Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
young generation with google workspace

เปิดตำราศึกษา Lifestyle คนรุ่นใหม่ทำไมถึงนิยมใช้และคุ้นชินกับ Google Workspace ในการทำงาน ?

2022 ยุคดิจิทัล หรือ ยุคแห่งโลกออนไลน์ ขับเคลื่อนให้คนรุ่นใหม่ต้องการทำงานกับองค์กรที่ทันสมัยและทำงานอย่างชาญฉลาด Google Workspace ซอฟต์แวร์เพื่อการทำงานแบบออนไลน์จึงเป็นใบเบิกทางที่ดีให้กับองค์กรที่ต้องการร่วมงานกับคนรุ่นใหม่ เพราะ Google Workspace สนับสนุนให้ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันแบบออนไลน์ได้ มีแอปพลิเคชันและฟีเจอร์ที่หลากหลาย เหมาะกับ Lifestyle คนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน ดังนั้นวันนี้ Demeter ICT จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Lifestyle ของคนรุ่นใหม่ที่ทำให้ Google Workspace เป็นทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์การทำงานได้อย่างครบสมบูรณ์ 1. คนไทยส่วนใหญ่ใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียมากกว่า 78% (อ้างอิงจากปี 2021) การใช้เวลาส่วนมากบนโซเชียลมีเดียมีส่วนทำให้พฤติกรรมของผู้คนเริ่มเปลี่ยนไปโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยี ชอบทำกิจกรรมต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ Shopping ออนไลน์ เรียนออนไลน์ รวมถึงการทำงานบนซอฟต์แวร์ออนไลน์ด้วยเช่นกัน ซึ่งในขณะที่ทุก ๆ อย่างกำลังก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์นั้น Google Workspace ก็ได้เริ่มพัฒนาและได้มีการนำมาปรับใช้ในหมู่นักเรียน นักศึกษา และองค์กรหลายแห่ง ในที่สุดก็ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายจนเป็นที่นิยมนั่นเอง ที่มา: เปิดสถิติ! คนไทยใช้ ‘โซเชียลมีเดีย’ อันดับ 1 ของโลก 2. ชอบความง่ายและความรวดเร็ว เมื่อเทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาท ความรวดเร็วจึงถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึง หากในองค์กรของคุณมีระบบการทำงานที่ช้าและซับซ้อนจะทำให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรมีการบริหารงานที่ล้าสมัยและอาจส่งผลให้หมดแรงกระตุ้นในการทำงานได้ ด้วยการดีไซน์ที่เรียบง่ายและฟีเจอร์ที่ใช้งานไม่ยาก Google Workspace จึงเป็นทางเลือกที่คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เลือกใช้ 3. ต้องการความยืดหยุ่นเพื่อตอบโจทย์ Work Life Balance ในปัจจุบันผู้คนหันมาสนใจเรื่องของ Quality หรือ คุณภาพชีวิตกันมากขึ้น หนึ่งในโซลูชันนี้ คือ การทำงานแบบ Remote working สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงเพื่อเข้าออฟฟิศทุกวัน และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ไปกับการเดินทาง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถสร้าง Work Life Balance ได้ดีเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ทีมนักพัฒนา Google Workspace จึงทำให้ซอฟต์แวร์มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ว่าจะ Remote working หรือ Hybrid working ก็สามารถทำงานได้สะดวก เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตก็เริ่มทำงานได้เลยทันที 4. Smartphone...

