพาะโซนอุปกรณ์กีฬา เชื่อว่าคงจะคุ้นหูคุ้นตากับแบรนด์ TaylorMade อยู่ไม่น้อย ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะ TaylorMade เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ผลิตอุปกรณ์กีฬาที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว เมื่อถึงจุดหนึ่งที่กระบวนการทำงานภายในองค์กรล้าสมัยและถึงคราวต้องปรับเปลี่ยน TaylorMade ก็ได้ยกระดับการจัดการบริการด้านไอที นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่สามารถลดระยะเวลาการตอบกลับได้ถึงครึ่งหนึ่ง แม้ปริมาณการสอบถามจะเพิ่มขึ้นถึง 250% เลยก็ตาม TaylorMade ทำได้อย่างไร? เบื้องหลังของตัวเลขนี้มีความเป็นมาอย่างไรกันนะ? ในบทความนี้ Demeter ICT จะเล่าให้คุณฟัง ใช้ระบบออโตเมชันเข้าช่วยในงานที่จำเจ “พันธกิจของแผนกไอทีเราคือต้องลด Downtime ให้น้อย และเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงที่สุด ระบบอัตโนมัติเป็นปัจจัยสำคัญเลยที่ทำให้เราเลือก Freshservice ฟีเจอร์และโมดูลของ Freshservice ทำให้เราเริ่มต้นใช้งานได้รวดเร็ว สำหรับเราที่จะบรรลุเป้าหมาย เราต้องมี Workflow และกระบวนการมหาศาลสำหรับเจ้าหน้าที่ 100 คนของเรา” – Ali Chitsaz, Senior Manager of Client Experience กล่าว ตัวอย่างฟีเจอร์เด่นของ Freshservice ที่ TaylorMade ใช้งาน Workflow Automation : ระบบสำหรับสื่อสารอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุร้ายแรง ทั้งพิกัดของผู้ร้องขอ (Requester) ผู้อนุมัติ และอื่น ๆ และยังสามารถแท็ก Back-end ทำให้การค้นหาบทความที่เหมาะสมเป็นเรื่องง่าย ซึ่ง TaylorMade ก็ได้ใช้งานระบบอัตโนมัติอย่าง Workflow สำหรับรีเซ็ตพาสเวิร์ดและใช้งาน Workflow ในการส่งต่อเรื่องไปยังบุคคลที่สาม Project Module : TaylorMade นำกระบวนการทางไอทีทั้งหมดรวมอยู่ในที่เดียว ทำให้เห็นภาพรวมโปรเจกต์ได้ชัดเจนขึ้น เจ้าหน้าที่สามารถใส่รายละเอียดเพิ่มเติม เปลี่ยนสถานะ ลำดับความสำคัญ และแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบทำให้โปรเจคมีการอัปเดตล่าสุดตลอดเวลา Asset Management : โมดูลนี้ของ Freshservice ช่วยให้ TaylorMade สามารถติดตามและบริหารจัดการทรัพย์สินทางไอที เจ้าหน้าที่สามารถจัดการกับ Ticket ที่เพิ่มขึ้นได้โดยไม่ต้องเสียเวลาค้นหาวิธีแก้ไข ผู้ที่สอบถามเองก็สามารถเข้าถึงบทความโซลูชันสำหรับผู้ใช้งานกว่า 50 บทความได้อย่างรวดเร็ว Analytics & Reporting : สำหรับ...

