Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

สรุป 10 Marketing Trends in 2024 จาก Forbes

โลกการตลาดกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุก ๆ ปี ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น และอื่น ๆ  อีกมากมาย ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อแนวทางการทำการตลาดทั้งสิ้น ซึ่งในปี 2024 นี้ ทาง Forbes ได้รวบรวม Marketing Trends ใหม่ ๆ รวมถึงเทรนด์ที่ยังคงได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน ๆ ในการช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจของคุณ และเป็นกลยุทธ์ที่นำไปใช้ได้จริงสำหรับธุรกิจ เพื่อรักษาความสามารถทางการแข่งขันในปี 2024 นี้ได้ จะมีอะไรบ้าง? ไปดูกัน! เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! 1. AI Marketing Automation การผสานเอา AI มาปรับเข้ากับการตลาดหรือที่เรียกว่า AI Marketing จะช่วยยกระดับวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล ปรับแต่งประสบการณ์ของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญการตลาดต่าง ๆ ของบริษัท ตัวอย่างเช่น แชทบอทรับส่งข้อความที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการโต้ตอบกับลูกค้าด้วยการมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัว (Personalization) ซึ่งช่วยสร้างการเชื่อมต่อกับลูกค้าที่แท้จริงมากขึ้น เท่ากับว่านักการตลาดในปี 2024 จะต้องมีทักษะด้าน AI Management ต้องเป็น AI Manager หรือ AI Director ทำหน้าที่บริหารจัดการ AI ในฐานะเป็นหัวหน้าของ AI เพื่อจัดการกระบวนการทำงานระหว่างมนุษย์กับ AI ให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด 2. Augmented Reality (AR) & Virtual Reality (VR) เทคโนโลยีสมจริงอย่าง AR และ VR ช่วยให้การเล่าเรื่องแบรนด์สมจริงมากยิ่งขึ้น และเพิ่มช่องทางการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค ในปี 2024 นี้ คาดหวังว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะประสานเข้ากับความพยายามทางการตลาดเชิงกลยุทธ์ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ร้านค้าแนวเทคโนโลยีสามารถยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าได้ และเพิ่มมูลค่าให้แก่แบรนด์ของพวกเขาได้โดยการเสนอประสบการณ์การลองใช้งานสินค้าแบบเสมือนจริงแก่ลูกค้า 3. Hyper-Personalization ด้วยความก้าวหน้าของ AI และการเรียนรู้ความสามารถของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ส่งผลให้นักการตลาดสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าจำนวนมากได้ และสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุงประสบการณ์และปรับแต่งเนื้อหาคอนเทนต์ แคมเปญการตลาด และออกแบบข้อเสนอให้กับลูกค้าได้ตรงใจมากยิ่งขึ้น เช่น มีลูกค้าชื่อว่า...