Continue reading

ถอดกลยุทธ์ของ TRUE Corp เบื้องหลังความสำเร็จด้านการบริการที่ “ไร้ขีดจำกัด” ในช่องทางออนไลน์

“TRUE เองเวลาเราจะทำอะไรทีหนึ่ง เราจะมีความเร่งด่วนตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราต้องหาอะไรที่ค่อนข้างพร้อมใช้ Zendesk เลยกลายเป็นตัวเลือกแทบจะเป็นอันดับหนึ่งเลยที่มาถึงปุ๊บ ปลั๊คได้เลย ใช้ได้เลย” ณิชารีย์ ชินวงศ์ Associate Director แผนก E-commerce & Retail Business – บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) https://www.youtube.com/watch?v=Q95E9lTfaNw หากเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าสักแห่งในประเทศไทย ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเจอร้านค้าดีไซน์ทันสมัย ติดป้ายแถบสีแดงตัวอักษรสีขาวเป็นคำว่า “TRUE” อยู่ด้านบน TRUE Corporation หรือกลุ่มทรู เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 32 ปีแล้ว TRUE ได้มุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง จนเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเครือข่ายที่ดีที่สุดในไทย การันตีความสำเร็จด้วยผลรางวัลทั้งด้านความเป็นเลิศทางธุรกิจ ด้านแบรนด์และการตลาด กิจกรรมเพื่อสังคมและนวัตกรรมจำนวนมาก หากมองในแง่ที่ว่า TRUE นั้นมีสาขาเปิดให้บริการกว่า 700 แห่งทั่วประเทศ ภาพจำของ TRUE ในความคิดของใครหลายคนคงจะเป็นร้านค้าของ TRUE ที่อยู่ตามห้างสรรพสินค้า ทว่าการเติบโตของ TRUE ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่เพียงแค่นั้น เพราะในช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ นับจากเกิดเหตุโรคระบาดโควิด-19 TRUE ก็ได้เปลี่ยนมาพัฒนาช่องทางออนไลน์สำหรับรองรับลูกค้าเป็นช่องทางหลักแทน TRUE Shop ที่ต้องปิดตัวลงชั่วคราว ถึงอย่างนั้นช่องทางออนไลน์ของ TRUE ก็ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลและยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ  TRUE ทำได้อย่างไร? กุญแจความสำเร็จด้านอีคอมเมิร์ซของ TRUE คืออะไรกันนะ? Demeter ICT ได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์คุณณิชารีย์ Associate Director แผนก E-commerce & Retail Business ของ TRUE ที่ TRUE Digital Park ในบทความนี้จะขอมาสรุปให้ทุกคนได้อ่านกัน จุดเปลี่ยนด้านโซลูชันครั้งใหญ่ของ TRUE “ตอนแรกก็ต้องบอกว่าพอเป็นช่วงโควิด เราล็อคดาวน์ปิดกันทุกที่เลย เพราะฉะนั้น Shop TRUE...

