Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

Best Practice ลดต้นทุนธุรกิจและยกระดับประสบการณ์ลูกค้าด้วยเอไอ (ARTIFICIAL INTELLIGENCE)

ทุกวันนี้หากจะมีเทคโนโลยีที่กำลังมาแรงจนไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คงเป็นเรื่องของเทคโนโลยีเอไอ (AI: Artificial Intelligence) ไม่ว่าจะเป็น ChatGPT เครื่องมือประมวลภาษาที่ช่วยให้เราสนทนากับแชทบอทได้เหมือนแชทคุยกับเพื่อน หรือการใช้เอไอในการสร้างรูปภาพ ที่ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าประทับใจมากทีเดียว

สิ่งเหล่านี้ตอกย้ำว่าแม้แต่ในเสี้ยวนาทีที่คุณกำลังอ่านบทความนี้ โลกธุรกิจก็กำลังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นอยู่ตลอดเวลา

จากรายงาน CX Trends 2023 ของ Zendesk สองในสามของผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเอไอจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยธุรกิจลดต้นทุน

ในบทความนี้ เราจึงขอแชร์กลวิธีในการใช้เอไอลดต้นทุนและยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้ทุกคนได้อ่านกัน

1. ลดต้นทุน โดยที่ยังมอบการบริการที่ดีเยี่ยม

ai

งบจำกัด พนักงานน้อย มักเท่ากับว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าต้องรับศึกหนัก และยิ่งถ้าไม่มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพใช้ ก็ยิ่งเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดและนำไปสู่ประสบการณ์ลูกค้าที่ย่ำแย่

ถึงอย่างนั้นปัญหานี้ก็ไม่จบลงแค่การหาบอทสักตัวมาใช้ จากการสำรวจพบว่าผู้บริโภคหลายคนคุ้นชินกับการคุยกับบอท ทว่าความรู้สึกหลังจากนั้นมักค่อนไปทางติดลบเสียส่วนใหญ่ ทั้งนี้ก็เพราะบอทมีการตอบกลับที่ย่ำแย่ ส่งมอบข้อมูลผิด ๆ และสำคัญเลยคือขาดความสามารถในการให้ผู้บริโภคเข้าถึงเจ้าหน้าที่

“เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับแบรนด์ที่จะมอบการตอบกลับที่ถูกต้องแม่นยำ รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรส่งต่อเคสให้กับเจ้าหน้าที่ ChatGPT ทำได้ดีเพราะสามารถสนทนาเหมือนแชทกับเพื่อนก็จริง แต่มันก็ไม่มีข้อมูลที่จะตอบคำถามที่เฉพาะเจาะจงของแบรนด์ นี่เองที่เป็นปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าที่ต้องการข้อมูลที่ถูกต้อง” – Cristina Fonseca, Vice President, Product, Zendesk

แล้วเอไอจะช่วยลดต้นทุนตรงส่วนนี้ได้อย่างไร?

แชทบอทที่ดีจะต้องรับมือกับการติดต่อที่มีความซับซ้อนไม่มากได้ และสามารถเชื่อมต่อลูกค้าไปยังเจ้าหน้าที่ได้เมื่อจำเป็น ตรงจุดนี้เองที่จะช่วยให้เจ้าหน้าที่มีเวลาไปมุ่งเน้นกับการสร้างปฏิสัมพันธ์ของลูกค้าที่จะนำไปสู่การเพิ่มรายได้ หรือการซื้อซ้ำ (Retention) ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

นอกจากนี้แชทบอทก็ควรที่จะเชื่อมต่อกับระบบหลังบ้าน เช่น ระบบ Knowledge Base, E-Commerce Platform หรือระบบจัดการงานต่าง ๆ และควรจะใช้งานได้ในช่องทางส่งข้อความ อีเมล โซเชียลมีเดีย หรือกระทั่งดำเนินงานที่ซับซ้อนอย่างช่วยให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้า ชำระเงิน คืนสินค้าจากในแชทได้ด้วยตนเอง 

ซึ่ง Zendesk ในฐานะที่เป็น CX Platform ชั้นนำเองก็มีโซลูชันที่ช่วยให้การทำสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องง่ายดาย ไม่ต้องใช้โค้ด อย่างโซลูชัน Zendesk Sunshine Conversations แพลตฟอร์ม API ที่เป็นเหมือนปลั๊คพ่วงซอฟต์แวร์ เชื่อมต่อช่องทางการติดต่อลูกค้ากับระบบหลังบ้านของคุณ เพื่อสร้างประสบการณ์สนทนาที่ไร้รอยต่ออย่างแท้จริง

ตัวอย่างลูกค้าของ Zendesk ที่ใช้บอทลดค่าใช้จ่าย

Handy ใช้ Zendesk สร้างระบบ Knowledge Base เพื่อให้ลูกค้าบริการตนเอง ผลคือสามารถลดปริมาณ Ticket (ปริมาณการติดต่อใน Zendesk) ได้ 33% และลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 60% จากการใช้ระบบอัตโนมัติในการให้ข้อมูลลูกค้า ช่วยประหยัดเวลาพนักงานให้ไปมุ่งเน้นยังเรื่องที่สามารถเพิ่มรายได้ได้มากกว่า

2. พนักงานเท่าเดิม แต่ประสิทธิภาพงานดีขึ้น

บริษัทที่มีพนักงาน 1 - 250 คน

สำหรับบริษัทที่มีพนักงานฝ่ายบริการลูกค้าไม่กี่คน โซลูชันอย่าง Zendesk ที่เป็น Out of the box แพลตฟอร์ม ใช้งานได้ทันทีแบบไม่ซับซ้อน สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการตั้งค่าระบบได้