Continue reading

6 Steps สร้าง Data-Driven Marketing ให้ประสบความสำเร็จ

บทความก่อนหน้านี้เราได้พูดถึงนิยามของการทำ Data-Driven รวมถึงความสำคัญและข้อดีของการทำ Data-Driven Marketing ไปแล้ว ใครอยากอ่านบทความ ‘ไขกุญแจสู่ความสำเร็จ สร้างการตลาดที่ตรงใจลูกค้าด้วยกลยุทธ์ Data-Driven’ สามารถคลิก ที่นี่ ในวันนี้เราจะมาบอกขั้นตอนการสร้างกลยุทธ์ Data-Driven Marketing แบบ Step by Step ที่จะช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างแคมเปญการตลาดที่ตรงใจและยังช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จได้อีกด้วย ซึ่งการสร้างกลยุทธ์ Data-Driven Marketing มีด้วยกัน 6 ขั้นตอนดังนี้ เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! 1. การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data Culture) ก่อนอื่นการที่องค์กรจะสามารถสร้างกลยุทธ์ Data-Driven Marketing ได้นั้น สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับข้อมูล (Data-Driven Organization) ทุกคนในองค์กรต้องตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลและเห็นประโยชน์ของการใช้ข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจหรือกระบวนการทำงานต่าง ๆ การจะสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลนั้น ต้องได้รับการส่งเสริมจาก CEO หรือฝ่ายบริหาร ด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้และวิเคราะห์ข้อมูลในการทำงาน รวมถึงแสดงประสิทธิภาพของการทำ Data-Driven โดยอาจจะเริ่มจากสิ่งที่ทำได้ง่าย รวดเร็วและเห็นผลลัพธ์ได้เร็วที่สุด เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่าการขับเคลื่อนกระบวนการทำงานด้วยข้อมูลนั้นมีประโยชน์อย่างแท้จริง 2. การกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมาย (Data Objectives) การกำหนดวัตถุประสงค์ของการทำ Data-Driven Marketing เพื่อให้นักการตลาดทราบว่าเราต้องการใช้ข้อมูลอะไรบ้าง? และเราจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปทำอะไร? พร้อมกับการตั้งเป้าหมายและตัวชี้วัดประสิทธิภาพ (KPIs) เพื่อติดตามความคืบหน้าและประเมินความสำเร็จของการทำ Data-Driven Marketing ว่าตรงกับเป้าหมายที่องค์กรต้องการหรือไม่? ยิ่งเป็นการช่วยให้นักการตลาดสามารถทำงานได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยเป้าหมายของการใช้ Data-Driven Marketing สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ เป็นเป้าหมายระยะยาว เช่น การเพิ่มยอดขาย การเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ หรือการลดต้นทุนให้องค์กร เป้าหมายเชิงปฏิบัติการ เป็นเป้าหมายระยะสั้น เช่น การเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ การส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย หรือการกระตุ้นยอดขายจากแคมเปญการตลาด 3. การเก็บรวบรวมข้อมูล (Data Collection) การรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำ Data-Driven Marketing สามารถเก็บได้จากหลากหลายแหล่ง เช่น ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าที่เราเก็บมาเอง ข้อมูลจากเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ข้อมูลจากอีเมลหรือข้อความบนมือถือ ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย...