Continue reading

Braze คืออะไร? ทำความรู้จักกับ Braze แพลตฟอร์มเพื่อการตลาดสำหรับธุรกิจ B2C

Demeter ICT จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับ Braze – MarTech Solutions ระดับโลกที่แบรนด์ดังมากมายไว้วางใจใช้บริการ โดยวันนี้ Demeter ICT จะมาแนะนำ Braze ให้กับทุกท่านได้รู้จักกันอย่างละเอียดในหลาย ๆ มุมมอง เริ่มกันที่ Braze คืออะไร? Braze คือ แพลตฟอร์มสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ (Customer Engagement Platform) บนเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และมือถือ ช่วยส่งเสริมด้านการตลาดแบบหลายช่องทาง (Multichannel Marketing) เป็นหนึ่งในโซลูชัน Marketing Technology หรือที่เรียกกันว่า Martech Braze ช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ และกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการโต้ตอบกับแบรนด์ ซึ่งนำไปสู่การเติบโตของรายได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน พร้อมฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือทีมการตลาดโดยเฉพาะ เช่น ฐานเก็บข้อมูล (Customer Database), AI สำหรับแบ่ง Segmentation ของลูกค้า, Canvas Flow สร้างการตลาดแบบ Cross-channel และเครื่องมือ Marketing Automation อีกมากมาย ฟีเจอร์ของ Braze มีอะไรบ้าง? 1. ส่งแคมเปญการตลาดเชิงรุกเพื่อดึงดูดลูกค้าหาแบรนด์ของคุณ (Proactive Contents) สร้าง Call to Actions และ Engagement ให้กับลูกค้าบนแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ด้วยการตลาดเชิงรุกแบบ Real-time เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายให้กับธุรกิจของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา Mobile & Web Push Notifications – ส่งแคมเปญเพื่อสร้าง CTA (Call to Action) ดึงดูดลูกค้าให้กลับมาใช้บริการหรือซื้อสินค้าของเราอีกครั้ง ด้วยการแจ้งเตือนบนมือถือหรือเว็บไซต์ In-App & In-Browser Messages – ดึงดูดความสนใจของลูกค้าด้วยการสร้างข้อความที่ลูกค้าสามารถตอบโต้หรือกระทำบางอย่างได้บนแอปหรือบนเว็บไซต์ของคุณ Content Cards – ฝังแคมเปญการตลาดหรือเนื้อหาต่าง ๆ บนแอปหรือเว็บไซต์ของคุณโดยไม่รบกวนประสบการณ์ของลูกค้า เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสร้างโอกาสทางการตลาดหรือสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้า Email Marketing Automation – สร้างอีเมลที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ชมที่เน้นอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลักตลอดวงจรชีวิตของลูกค้า SMS – โปรโมตสินค้าของคุณและส่งการแจ้งเตือนขั้นตอนกำดำเนินงานหรือการทำธุรกรรมด้วยข้อความ SMS 2. สร้างแคมเปญการตลาดแบบ Cross...

Continue reading

3 ขั้นตอนกู้คืนเอกสารได้ง่าย ๆ ด้วย Google Drive

การเผลอลบไฟล์เป็นสิ่งที่หลาย ๆ ท่านคงจะไม่อยากให้เกิดขึ้นอยู่เป็นแน่ แต่สำหรับผู้ใช้งาน Google Workspace ท่านคงทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นการทำงานบนคลาวด์ ดังนั้นท่านจึงไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะทุกไฟล์ของท่านจะไม่หายไปไหนถึงแม้ว่าท่านจะเผลอลบไปแล้วก็ตาม  แล้วถ้าเผลอไปกดลบ ไฟล์งานที่ถูกลบจะไปอยู่ที่ไหน? อยากกู้คืนกลับมาต้องทำอย่างไร? แล้วต้องกู้คืนภายในกี่วัน? บทความนี้ Demeter ICT มีคำตอบ ไปดูกัน! 3 ขั้นตอนกู้คืนไฟล์ด้วย Google Drive เปิด Google Drive  ไปที่ ถังขยะ (Trash)  คลิกขวาที่ไฟล์นั้น แล้วกดเลือกกู้คืนหรือ Restore เพียงแค่นี้คุณก็สามารถกู้คืนไฟล์ได้แล้ว ง่ายมาก ๆ ซึ่งไฟล์ที่คุณกู้คืนมานั้นจะกลับไปอยู่ที่แอปพลิเคชันเดิม เช่น คุณลบรายชื่อลูกค้าที่อยู่ใน Google Sheets เมื่อกู้คืนกลับ ไฟล์ก็จะเข้าไปอยู่ใน Google Sheets ตามเดิม แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะสามารถกู้คืนไฟล์เมื่อไหร่ก็ได้นะ! เพราะถึงแม้ว่าไฟล์จะถูกเก็บไว้บนคลาวด์ก็จริง แต่ Google Drive ก็มีเงื่อนไขว่า คุณจะสามารถกู้คืนไฟล์ได้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ไฟล์ถูกลบเท่านั้น หลังจากนั้นไฟล์จะถูกลบไปอย่างถาวร ทั้งนี้ก็เพื่อให้ Drive ของคุณมีพื้นที่ว่างเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง หากคุณเป็นเจ้าของไฟล์ ลบไฟล์ไปแล้วคนอื่นจะยังเห็นไฟล์นั้นอยู่หรือไม่? หากคุณเป็นคนสร้างไฟล์นั้น (Owner) แล้วลบออก ทีมของคุณจะยังเห็นไฟล์นั้นอยู่ แต่จะไม่สามารถทำงานบนไฟล์นั้นได้ ดังนั้นหากคุณต้องการใช้ไฟล์นั้นต่อ ให้คุณ Make a Copy ได้เลย (คลิกที่ไฟล์นั้นแล้วจะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาให้คุณ Make a copy) หรือวิธีที่ง่ายกว่านั้นคือการ Transfer Ownership ให้กับคนในทีมก่อนที่คุณจะลบไฟล์ ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะเมื่อคุณไม่ใช่เจ้าของไฟล์แล้ว คุณลบไฟล์ออก ไฟล์จะถูกลบไปจาก Google Drive ของคุณคนเดียวเท่านั้น ต้องการลบไฟล์ทั้งหมดทำอย่างไร? เปิด Google Drive  ไปที่ ถังขยะ (Trash)  กดล้างข้อมูลในถังขยะ (Empty Trash) จากข้อมูลด้านบนจะเห็นได้ว่าการกู้คืนไฟล์หรือการล้างข้อมูลนั้นไม่ซับซ้อนเลย ด้วยระบบ Cloud...