หากบริษัทมีระบบจัดการฐานความรู้ (Knowledge Management) เสริมพลังด้วยการนำเอไอเข้ามาช่วย ก็จะช่วยลดปริมาณ Ticket ที่ลูกค้าติดต่อเข้ามาเพื่อถามคำถามที่พบบ่อย และยังสามารถใช้บอทในการส่งต่อเคสไปยังพนักงานเมื่อจำเป็นได้

บริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 250 คน

บริษัทขนาดใหญ่มีปริมาณข้อมูลที่มหาศาล ทว่าก็มักตามมาด้วยการทำงานแบบไซโลหรือการทำงานแยกส่วน ตัวใครตัวมัน เพราะเป็นการยากที่พนักงานจะเข้าถึงข้อมูลทุกภาคส่วนของบริษัท นี่เองเป็นเหตุที่นำไปสู่ประสบการณ์พนักงานและประสบการณ์ลูกค้าที่ย่ำแย่ได้

ตรงนี้เอง Zendesk ก็มีระบบ Agent Workspace พื้นที่ตรงกลางสำหรับทำงานร่วมกันและสามารถเชื่อมเข้ากับระบบทั้งหมดของธุรกิจ ให้พนักงานเห็นภาพลูกค้าชัดเจนขึ้นว่าเคยติดต่อเรื่องอะไร หรือเคยมีประวัติความสนใจด้านใดมาก่อน

กุญแจสำคัญเลยก็คือการเลือกเครื่องมือ อย่างระบบ Omnichannel ที่ชาญฉลาด ระบบ Macros ที่ช่วยให้ส่งต่อเรื่องได้เร็วขึ้น และฝึกเอไอให้เรียนรู้และประมวลผลได้แม่นยำขึ้นตามเวลา

ตัวอย่างจากลูกค้าของ Zendesk

LE TOTE เพิ่มประสิทธิภาพพนักงานได้ถึงสามเท่า และยังมีอัตราการเติบโตสูงถึง 50% ต่อเดือนหลังใช้ Zendesk CX Platform สร้างระบบในการเพิ่มปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าแบบอัตโนมัติ

3. แม้โลกจะเปลี่ยนอย่างไร ธุรกิจก็ยังยืดหยุ่น

ในแง่เรื่องความมั่นคงของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคงราคาสินค้าหรือบริการให้เท่าเดิม หรือลดค่าใช้จ่ายองค์กรต่างก็เป็นเรื่องน่าปวดหัว ยิ่งถ้าคุณมีงบประมาณที่จำกัด หากจะทุ่มเงินลงทุนเทคโนโลยีทุกตัวที่เข้าสู่ตลาดแล้วใครต่อใครบอกกันว่าดีก็คงไม่ใช่ อีกทั้งระบบงานที่ซับซ้อนขึ้นยังทำให้พนักงานต้องเสียเวลามากขึ้น และนำไปสู่การเติบโตของธุรกิจที่ช้าลง

เครื่องมือที่มีคุณสมบัติด้านความยืดหยุ่น พร้อมปรับขยายตามการเติบโตขององค์กรจึงสำคัญมาก อย่างในเรื่องของเอไอนี้ก็เช่นเดียวกัน 

CX Platform ที่เสริมพลังด้วยเอไอควรจะใช้งานได้ยืดหยุ่น พร้อมต่อการปรับเปลี่ยน ปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของธุรกิจได้ สร้างระบบเวิร์คโฟลว์อัตโนมัติที่ช่วยให้พนักงานทำงานง่ายขึ้น และควรจะนำเสนอข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ให้องค์กรรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงและพร้อมปรับตัวอยู่เสมอ

ตัวอย่างจากลูกค้าของ Zendesk

Tile ใช้ระบบเอไออัจฉริยะในการช่วยเหลือลูกค้าให้เร็วขึ้น นำไปสู่ผลลัพธ์เรื่อง Conversion ที่เพิ่มขึ้นและลดระยะเวลาในการบริการต่อคนถึง 40%

รู้ไหม? Zendesk เองก็มี Zendesk AI เหมือนกันนะ

แม้จะยังไม่อัปเดตฟีเจอร์อย่างเป็นทางการแต่ Zendesk ก็ได้เกริ่นอยู่บ่อยครั้งถึงเรื่องของ Zendesk AI ตัวช่วยที่จะให้พนักงานทำงานง่ายขึ้น และด้านธุรกิจก็สามารถนำมาปรับใช้ในการเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทได้เช่นเดียวกัน อดใจอีกเล็กน้อย Demeter ICT ผู้ให้บริการ Zendesk ในไทยและ APAC จะไม่พลาดนำเรื่องนี้มาอัปเดตแน่นอน

Suggested For You

  1. ทำความรู้จัก Zendesk ซอฟต์แวร์สร้างประสบการณ์ลูกค้าที่มาแรงสุดในตอนนี้
  2. สรุป CX Trends 2023 ที่ธุรกิจไม่ควรพลาด มีอะไรบ้าง มาดูกัน!
  3. ปรึกษา CX Transformation กับทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเรา คลิก
  4. ลงทะเบียนรับชมเดโม Zendesk  บรรยายภาษาไทย

ซอฟต์แวร์เพื่อการบริการ ขาย และเชื่อมต่อข้อมูลสำหรับทุกธุรกิจ

บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด - Your Business Transformation Partner

ผู้ให้บริการ Zendesk ระดับ Premier Partner ในประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิกอย่างเป็นทางการ

LINE : @dmit