Continue reading

กลยุทธ์ Data-Driven สร้างการตลาดที่ตรงใจลูกค้า

ยุคดิจิทัลเป็นยุคที่ข้อมูลเข้ามามีบทบาทสำคัญและเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนธุรกิจในตอนนี้ (Data-Driven) ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไร? เล็กใหญ่แค่ไหน? คุณก็จำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลเพื่อมาประกอบการวางแผน การตัดสินใจและการดำเนินการบางสิ่งบางอย่างเพื่อให้ธุรกิจของคุณนั้นเติบโตขึ้น เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! Data-Driven คืออะไร ? Data-Driven (การขับเคลื่อนด้วยข้อมูล) คือ การทำหรือตัดสินใจบางสิ่งบางอย่าง โดยการอ้างอิงและวิเคราะห์จากข้อมูลเป็นหลัก เพื่อให้เราสามารถตัดสินใจหรือได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นนั่นเอง การที่ธุรกิจขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของลูกค้าเป็นหนึ่งสิ่งที่แสดงถึงความเอาใจใส่ลูกค้า เพราะว่าคุณให้ความสำคัญและพยายามที่จะเข้าใจลูกค้าของคุณว่าเขาต้องการอะไร ไม่เพียงแต่จะเป็นการเพิ่ม ROI ให้กับบริษัท แต่การทำ Data-Driven ยังช่วยให้ธุรกิจทำ Trend Forecasting ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย Data-Driven มีความสำคัญกับนักการตลาดอย่างไร ? Data-Driven เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นักการตลาดเลือกใช้ข้อมูลจากหลากหลายช่องทาง ทั้งข้อมูลที่ได้มาจากการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรงหรือผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมลูกค้าเชิงลึกและช่วยในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด รวมถึงการคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตหรือที่เรียกว่า Data-Driven Marketing นั่นเอง เพราะการที่นักการตลาดจะปล่อยแคมเปญการตลาดออกไปนั้น คงไม่ใช่ลองปล่อยไปก่อนแล้วค่อยมาดูว่าลูกค้าสนใจไหม? แต่ธุรกิจจะต้องศึกษาถึงพฤติกรรม ความต้องการ ปัญหาของลูกค้าของตัวเองให้ดีเสียก่อน ยิ่งถ้าคุณเป็นธุรกิจระดับกลางถึงใหญ่การจะปล่อยแคมเปญการตลาดออกไปสักชิ้น จะต้องใช้ทั้งเวลา แรงและเงินทุนที่มหาศาล ถ้าแคมเปญการตลาดนั้นไม่ตอบโจทย์ลูกค้า คุณอาจจะไม่ได้เสียแค่แรง เวลาและเงินทุนเพียงเท่านั้น แต่อาจจะสูญเสียลูกค้าคนสำคัญไปด้วย นี่คือสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าทำไมการทำ Data-Driven Marketing จึงมีความสำคัญกับนักการตลาดและธุรกิจของคุณ ข้อมูล Data-Driven Marketing มีอะไรบ้าง ? 1. ข้อมูลจากเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน (Web & Mobile App Analytics) คือ การวิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์และแอปพลิเคชันจากการติดตาม MAU (Monthly Active User) ว่ามีลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์หรือเข้าแอปของคุณต่อเดือนกี่คน และสามารถเจาะลึกลงไปได้ว่าลูกค้าของคุณมาจากช่องทางไหน หน้าเพจใดที่ลูกค้าใช้เวลามากที่สุด และเมื่อใดที่พวกเขาออกจากหน้าเว็บไซต์และแอปของคุณ 2. ข้อมูลจากอีเมลและข้อความบนมือถือ (Email & Mobile Messaging Analytics) คือ การเก็บข้อมูลลูกค้าจากการส่งข้อความโดยตรงถึงลูกค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการติดต่อกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพราะปรับแต่งข้อความให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น Email, Message หรือ Push Notification ที่จะช่วยระบุแนวโน้มความสนใจของลูกค้าได้จาก Open rates, Click-through rates, Conversion...