Continue reading

“เริ่มจาก Gmail สู่ Google Workspace” TII สถาบันประกันภัยไทยเลือกใช้ Google Workspace เพื่อการทำงานที่สะดวกมากขึ้น

เกี่ยวกับ TII Thailand Insurance Institute (TII) หรือสถาบันประกันภัยไทย ก่อตั้งเมื่อพ.ศ. 2531 โดยมีเจตนารมณ์ที่จะสร้างสถาบันการศึกษาด้านการประกันภัยขึ้น เพื่อพัฒนาและส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการประกันภัยทุกประเภทแก่บุคลากรของธุรกิจประกันชีวิตและวินาศภัย รวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการประกันภัย ตลอดจนรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานแห่งวิชาชีพประกันภัย  ปัจจุบัน TII ให้บริการด้านการอบรมวิชาชีพประกันภัย สอบตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันภัย ต่อใบอนุญาตวิชาชีพ และบริการอื่น ๆ โดยในการทำกิจกรรมต่าง ๆ สถาบันได้มีการใช้บริการ Google Workspace กับบริษัท Demeter ICT เพื่อรองรับผู้เข้าอบรม/ผู้เข้าสอบจำนวนมากและเพื่อการทำงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ https://www.youtube.com/watch?v=RwKSlf6FvAE TIl นำ Google Workspace มาประยุกต์ใช้กับการทำงานได้อย่างไร? Gmail → ติดต่อประสานงานทั้งภายในและภายนอกสถาบัน (ผู้เข้าอบรม/ผู้เข้าสอบ และอื่น ๆ) เพื่อเสริมสร้างมาตรฐานและความปลอดภัยของสถาบันด้วยการใช้อีเมลโดเมน @tiins.com ซึ่งผู้ติดต่อสามารถมั่นใจและเชื่อถือได้Google Sheets → เก็บและจัดการรายชื่อผู้เข้าอบรม/ผู้เข้าสอบGoogle Drive → เก็บรวบรวมไฟล์ต่าง ๆ เช่น ไฟล์เอกสาร ไฟล์สเปรตชีท และไฟล์วิดีโอGoogle Forms → สร้างแบบทดสอบสำหรับใบประกอบวิชาชีพและแบบประเมินหลังเรียนGoogle Classroom → อัปโหลดสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น คลิปวิดีโอการสอน เอกสารประกอบการเรียน เพื่อให้ผู้เข้าอบรม/ผู้เข้าสอบสามารถเข้ามาทบทวนบทเรียนตามเวลาที่สะดวกได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งนี้ในแต่ละแอปพลิเคชันยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ อีกมากมายที่ช่วยสนับสนุนให้ทำการทำงานนั้นสะดวกและง่ายมากขึ้น เช่น การทำงานร่วมกันในไฟล์เดียวแบบ Real Time การแชร์เอกสารร่วมกัน การแชตภายในทีมหรือองค์กร และอื่น ๆ  ประสบการณ์ที่ได้จากการใช้งาน Google Workspace “เริ่มแรกจากการใช้งาน Gmail จนมาสู่การใช้งาน Google Workspace ในปัจจุบัน หลังจากที่ใช้งานแล้วรู้สึกว่าใช้งานง่ายและสะดวกมาก ๆ” จันทิมา วรรณเวก (ผู้จัดการบริหารหลักสูตรประกันวินาศภัย) “Google Workspace เป็นประโยชน์ ใช้งานง่าย สามารถทำงานร่วมกันได้ ไม่ว่าจะแชตหรือแชร์เอกสาร ก็สามารถใช้งานได้สะดวก” เพชรรัตน์...