Continue reading

Asana คืออะไร? รู้จัก Asana ซอฟต์แวร์ด้านการทำ Project Management ที่ดีที่สุด

เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! Asana คืออะไร? Asana คือ ซอฟต์แวร์เพื่อการบริหารจัดการโปรเจกต์ (Project Management Software) ที่สร้างขึ้นเพื่อให้บุคคล ทีม แผนก หรือองค์กรสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เช่น การจัดระเบียบทีมหรือฝ่ายที่เกี่ยวข้อง การติดตามการทำงาน โปรเจกต์ และเป้าหมายให้สำเร็จตามแผนที่วางไว้ ทั้งนี้ Asana ยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูงเหมาะกับการทำงานในปัจจุบัน ทั้งการตั้งค่ามุมมองของหน้าจอการทำงานให้เหมาะสมกับตัวเองได้ การเชื่อมต่อเข้ากับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่องค์กรใช้งานอยู่ การสร้างรีพอร์ทเพื่อให้เห็นภาพรวมของโปรเจกต์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของการทำงานและทีมที่ตรงจุด รวมถึงการใช้งานบนมือถือที่เป็นแอปพลิเคชันและรองรับทั้ง iOS และ Android สามารถติดตามโปรเจกต์ได้แม้กระทั่งตอนเดินทาง ฟีเจอร์ของ Asana มีอะไรบ้าง? จัดระเบียบงาน (Organize work) : สร้าง Tasks งานหรือโปรเจกต์ พร้อมกระจายงานที่สามารถจัดการได้และมอบหมายงานให้กับสมาชิกในทีมที่เกี่ยวข้อง ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ (Collaborate effectively) : สามารถสื่อสารกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แชร์ไฟล์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความคืบหน้าของงาน ภายใน Asana ได้ทั้งหมด ติดตามความคืบหน้า (Track progress) : ติดตามดูสถานะของงานและโปรเจกต์ทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย กำหนดเวลาของโปรเจกต์ (Project deadlines) : กำหนดเวลาสำหรับงานและโปรเจกต์ และมีการส่งแจ้งเตือนเมื่อเวลานั้นใกล้เข้ามา จัดลำดับความสำคัญของงาน (Prioritize work) : ใช้ฟีเจอร์ที่ช่วยจัดลำดับความสำคัญและวันครบกำหนดเพื่อให้แน่ใจว่างานไหนสำคัญที่สุดและต้องทำให้เสร็จก่อน กำหนดเป้าหมาย (Set goals) : ติดตามความคืบหน้าของงาน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายหลักของบริษัท และดูว่างานแต่ละอย่างมีส่วนช่วยให้ภาพรวมของบริษัทโตขึ้นได้อย่างไร การเชื่อมต่ออย่างอิสระ (Integrations) : เชื่อมต่อ Asana กับเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่คุณใช้อยู่แล้ว เช่น Slack, Google Drive, Dropbox และอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย ประโยชน์ของการใช้ Asana คืออะไร? 1.ช่วยจัดระเบียบและเพิ่มความชัดเจนให้กับองค์กร (Improved organization and clarity) ศูนย์กลางของข้อมูล: ช่วยกำจัดข้อมูลที่กระจัดกระจายทั้งในอีเมล...