Continue reading

เจาะลึก Framework ของ Braze ซอฟต์แวร์ Martech หนึ่งเดียวที่ได้อยู่ใน Nasdaq

Braze แพลตฟอร์มการตลาด (Martech) แบบครบวงจรที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถสร้างประสบการณ์การมีส่วนร่วมของลูกค้า รวมถึงสร้างแคมเปญการตลาดแบบไร้รอยต่อได้ในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะบนมือถือ (แอป) เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย อีเมล ข้อความและอื่น ๆ ด้วยเครื่องมือและฟีเจอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทีมการตลาดโดยเฉพาะ ดังนั้นแคมเปญการตลาดของคุณจะมีประสิทธิภาพและเพิ่มการมีส่วนร่วมกับลูกค้าของคุณได้ดียิ่งขึ้น โดยในบทความนี้เราจะพาทุกท่านมาเจาะลึกถึงกระบวนการทำงาน Marketing Journey Framework ของ Braze ว่ามีกระบวนการทำงานอย่างไร? และจะช่วยตอบโจทย์การทำงานของทีมการตลาดอย่างไรได้บ้างแบบ Step by step แพลตฟอร์ม Braze จะแบ่ง Marketing Journey ของลูกค้าเป็น 3 ส่วน ด้วยกัน ได้แก่ https://www.dmit.co.th/wp-content/uploads/2022/11/Screen-Recording-2565-11-23-at-09.56.56-1.mov 1. Listen (รับฟังข้อมูลลูกค้า) รับฟังข้อมูลลูกค้าพร้อมสร้างฐานข้อมูล First Party Data ที่มาจากธุรกิจของคุณเองโดยตรง ซึ่งสามารถติดตามและเก็บข้อมูลของลูกค้าได้จากทุกช่องทาง ไม่ว่าจะบนมือถือ (แอป) เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย อีเมล และอื่น ๆ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าแต่ละคนได้แบบเรียลไทม์ Integrations : ผสานฐานข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ ที่คุณมารวมไว้ในที่เดียวและสามารถแชร์ข้อมูลระหว่างแพลตฟอร์มกันได้อย่างอิสระ APIs และ SDKs : ช่วยในการติดตามและรวบรวมข้อมูลของลูกค้าขณะเวลาใช้งานแบบเรียลไทม์และเชื่อมต่อข้อมูลลูกค้ากับแพลตฟอร์มที่ใช้งานอยู่ 2. Understand (ทำความเข้าใจลูกค้า) นำข้อมูลจากฐานข้อมูล First Party Data ที่เราเก็บมาวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าและความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทีมการตลาดสามารถสร้างแคมเปญการตลาดที่ใช่และตรงใจลูกค้ามากที่สุด Dynamic Segmentation : สามารถแบ่งและจัดกลุ่มลูกค้าอัตโนมัติโดยอิงจากฐานข้อมูล เพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าที่มีคุณสมบัติหรือพฤติกรรมที่เหมือนกัน โดยใช้เกณฑ์ต่าง ๆ ที่คุณสามารถกำหนดได้เอง Journey Orchestration (Canvas Flow) : ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ทีมการตลาดสร้างและออกแบบแคมเปญการตลาดแบบอัตโนมัติตาม Customer Journey ได้แบบง่าย ๆ ใน ในรูปแบบของ Multi-Channel Campaign พร้อมทั้งยังมีฟีเจอร์ที่ทีมการตลาดต้องการอย่าง A/B Testing...

Continue reading

สำเร็จ! แพลตฟอร์ม Braze ได้อันดับ 1 ในหมวดการสร้าง Push Notification จาก G2

G2 เว็บไซต์ Software Marketplace ชื่อดังที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนผู้เข้าชมกว่า 80 ล้านคนต่อปี ไม่ว่าจะเป็นพนักงานจากบริษัทชั้นนำในลิสต์ Fortune Global 500 หรือผู้ที่กำลังมองหาซอฟต์แวร์ที่จะมาทรานสฟอร์มกระบวนการทำงานในองค์กรส่วนใหญ่มักจะเลือกเว็บไซต์ G2 ในการดูรีวิวประกอบการตัดสินใจ ภาพจาก www.G2.com แพลตฟอร์ม Braze ได้ถูกเสนอชื่อในรายการ Grid® Report for Push Notification Software | Fall 2023 และได้รับอันดับที่ 1 จาก 42 แพลตฟอร์ม ให้เป็นผู้นำของแพลตฟอร์มด้านการสร้าง Push Notification จากรายการดังนี้ ได้รับคะแนนความพึงพอใจของลูกค้า 100/100 ในการสร้าง Push Notification สูง มีส่วนแบ่งตลาดขนาดใหญ่ที่สุด ผู้ใช้งานกว่า 97% ในคะแนนแพลตฟอร์ม Braze 4 หรือ 5 ดาวขึ้นไป ผู้ใช้งานกว่า 93% เชื่อว่าแพลตฟอร์ม Braze มาถูกทางแล้ว ผู้ใช้งานกว่า 90% มีแนวโน้มที่จะแนะนำแพลตฟอร์ม Braze ให้กับผู้อื่น นอกจากนี้แพลตฟอร์ม Braze ยังอยู่ในหมวดการสร้างการตลาดบนมือถือ (Mobile Marketing), การตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation) และ เครื่องมือปรับแต่งเฉพาะบุคคล (Personalization) ภาพจาก www.G2.com มองหา Braze นึกถึง Demeter ICT Demeter ICT พาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Braze อย่างเป็นทางการในประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิก (APAC) เราไม่เพียงแต่จะให้บริการ License ของตัวระบบกับคุณเพียงเท่านั้น เรายังมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการ Training และมีใบ Certificate ในการให้คำปรึกษา ช่วยออกแบบกลยุทธ์ ตั้งค่าระบบ อบรมการใช้งาน รวมถึงการออกใบกำกับภาษีและส่วนของบัญชีต่าง...