Continue reading

Proplugin สร้าง Workflow การทำงานแบบออนไลน์และ On-cloud ด้วย Google Workspace

“Amplify your dream” -Proplugin Vision- เปลี่ยนความฝันให้เป็นความจริงกับบริษัทโปรปลั๊กอิน จำกัด ตัวแทนจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องเสียงและอุปกรณ์สำหรับ Content Creators  เพื่อเป็นการขยายความฝันให้กับคนมีฝัน ปัจจุบันบริษัทโปรปลั๊กอินมีสินค้ากว่า 4000 SKUs เพื่อเป็นทางเลือกที่หลากหลายให้กับคนมีฝันทุกประเภท อีกทั้งมีระบบ Ecosystem ที่จะช่วยเติมเต็มความฝันได้อย่างรวดเร็ว เช่น โรงเรียนสอนดนตรี คอร์สสอนโปรแกรมที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ทีมโปรดักชันจัดคอนเสิร์ต และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยในอนาคตบริษัทโปรปลั๊กอินมีแผนที่จะขยายเป็นบริษัทมหาชนโดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนการทำงานให้เป็นแบบ On-cloud ทั้งหมดด้วยซอฟต์แวร์ Google Workspace ซึ่งเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์ต่อการทำงานยุคใหม่อย่างมาก สนับสนุนการทำงานแบบออนไลน์ อัปเดตข้อมูลรวดเร็ว และสามารถเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกันได้ Proplugin’s Workflow by Google Workspace การวางแผนและนัดประชุมด้วย Google Calendar เริ่มจาก Google Calendar แอปพลิเคชันที่ทางโปรปลั๊กอินได้มีการใช้อยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการนัดประชุม การดูตารางงานต่าง ๆ การวางแผน การจองห้องประชุม และอื่น ๆ ซึ่งถือได้ว่า Google Calendar เป็นตัวช่วยสำคัญในการวางแผนการทำงานได้ดีเลยทีเดียว การเก็บข้อมูลด้วย Google Forms และ Google Sheets การเก็บข้อมูลประจำวันและการทำรายงานถือเป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับธุรกิจที่มีหน้าร้านอย่างโปรปลั๊กอิน เพราะจะทำให้บริษัทมีข้อมูลเพื่อที่จะมาใช้วิเคราะห์สำหรับแผนธุรกิจในปัจจุบันและอนาคต ด้วยเหตุผลนี้ Google Forms และ Google Sheets จึงได้ถูกนำมาใช้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลและทำรายงาน รวมไปถึงการทำแบบประเมินหรือแบบสอบถามอีกด้วย การสร้างจดหมายด้วย Google Docs บริษัทโปรปลั๊กอินใช้ Google Docs เพื่อออกจดหมายหรือร่างสัญญาต่าง ๆ ให้กับคู่ค้า การรวบรวมข้อมูลด้วย Google Drive Google Drive แหล่งรวบรวมไฟล์จากทุกแอปของ Google Workspace ที่โปรปลั๊กอินใช้เก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลไว้บน Cloud จะเห็นได้ว่า Google Workspace นั้นตอบโจทย์ต่อการทำงานได้อย่างหลากหลาย ปรับ Workflow...