Continue reading

Duet AI จะช่วยให้การทำงานในองค์กรดีขึ้นได้อย่างไร

สำหรับองค์กรที่เปลี่ยนมาใช้งาน Google Workspace คงได้สัมผัสถึงสไตล์การทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ด้วยประโยชน์ของเครื่องมือชุดแอปพลิเคชันต่างๆที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกันในองค์กรให้ง่ายและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงพื้นที่จัดเก็บไฟล์และการแชร์ไฟล์ร่วมกันได้อย่างเรียลไทม์ เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตก็สามารถเข้าถึงการทำงานได้ทุกที่และทุกเวลา รวมถึงระบบ Privacy ที่ช่วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ณ ขณะนี้ Google Workspace ได้นำเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง Generative AI เข้ามาเพิ่มความสามารถให้กับการทำงานไปได้อีกขั้น ในชื่อ ”Duet AI with Workspace” ที่จะช่วยต่อยอดผลงานด้วยไอเดียอัจฉริยะ เพียงแค่คุณบอกความต้องการผ่านฟีเจอร์ “Help me …” จากนั้น AI ก็จะสร้างไอเดียใหม่ๆให้คุณได้เลือกสรรได้อย่างนับอนันต์ Duet AI จะช่วยให้การทำงานดีขึ้นได้อย่างไร? บทความนี้อ้างอิงข้อมูลจากคุณ Michael Brenzel- Chief Workspace Evangelist, Google Workspace ที่ได้ให้การสัมภาษณ์ไว้ในบทความ “Can AI help us play nice at work?” ในฐานะที่เขาดำรงตำแหน่งในหน้าที่เป็นผู้เผยแพร่นวัตกรรมองค์กร เขามักจะได้พบปะพูดคุยกับลูกค้าเสมอๆ โดยหนึ่งในคำถามที่ลูกค้าให้ความสนใจมากที่สุดเกี่ยวกับ Duet AI นั่นก็คือ Duet AI จะช่วยให้การทำงานของเขาดีขึ้นได้อย่างไร? โดยคุณ Michael ได้ให้คำตอบพร้อมด้วยการยกตัวอย่างเคสเพื่อให้เห็นภาพที่เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น ดังนี้ ณ บริษัทที่ให้บริการสร้างแอปพลิเคชันแห่งหนึ่ง ได้มีโปรเจกต์สร้างแอปพลิเคชันให้กับลูกค้า แต่ด้วยทีมงานที่ร่วมโปรเจกต์นี้ได้กระจายกันอยู่ในหลายประเทศ ทำให้เกิดข้อจำกัดในการทำงานร่วมกัน เนื่องด้วยภาษาและช่วงเวลาการทำงานที่แตกต่างกัน หัวหน้าทีมจึงได้นำ Duet AI เข้ามาช่วยลดปัญหาเหล่านั้น ซึ่งผลก็คือทำให้การทำงานของทีมดีขึ้น ดังนี้ Duet AI ช่วยทลายข้อจำกัดในการทำงาน หัวหน้าทีมเริ่มต้นโปรเจกต์ด้วยการใช้ Duet AI ผ่านฟีเจอร์ “Help me write” บน Google Docs เพื่อช่วยร่างแผนงาน กำหนดเป้าหมาย แบ่งหน้าที่ รวมถึงวิเคราะห์ถึงความเสี่ยงต่างๆ จากนั้นสมาชิกในทีมก็ได้เข้ามาแก้ไขและเพิ่มเติมข้อมูลร่วมกันโดยการใช้ @mentions (ฟีเจอร์ smartchips) ร่วมด้วย ทุกครั้งที่ต้องมีการประชุมออนไลน์...

Continue reading

ซื้อ Google Workspace ก็สามารถลดหย่อนภาษีกับโครงการ Easy E-Receipt 2567 ได้นะ !

ข่าวดีสำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังวางแผนซื้อบริการ Google Workspace รีบคว้าโอกาสนี้ไว้ ! เพราะนี่เป็นเวลาเดียวที่คุณจะได้ลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 50,000 บาท ! Demeter ICT ได้เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt 2567 มาตรการที่จะช่วยให้คุณสามารถรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ของเรา ไม่ว่าจะเป็น Google Workspace, AppSheet, Duet AI, Zendesk, Braze, Asana, Freshservice, คอร์สอบรมการใช้งาน  Google Workspace & AppSheet และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ (ดูเพิ่มเติม คลิก) เพียงแค่คุณซื้อบริการในนามผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ก็สามารถใช้ใบกำกับภาษีลดหย่อนกับโครงการ Easy E-Receipt สำหรับปี 2567 เพื่อยื่นในช่วงต้นปี 2568 นี้ได้เลย ซึ่งสำหรับผู้ที่สนใจใช้บริการ Google Workspace (ผู้ใช้ใหม่) ก็ยิ่งคุ้ม ! เพราะช้อปกับ Demeter ICT รับสิทธิพิเศษสุดคุ้มถึง 3 ต่อ ! ต่อที่ 1 License ราคาพิเศษ สำหรับผู้ใช้งานใหม่ ลดได้สูงสุดถึง 20 บัญชี เริ่มต้นเพียง 113.50 บาท /ผู้ใช้งาน/เดือน เท่านั้น  คลิกเพื่อดูแพ็กเกจและราคา ต่อที่ 2 รับฟรี AppSheet core ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ต่อที่ 3 สิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท ตามที่จ่ายจริง ใช้ใบกำกับภาษีแบบ E-Tax Invoice/ E-Receipt จาก Demeter ICT เงื่อนไขการรับสิทธิ์โครงการ Easy E-Receipt ต้องซื้อบริการในนามของผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเท่านั้น นอกเหนือจากนี้จะไม่สามารถลดหย่อนภาษีในโครงการนี้ได้ ต้องซื้อบริการและชำระในระหว่างวันที่ 1...