Continue reading

AI Marketing ยกระดับกลยุทธ์การตลาดจากปัญญาประดิษฐ์

AI (Artificial Intelligence) หรือที่ภาษาไทยเรียกว่า ‘ปัญญาประดิษฐ์’ เป็นสิ่งผู้คนกำลังให้ความสนใจและค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์ เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ถูกพัฒนาให้สามารถให้เหตุผล เรียนรู้ และดำเนินการได้ด้วยตนเอง ทำให้ AI เข้ามามีบทบาทอย่างมากในเรื่องของการทำงาน การช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ มากมาย และหนึ่งในนั้นคือ AI ที่ช่วยในด้านการทำการตลาด ที่เรียกว่า AI Marketing นั่นเอง AI Marketing คืออะไร? AI Marketing คือ การนำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาประยุกต์ใช้กับการทำการตลาดและช่วยในการตัดสินใจตั้งแต่เรื่องง่าย ๆ ไปจนถึงเรื่องที่ซับซ้อน โดยอิงจากการรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการสังเกตกลุ่มเป้าหมายหรือแนวโน้มทางเศรษฐกิจในรูปแบบต่าง ๆ AI Marketing ยังช่วยวิเคราะห์ผลลัพธ์และเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญการตลาด โดยการเก็บข้อมูลจากแคมเปญการตลาดที่เราส่งออกไปหาลูกค้า เช่น การปรับแต่งข้อความให้เหมาะสม การเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับแคมเปญการตลาด การคาดการณ์พฤติกรรมของลูกค้า ช่วยให้นักการตลาดประหยัดเวลาในบางส่วนลงและบรรลุเป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น AI Marketing สามารถช่วยขับเคลื่อนการตลาดส่วนไหนได้บ้าง? จากผลสำรวจคาดการณ์ว่า AI จะช่วยขับเคลื่อนการตลาดและเศรษฐกิจโลกโดยรวม 45% ภายในปี 2030 ซึ่งสามารถขับเคลื่อนได้หลายวิธี จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน! 1. Personalization (การปรับแต่งที่เฉพาะตัว) AI สามารถปรับแต่งข้อความทางการตลาด เนื้อหา และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย (Personalized) ซึ่งสามารถทำได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เช่น ประวัติการซื้อสินค้าในอดีต พฤติกรรมบนเว็บไซต์และกิจกรรมต่าง ๆ บนโซเชียลมีเดีย 2. Automation (การทำงานอัตโนมัติ) AI สามารถสร้างกระบวนการทำงานของการตลาดแบบอัตโนมัติ (Marketing Automation) ได้หลายอย่าง เช่น การตลาดผ่านอีเมล (Email Marketing), การตลาดบนช่องทางโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing) รวมถึง การจัดการโฆษณา (Ad Management) ซึ่งสามารถช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นให้กับทีมการตลาด โดยไปมุ่งเน้นกับการสร้างกลยุทธ์เชิงรุกมากขึ้น 3. Prediction (การทำนาย) AI สามารถใช้เพื่อทำนายพฤติกรรมและระบุแนวโน้มของลูกค้าจากการเก็บข้อมูลโดยรวมทั้งหมด...