Continue reading

4 วิธี เปลี่ยนแบรนด์ให้ยืนหนึ่งในหมวดธุรกิจค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซด้วย Zendesk

มีคำกล่าวเปรียบเทียบว่าการทำธุรกิจก็เหมือนกับการจับปลา ต้องมีการวางแผน หาเส้นทางเดินเรือ ทว่าแม้เส้นทางจะไม่ได้ราบรื่นโรยด้วยกลีบกุหลาบ หากเทียบกับยุคปัจจุบันแล้วก็ยังถือว่าง่ายกว่ามาก เพราะตอนนี้แม้ขนาดของมหาสมุทรจะยังคงเท่าเดิมแต่กลับเต็มไปด้วยเรือลำเล็กลำใหญ่มากมายลอยล่องอยู่เต็มทะเล ทั้งจุดหมายก็ยังเป็นปลาในแอ่งเดียวกัน คำว่า ‘ง่าย’ จึงแทบจะถูกลบออกไปจากนิยาม ดังนั้นสิ่งที่ควรทำในตอนนี้ก็คือการปรับเปลี่ยนแผนการขึ้นมาใหม่ จะต้องสร้างเรือที่เร็วกว่าใคร กระจายความเสี่ยงออกเรือแล่นไปตามแม่น้ำหลายสาย และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้ลูกค้าอยากที่จะจดจำแบรนด์ของเราและกลับมาซื้อซ้ำในบทความนี้เราจึงขอนำเสนอ 4 วิธี เปลี่ยนแบรนด์ให้ยืนหนึ่งในหมวดธุรกิจค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซด้วย Zendesk มาให้ทุกคนได้อ่านกัน ว่าแล้วก็มาเริ่มดูกันเลย 1. สร้างประสบการณ์ช็อปปิ้งที่ไร้รอยต่อ Seamless Shopping Experience หรือการสร้างประสบการณ์ช็อปปิ้งที่ไร้รอยต่อสำหรับลูกค้า ถือเป็นหนึ่งในเทรนด์ค้าปลีกที่มีบทบาทสำคัญและช่วยดึงศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจของแบรนด์ให้ดีขึ้น ซึ่งการสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นให้ลูกค้านี้ไม่ได้เป็นแค่กระแสชั่วคราวที่เข้ามาแล้วผ่านไปเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่ธุรกิจค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซสมควรต้องให้ความสำคัญตั้งแต่วันนี้ตลอดจนอนาคตข้างหน้า แบรนด์ธุรกิจในหมวดค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซหลายแห่งได้นำ Zendesk เข้ามาช่วยในการสร้างประสบการณ์ลูกค้า เพื่อให้เข้าใจง่ายเราจะขอสรุปเป็นข้อ ๆ ดังนี้ เชื่อมต่อช่องทางโซเชียลมีเดีย หน้าร้าน หรือช่องทางออนไลน์ให้มีข้อมูลที่ต่อเนื่องไร้รอยต่อ ทำให้ไม่ว่าลูกค้าจะติดต่อเข้ามาจากช่องไหนก็จะได้รับการตอบกลับที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมข้อมูลทุกส่วนของธุรกิจไม่ว่าจะเป็นประวัติการสั่งซื้อ สิ่งที่ลูกค้าถูกใจ รายละเอียดการชำระเงิน ทำให้พนักงานเข้าใจในสิ่งที่ลูกค้าต้องการและสร้างประสบการณ์ที่เฉพาะบุคคล (Personalized Experience) เชื่อมต่อ Zendesk กับแอปพลิเคชันที่มีให้เลือกกว่า 1,300 ตัวใน Zendesk Marketplace เพื่อสร้างระบบที่ยืดหยุ่น ตอบโจทย์ธุรกิจมากขึ้น “ไม่สำคัญแล้วว่าเจ้าหน้าที่จะต้องประจำการที่ไหน เพราะในตอนนี้เรามีเครื่องมือที่จะช่วยสนับสนุนลูกค้าได้ไม่ว่าเขาจะเป็นใครหรือมาจากไหนก็ตาม เราทำงานอย่างเป็นระบบมากขึ้นแล้วก็พยายามปรับใช้โมเดลที่ให้ลูกค้าคือศูนย์กลางอย่างแท้จริง และเราก็หวังว่าจะให้บริการพวกเขาได้อย่างดีและรวดเร็วที่สุด Mark Rizza, Head of Supply Chain at Accent Group 2. ใช้ AI อำนวยความสะดวก ไร้กังวลว่าลูกค้าจะติดต่อเข้ามานอกเวลาทำการแล้วต้องเสียโอกาสปิดการขายไปอย่างน่าเสียดายด้วยระบบ AI ช่วยในการตอบคำถาม ถึงตรงนี้คงมีหลายคนที่กังวลว่าการใช้ AI หรือบอทเข้ามาช่วยจะพาลทำให้ลูกค้าไม่อยากสนทนาต่อหรือเปล่า ทว่าหากมองไปยังธุรกิจขนาดใหญ่หลายแห่งที่ต้องรับเรื่องจากลูกค้าในปริมาณที่มากในแต่ละวัน เราจะเห็นว่าหลายแบรนด์ได้มีการนำ AI เข้ามาใช้ในการตอบคำถามกันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ในการบริการลูกค้ายุคใหม่เลยก็ว่าได้ จากสิ่งที่ไม่คุ้นเคยก็เริ่มกลายเป็นความเคยชิน นอกจากนี้หากออกแบบ AI ดี ๆ แทนที่จะต้องรอพนักงานอย่างเดียว การใช้บอทตอบคำถามก็เป็นอีกทางเลือกให้ลูกค้าได้รับการบริการที่รวดเร็วและสร้างความประทับใจได้ไม่แพ้กัน ใช้ Answer bot ของ Zendesk ร่วมกับ Help Center เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าในการหาคำตอบด้วยตนเอง...