Continue reading

สรุป 10 Marketing Trends in 2024 จาก Forbes

โลกการตลาดกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุก ๆ ปี ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น และอื่น ๆ  อีกมากมาย ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อแนวทางการทำการตลาดทั้งสิ้น ซึ่งในปี 2024 นี้ ทาง Forbes ได้รวบรวม Marketing Trends ใหม่ ๆ รวมถึงเทรนด์ที่ยังคงได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน ๆ ในการช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจของคุณ และเป็นกลยุทธ์ที่นำไปใช้ได้จริงสำหรับธุรกิจ เพื่อรักษาความสามารถทางการแข่งขันในปี 2024 นี้ได้ จะมีอะไรบ้าง? ไปดูกัน! เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! 1. AI Marketing Automation การผสานเอา AI มาปรับเข้ากับการตลาดหรือที่เรียกว่า AI Marketing จะช่วยยกระดับวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล ปรับแต่งประสบการณ์ของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญการตลาดต่าง ๆ ของบริษัท ตัวอย่างเช่น แชทบอทรับส่งข้อความที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการโต้ตอบกับลูกค้าด้วยการมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัว (Personalization) ซึ่งช่วยสร้างการเชื่อมต่อกับลูกค้าที่แท้จริงมากขึ้น เท่ากับว่านักการตลาดในปี 2024 จะต้องมีทักษะด้าน AI Management ต้องเป็น AI Manager หรือ AI Director ทำหน้าที่บริหารจัดการ AI ในฐานะเป็นหัวหน้าของ AI เพื่อจัดการกระบวนการทำงานระหว่างมนุษย์กับ AI ให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด 2. Augmented Reality (AR) & Virtual Reality (VR) เทคโนโลยีสมจริงอย่าง AR และ VR ช่วยให้การเล่าเรื่องแบรนด์สมจริงมากยิ่งขึ้น และเพิ่มช่องทางการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค ในปี 2024 นี้ คาดหวังว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะประสานเข้ากับความพยายามทางการตลาดเชิงกลยุทธ์ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ร้านค้าแนวเทคโนโลยีสามารถยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าได้ และเพิ่มมูลค่าให้แก่แบรนด์ของพวกเขาได้โดยการเสนอประสบการณ์การลองใช้งานสินค้าแบบเสมือนจริงแก่ลูกค้า 3. Hyper-Personalization ด้วยความก้าวหน้าของ AI และการเรียนรู้ความสามารถของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ส่งผลให้นักการตลาดสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าจำนวนมากได้ และสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุงประสบการณ์และปรับแต่งเนื้อหาคอนเทนต์ แคมเปญการตลาด และออกแบบข้อเสนอให้กับลูกค้าได้ตรงใจมากยิ่งขึ้น เช่น มีลูกค้าชื่อว่า...

Continue reading

5 เทรนด์แห่งการทำงาน มาแรงปี 2024 ยืนยันแล้วจาก Forbes !