Continue reading

Get Real with Braze Bangkok 2023

Braze จับมือกับ DEMETER ICT จัดงานสัมมนาสุดยิ่งใหญ่! มุ่งบุกขยายฐานลูกค้าในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จบลงไปแล้วกับงานสัมมนาสุด Exclusive! อย่าง Get Real With Braze Bangkok 2023 ที่ทาง Braze และ DEMETER ICT ได้ร่วมกันจัดขึ้นในวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ โรงแรม Park Hyatt Bangkok โดยในงานนี้มีเหล่านักธุรกิจ, CEO, CMO, Head of Marketing และ Marketing Manager ชั้นนำของประเทศไทยเข้าร่วมกว่า 240 ท่าน+ ภายในงาน ‘Get Real with Braze Bangkok 2023’ ได้มีการเชิญลูกค้าของ Braze ในประเทศไทยอย่าง NocNoc, TrueMoney, Pomelo และ Robinhood รวมถึง Sponsors อย่าง Twilio Segment, Verticurl และ Appflyers มาร่วมกันแชร์กลยุทธ์และประสบการณ์ในการออกแบบการสร้าง Engagement และ CX อย่างสร้างสรรค์ให้กับลูกค้าสำหรับธุรกิจระดับ Enterprise ให้ทุกท่านได้ฟังกัน คุณ Pui Seng Lee (Head of Growth, TrueMoney) และคุณ Anupong Tasaduak (Chief Commercial Officer, NocNoc) บรรยายในหัวข้อแรก ‘Getting Creative with CRM and Growth Strategies’ คุณ Kanit L (Principle Consultant of...

Continue reading

ถอดรหัสธุรกิจ NocNoc เพิ่ม Conversion Rate ถึง 207% ด้วยการสร้างการมีส่วนร่วมข้ามช่องทาง

NocNoc ธุรกิจอีคอมเมิร์ซชั้นนำของประเทศไทยสำหรับคนรักบ้าน ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังเปิดตัวในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา NocNoc ตอบโจทย์ทุกความต้องการสำหรับคนชอบแต่งบ้าน ทั้งซื้อวัสดุก่อสร้าง มองหาเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ๆ ไอเดียของตกแต่งบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบครบวงจร ที่คุณสามารถหาได้ครบจบในที่เดียว ภาพจากเว็บไซต์ urbancreature ปี 2566 นี้ NocNoc ยังคงเดินหน้าสร้างแบรนด์และความสัมพันธ์ของลูกค้าให้แข็งแกร่ง ด้วยการสร้างประสบการณ์ในการแต่งบ้านในสไตล์ที่ใช่ ด้วยระบบ AI ที่ช่วยค้นหาเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้านได้ตรงใจ และการนำเครื่องมือ Martech อย่าง Braze มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์ทางการตลาดให้ Personalized กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น NocNoc มีวิธีการอย่างไร? ไปดูกัน! ปัญหาของ NocNoc NocNoc ต้องการปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพของข้อความที่ส่งหาลูกค้าให้มีความเฉพาะตัว (Personalized) พร้อมกับการส่งข้อความแบบอัตโนมัติ Real-time และสามารถรองรับทุกช่องทางที่ลูกค้ามี (Cross-Channel Solution) โดยพิจารณาจากสถานการณ์ การเดินทางและวงจรชีวิตของลูกค้าแต่ละคน กลยุทธ์ที่ทำร่วมกับ Braze ส่งข้อความที่มีความ Personalized เฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับแต่ละแคมเปญในทุกช่องทางไม่ว่าลูกค้าจะอยู่บนเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย ด้วยการเข้าถึงการเก็บข้อมูลพฤติกรรมและวงจรชีวิตของลูกค้าได้แบบ Real-time ของแพลตฟอร์ม Braze ทำให้ NocNoc สามารถจัดการและแบ่งกลุ่มลูกค้าตาม Segmentation เพื่อส่งข้อความ (เช่น แนะนำสินค้า โปรโมชัน และอื่น ๆ) ที่เหมาะสมและตอบโจทย์กับลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ในสถานการณ์ที่ใช่และในเวลาที่เหมาะสม ผลลัพธ์หลังจากใช้ Braze นับตั้งแต่ที่ NocNoc เริ่มมีการแบ่งกลุ่มลูกค้าตาม Segmentation ที่ต้องการและส่งข้อความที่มีความ Personalized แบบอัตโนมัติไปหาลูกค้ายังช่องทางต่าง ๆ ส่งผลให้ NocNoc มี Conversion Rate เพิ่มสูงขึ้นกว่า 207% และเพิ่มมูลค่าคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่ได้รับการดูแลบริหารจัดการ (CRM) ได้ถึง 30% ก่อนที่ NocNoc จะมาใช้ Braze ช่องทางการตลาดของ NocNoc จำกัดอยู่ที่การส่งอีเมล เพื่อสร้างการเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทเพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตามทีมการตลาดรู้สึกตระหนักถึงโอกาสในการเติบโตโดยการวิเคราะห์ KPIs และประสิทธิภาพของทีมการตลาด...