Continue reading

พลิกโมเดลเปลี่ยนเกมธุรกิจ RETAIL สู่ยุคดิจิทัลด้วย Google Workspace

Agenda 10.00 – 10.05 น. Opening Speech 10.05 – 10.20 น. Session 1: Challenge the Big Step with the Business Remodel ปรับกลยุทธ์และเปิดมุมมองท้าทายความสำเร็จใหม่สำหรับธุรกิจกลุ่ม Retail ด้วย Technology involvement แค่เปลี่ยนความคิด ก็สามารถเนรมิตโมเดลธุรกิจเองได้ 10.20 – 10.50 น. Session 2: Transform your Future Inventory Management with a Better Digital Innovation tools by Google Workspace เผยเทคนิคการนำ Google Workspace ซอฟต์แวร์เพื่อการทำงานแบบ On-cloud เข้ามาช่วยจัดการและพัฒนา Workflow สำหรับการบริหารสินค้าคงคลังให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ข้อมูลอัปเดตแบบ Real-time และเชื่อมถึงกัน Workflow มีความรวดเร็ว สามารถลดขั้นตอนการทำงานได้  ตั้งค่าสิทธิ์การเข้าถึงต่าง ๆ เพื่อความเป็นส่วนตัว ประยุกต์ใช้ได้กับหลายทีมหรือสายงานแขนงอื่น ๆ 10.50 – 11.30 น. Session 3: Automate Effective Processes and Make it Beyond by AppSheet & Data Studio ยกระดับและต่อยอดการทำงานให้ธุรกิจได้เปรียบกว่าคู่แข่ง ด้วย AppSheet – แอปพลิเคชันที่สามารถดีไซน์กระบวนการทำงานให้เข้ากับธุรกิจได้แบบอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องมีทักษะด้านการเขียนโค้ดแต่อย่างใด ใคร ๆ ก็ทำได้ การทำ Data Visualization ให้ดูมืออาชีพ ด้วย Data...