จากอดีตสู่ปัจจุบันโลกของเราก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย แนวความคิดที่ว่าต้องเดินทางไปทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น หรือการคิดว่างานคือทุกอย่างของชีวิต วันนี้คงถึงเวลาแล้วที่ท่านจะต้องทิ้งสิ่งเหล่านี้ไว้แค่เพียงในอดีตนับจากนี้เป็นต้นไป… ในปี 2024 เทรนด์การทำงานต่าง ๆ จะมีการพัฒนาในรูปแบบใหม่ จะเกิดการปรับเปลี่ยนแนวคิดอย่างมากมาย กระทบไปถึงการใช้ชีวิตและพฤติกรรมการทำงานของคนทั่วไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นผลมาจากการที่เทคโนโลยี AI เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นและจะทวีคูณไปอีกหลายเท่าตัวในอนาคต ซึ่งการมาของ AI นี้เองไม่เพียงแต่กระทบวิถีการทำงาน แต่ยังทำให้เกิด Business Transformation ที่ส่งผลต่อธุรกิจทุกภาคส่วน ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจที่อยู่นอกอุตสาหกรรม High-tech ก็ต้องปรับตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเทรนด์ที่ Demeter ICT ได้คัดเลือกมาจาก Forbes และจะมาบอกเล่าให้ทุกท่านในวันนี้ จะมุ่งเน้นไปที่เทรนด์ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและกระทบต่อการทำงานของท่านในแต่ละวัน ซึ่งเจ้าของธุรกิจและเจ้าหน้าที่ระดับบริหารสามารถศึกษาเทรนด์เหล่านี้เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2024 นี้ได้ 5 เทรนด์การทำงาน ปี 2024 1. Generative AI นี่ถือว่าเป็นหัวข้อที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะตั้งแต่เทคโนโลยี AI เริ่มเข้ามาผู้คนก็ต่างพูดถึงเรื่องความกังวลที่ AI จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ ซึ่งในปี 2024 ความคิดนี้จะต้องถูกเปลี่ยนแปลงสู่แนวคิดที่ว่า “ใครใช้ AI ไม่เป็น คนนั้นจะถูกแทนที่ไปโดยปริยาย” ณ ปัจจุบัน AI นั้นถูกดัดแปลงให้มาเป็นเครื่องมือช่วยซัพพอร์ตการทำงานของมนุษย์ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถช่วยงานต่าง ๆ ของมนุษย์ได้เกือบทั้งหมดเลยก็ว่าได้ แต่ทว่ามนุษย์ก็จำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อจำกัดและประโยชน์ของการนำ AI มาใช้ให้เหมาะสมกับงานของตนเองด้วย ซึ่ง AI ของแต่ละแพลตฟอร์มนั้นก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น Duet AI ของ Google Workspace ที่มีความสามารถในการช่วยสร้างสรรค์ผลงานใน Gmail, Docs, Slides, Meet, Sheets หากท่านใช้ Google Workspace อยู่แล้ว การใช้งาน AI จาก Google ก็ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมอย่างมาก หากต้องการศึกษารายละเอียดของ Duet AI คลิกที่นี่ 2. Employee Experience...

Continue reading

เทียบชัด Google Workspace VS Zimbra ใครจะเป็นที่หนึ่งในวงการ Collaboration Platform! รีวิวจริงจาก Gartner

หากจะพูดถึงการทำงานแบบ Collaboration ก็คงนึกถึงแพลตฟอร์มอื่นไปไม่ได้เลย นอกจาก Google Workspace และ Zimbra เมื่อไม่นานมานี้ทาง Zimbra ได้ประกาศ End of Life Free version หรือที่เราเรียกกันว่า Zimbra Open source ซึ่งข่าวการยกเลิกนี้ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากจำเป็นต้องอัปเกรดหรือมองหาแพลตฟอร์มเพื่อการทำงานจากค่ายอื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉะนั้นเพื่อเป็นทางเลือกให้กับคุณที่อาจจะกำลังใช้งาน Zimbra และจะถูกยกเลิกการใช้งานฟรีในวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2023 นี้ เราจึงได้จัดทำบทความเปรียบเทียบ Zimbra กับ Google Workspace ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุนเรื่องการทำงานร่วมกันแบบออนไลน์เช่นเดียวกัน เปรียบเทียบในแง่ของแอปพลิเคชันต่าง ๆ และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น เพื่อให้คุณได้หาโซลูชันที่เหมาะสมและคุ้มค่าให้กับองค์กรของคุณได้มากที่สุด  อีกทั้ง Demeter ICT ยังได้นำรีวิวจากองค์กรผู้ใช้จริงและ rating บางส่วนจาก Gartner มาเผยแพร่ให้คุณได้เห็นภาพรวมกันของการใช้งานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เปรียบเทียบ Google Workspace และ Zimbra เจ้าของผลิตภัณฑ์ (บริษัทแม่) Google Synacor แอปพลิเคชันที่ได้รับ (อ้างอิงจากแพ็กเกจเริ่มต้น) Gmail Drive Docs Slides Sheets Forms Calendar Meet Site Chat Email Calendar Briefcase (งานเอกสารและการจัดการ Drive) Office (งานตารางและงานนำเสนอ) Chat and Video หมายเหตุ: อ้างอิงหมวดหมู่แอปพลิเคชันตามหน้า Official Website ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2023 พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ / บัญชี 30 GB 3 GB ราคาเริ่มต้น / บัญชี / เดือน...

Continue reading