Continue reading

Personalized Marketing การตลาดที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

มีผลสำรวจจาก Mckinsey & Company Report ออกมาว่าการทำการตลาดแบบ Personalized Marketing ส่งผลให้ลูกค้าถึง 78% มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าหลังจากได้รับคำแนะนำแบบเฉพาะตัว และกว่า 80% จะแนะนำแบรนด์ที่สร้างความ Personalized ให้กับครอบครัวและคนรู้จักของพวกเขา แล้วคุณรู้จักการทำการตลาดแบบ Personalized Marketing ดีแล้วหรือยัง? บทความนี้จะพาคุณมารู้จักกับคำว่า Personalized Marketing ให้ดียิ่งขึ้น เริ่มจาก.. กลยุทธ์ Personalized Marketing คืออะไร? การทำการตลาดแบบ Personalized Marketing หรือ Personalization คือ การตลาดแบบเฉพาะบุคคลที่ขับเคลื่อนด้วยการรวบรวมข้อมูล โดยนำข้อมูลมาวิเคราะห์และกำหนดกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าของคุณ เพื่อให้นักการตลาดสามารถมอบประสบการณ์ทางการตลาดที่ตรงใจและเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่มมากที่สุด การทำการตลาดแบบ Personalized Marketing ไม่เพียงเป็นเครื่องมือที่ช่วยทีมการตลาดเท่านั้น แต่ยังช่วยธุรกิจในการลดต้นทุนในด้านการตลาดโดยไม่ต้องเสียเงินไปกับการตลาดที่ไม่ได้ผลและไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และยังช่วยลดโอกาสในการสูญเสียลูกค้าไปอีกด้วย จากผลสำรวจพบว่ากว่า 63% ของลูกค้ารู้สึกรำคาญและเบื่อหน่ายการตลาดที่นำเสนอข้อความโฆษณาแบบซ้ำ ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง แต่การที่ธุรกิจจะทำ Personalized Marketing ได้นั้น จำเป็นที่จะต้องมีเครื่องมืออย่าง Martech เข้ามาช่วย เพราะถ้าให้ทีมการตลาดมาจัดการ Monitor ข้อมูลลูกค้าแต่ละคนคงเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งแพลตฟอร์ม Braze ก็เป็นหนึ่งใน Martech Platform ที่สามารถช่วยให้คุณทำ Personalized Marketing ง่ายดายยิ่งขึ้น การทำการตลาดแบบ Personalized Marketing มีกี่ประเภท? การทำการตลาดแบบ Personalized Marketing มีทั้งหมด 4 ประเภทดังนี้  Segmentation (การแบ่งกลุ่มลูกค้า)  1-1 Product Recommendation (การแนะนำสินค้าแบบ 1-1)  Dynamic Content (การปรับคอนเทนต์ให้เหมาะสม)  Personalized Email Marketing (อีเมลการตลาดที่เฉพาะตัว) 1. Segmentation (การแบ่งกลุ่มลูกค้า) การแบ่งกลุ่มของลูกค้าออกเป็นหลาย ๆ...

Continue reading