Continue reading

พลิกโมเดลเปลี่ยนเกมธุรกิจ RETAIL สู่ยุคดิจิทัลด้วย Google Workspace

ในปัจจุบันธุรกิจกลุ่ม Retail ยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง ผู้คนมากมายต่างผันตัวหันมาเป็นผู้ประกอบการสำหรับธุรกิจกลุ่มนี้ เกิดบริษัทใหม่ คู่แข่งเพิ่ม ฉะนั้นแล้วการจะสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โมเดลทางธุรกิจ หัวใจสำคัญที่จะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับทุกธุรกิจจึงกลายมาเป็น Missing Piece ที่จะช่วยซ่อมแซม เติมเต็ม สร้างจุดแข็งและสร้างความได้เปรียบให้กับธุรกิจของท่านได้ ซึ่งสำหรับธุรกิจ Retail แล้ว นอกจากโมเดลธุรกิจที่ต้องนำหน้าคู่แข่ง การบริหารจัดการภายในองค์กรก็สำคัญไม่แพ้กัน จำนวนสต็อกสินค้ามีเท่าไหร่? การดำเนินงานเป็นอย่างไร? ข้อมูลแม่นยำและอัปเดตรวดเร็วแค่ไหน? ปัญหาเหล่านี้คงเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งเป็นแน่ แต่ทว่าผู้ประกอบการหลายท่านต่างเลือกที่จะเพิกเฉย ยังคงใช้วิธีเดิม ๆ ในการบริหาร มองข้ามปัญหาเหล่านี้ไปทั้งที่จริงแล้วสิ่งเหล่านี้คือตัวเปลี่ยนเกมครั้งสำคัญเลยก็ว่าได้…. ถึงเวลาแล้วที่ธุรกิจของท่านจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง เอาชนะคู่แข่งให้ได้ และก้าวตามยุคสมัยให้ทัน ดังนั้นหากท่านต้องการเป็นหนึ่งในนักธุรกิจ Retail ยุคใหม่ที่อยากจะเปลี่ยนเพื่อให้ได้เปรียบก่อนใคร มาร่วมงานสัมมนา “พลิกโมเดลเปลี่ยนเกมธุรกิจ RETAIL สู่ยุคดิจิทัลด้วย Google Workspace” ที่จะมาช่วยเปิดทางให้ท่านได้เปลี่ยนมุมมอง พลิกโมเดลเดิมสู่โมเดลใหม่ให้ล้ำหน้าคู่แข่งและมีความทันสมัย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ต่อยอดธุรกิจทั้งในเรื่องของโครงสร้างและกระบวนการบริหารภายในองค์กรเพื่อให้เป็นองค์กรที่สามารถทำงานได้อย่างชาญฉลาด อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไรได้อีกด้วย งานสัมมนาออนไลน์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ลงทะเบียนสำรองที่นั่ง What will you get? New Model ทำความเข้าใน Business Model แบบเดิมและแบบใหม่ Lower Cost โอกาสในการลดต้นทุนจากการลงทุนในซอฟต์แวร์แบบ Silo Opportunity เข้าใจถึงความสำคัญของการรู้จักใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์เพื่อเปิดโอกาสให้กับธุรกิจ Management เรียนรู้เทคนิคการลดต้นทุนและเพิ่มกำไรโดยการบริหารจัดการสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเครื่องมือจาก Google Workspace Being Digital ชี้หนทางสู่ความเป็นดิจิทัลด้วยการนำแอปพลิเคชันต่าง ๆ จาก Google Workspace มาช่วยสนับสนุนและต่อยอดธุรกิจให้ก้าวทันคู่แข่ง Automation เรียนรู้วิธีการสร้างกระบวนการแบบอัตโนมัติเพื่อการทำงานที่รวดเร็ว ทันสมัย และยืดหยุ่น รองรับการขยายตัวทางธุรกิจได้อยู่เสมอ Agenda 10.00 – 10.05 น. Opening Speech 10.05 – 10.20 น. Session 1: Challenge the Big Step with the...

Continue reading